ผู้จัดการรายวัน360- กรธ.เตรียมจัดวิทยากรลงพื้นที่ ชี้แจงร่างรธน. ห่วงปัญหารัฐบาลคสช.กำลังจัดการกับกลุ่มต้าน จะส่งผลให้ประชาชนไม่สนใจเนื้อหา ร่างรธน. และส่งผลกระทบกับการออกเสียงประชามติ แนะต้องอดทน อยู่ในบทบาทของกรรมการ อย่าลงไปเป็นคู่ขัดแย้งเหมือนที่กำลังเป็นอยู่ "ญาติวีรชน35" เตือน คสช.ระวัง "พฤษภาทมิฬ ภาค2" ใช้อำนาจบีบผู้เห็นต่าง-ผลักมิตรเป็นศัตรู
นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการจัดการฝึกอบรมวิทยากรกระบวนการ (ครู ก) ในการเผยแพร่ร่างรธน.ว่า สัปดาห์หน้าทางหน่วยงานของผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด จะคัดเลือกตัวแทนเข้ามาเป็นวิทยากร หลังจากนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ได้ทำหนังสือไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เพื่อให้การคุ้มครองและรับรองว่าบุคคลที่ถูกคัดเลือกและทำงานให้กับกรธ. จะปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยไม่เข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 โดยการคัดเลือกกรธ. ได้กำชับว่าต้องมีคุณสมบัติ คือ เป็นที่เคารพของบุคคลทั่วไป , เป็นกลาง , มีทักษะในการพูดคุย และมีเวลา เพื่อจะได้คนทำงานที่ไม่เป็นปัญหา ทั้งนี้ ตามแผนนั้น กรธ.จะลงพื้นที่ 107 หมู่บ้านใน 27 จังหวัด
นายชาติชาย ยังกล่าวถึงความเคลื่อนไหวทางการเมือง และข้อขัดแย้งของผู้ที่เห็นต่าง ซึ่งกำลังถูกรัฐบาลดำเนินการตามกฎหมายว่า มีผลกระทบต่อความสนใจของประชาชน ต่อการรับทราบในเนื้อหาของร่างรธน. และอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจในการออกเสียงประชามติร่างรธน.ได้ ดังนั้น เพื่อไม่ให้การออกเสียงประชามติสูญเปล่า และประชาชนไปใช้สิทธิด้วยอารมณ์ รัฐบาลชุดปัจจุบันต้องอดทน และอยู่ในบทบาทของกรรมการ ไม่ใช่ลงไปเป็นคู่ขัดแย้งเหมือนที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน
ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งให้ทุกจังหวัด จัดตั้งศูนย์สนับสนุนการเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ในระดับจังหวัด และอำเภอ และให้คัดเลือกวิทยากร (ครู ก) ระดับจังหวัดๆ ละ 5 คน เพื่อเข้ารับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น โดยการคัดเลือกครู ก จะคัดจาก หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด หรือข้าราชการที่มีคุณสมบัติเหมาะสม โดยมีองค์ประกอบคือ 1. รอง ผวจ. หรือปลัดจังหวัด 2. ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่หรือผู้แทน 3. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด หรือผู้แทน 4. ศึกษาธิการจังหวัดหรือผู้แทน 5. หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดหรือข้าราชการที่ ผวจ.เห็นสมควรโดยจะมีการจัดอบรมวิทยากรระดับจังหวัด (ครู ก) วันที่ 18 - 19 พ.ค.นี้ อบรมวิทยากรระดับอำเภอ (ครู ข) จำนวน 878 อำเภอ ๆ ละ 10 คน รวม 8,780 คน วันที่ 30 พ.ค. - 10 มิ.ย.59 และ อบรมวิทยากรระดับหมู่บ้าน/ชุมชน 80,491 แห่ง ๆ ละ 4 คน รวม 321,964 คน วันที่ 11 - 30 มิ.ย.59 จากนั้นวิทยากรทุกระดับจะร่วมกันลงพื้นที่ให้ความรู้ประชาชนอย่างใกล้ชิด ช่วงวันที่ 1 - 20 ก.ค.59
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติร่างรธน.ว่า การแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับร่างรธน. ถือเป็นเรื่องปกติ คสช.และกกต. จึงไม่ควรไปควบคุม จับกุมคนที่เห็นต่าง จะเป็นการแปลเจตนารมย์ของประชามติผิดเพี้ยนไป
“การที่คสช.เที่ยวควบคุมบุคคลต่างๆ โดยอ้างความมั่นคง ล้วนเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และไร้สาระมาก เพราะการแสดงออกถึงจุดยืนต่อร่างรธน. ไม่มีผลกระทบต่อประชามติ และความมั่นคง เพราะประชาชนไม่ได้โง่ ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกแบบนี้ คงไม่มีใครอยากล้มรัฐบาลแล้วมาบริหารประเทศแทน แต่ประชาชนเขาอยากให้ปฏิรูปให้แล้วเสร็จก่อนเลือกตั้ง ขจัดความเหลือมล้ำ ล้างทุจริตคอร์รัปชั่น ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่ถูกกล่าวหาว่า 2 มาตรฐาน เพื่อให้เกิดความสามัคคีปรองดองแก่คนในชาติ แต่ คสช.กลับจะสืบทอดอำนาจไปอีก ผิดคำประกาศตอนยึดอำนาจ จึงเป็นห่วงว่าจะซ้ำรอยประวัติศาสตร์ในเหตุการณ์พฤษภา’35”
นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการจัดการฝึกอบรมวิทยากรกระบวนการ (ครู ก) ในการเผยแพร่ร่างรธน.ว่า สัปดาห์หน้าทางหน่วยงานของผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด จะคัดเลือกตัวแทนเข้ามาเป็นวิทยากร หลังจากนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ได้ทำหนังสือไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เพื่อให้การคุ้มครองและรับรองว่าบุคคลที่ถูกคัดเลือกและทำงานให้กับกรธ. จะปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยไม่เข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 โดยการคัดเลือกกรธ. ได้กำชับว่าต้องมีคุณสมบัติ คือ เป็นที่เคารพของบุคคลทั่วไป , เป็นกลาง , มีทักษะในการพูดคุย และมีเวลา เพื่อจะได้คนทำงานที่ไม่เป็นปัญหา ทั้งนี้ ตามแผนนั้น กรธ.จะลงพื้นที่ 107 หมู่บ้านใน 27 จังหวัด
นายชาติชาย ยังกล่าวถึงความเคลื่อนไหวทางการเมือง และข้อขัดแย้งของผู้ที่เห็นต่าง ซึ่งกำลังถูกรัฐบาลดำเนินการตามกฎหมายว่า มีผลกระทบต่อความสนใจของประชาชน ต่อการรับทราบในเนื้อหาของร่างรธน. และอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจในการออกเสียงประชามติร่างรธน.ได้ ดังนั้น เพื่อไม่ให้การออกเสียงประชามติสูญเปล่า และประชาชนไปใช้สิทธิด้วยอารมณ์ รัฐบาลชุดปัจจุบันต้องอดทน และอยู่ในบทบาทของกรรมการ ไม่ใช่ลงไปเป็นคู่ขัดแย้งเหมือนที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน
ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งให้ทุกจังหวัด จัดตั้งศูนย์สนับสนุนการเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ในระดับจังหวัด และอำเภอ และให้คัดเลือกวิทยากร (ครู ก) ระดับจังหวัดๆ ละ 5 คน เพื่อเข้ารับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น โดยการคัดเลือกครู ก จะคัดจาก หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด หรือข้าราชการที่มีคุณสมบัติเหมาะสม โดยมีองค์ประกอบคือ 1. รอง ผวจ. หรือปลัดจังหวัด 2. ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่หรือผู้แทน 3. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด หรือผู้แทน 4. ศึกษาธิการจังหวัดหรือผู้แทน 5. หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดหรือข้าราชการที่ ผวจ.เห็นสมควรโดยจะมีการจัดอบรมวิทยากรระดับจังหวัด (ครู ก) วันที่ 18 - 19 พ.ค.นี้ อบรมวิทยากรระดับอำเภอ (ครู ข) จำนวน 878 อำเภอ ๆ ละ 10 คน รวม 8,780 คน วันที่ 30 พ.ค. - 10 มิ.ย.59 และ อบรมวิทยากรระดับหมู่บ้าน/ชุมชน 80,491 แห่ง ๆ ละ 4 คน รวม 321,964 คน วันที่ 11 - 30 มิ.ย.59 จากนั้นวิทยากรทุกระดับจะร่วมกันลงพื้นที่ให้ความรู้ประชาชนอย่างใกล้ชิด ช่วงวันที่ 1 - 20 ก.ค.59
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติร่างรธน.ว่า การแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับร่างรธน. ถือเป็นเรื่องปกติ คสช.และกกต. จึงไม่ควรไปควบคุม จับกุมคนที่เห็นต่าง จะเป็นการแปลเจตนารมย์ของประชามติผิดเพี้ยนไป
“การที่คสช.เที่ยวควบคุมบุคคลต่างๆ โดยอ้างความมั่นคง ล้วนเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และไร้สาระมาก เพราะการแสดงออกถึงจุดยืนต่อร่างรธน. ไม่มีผลกระทบต่อประชามติ และความมั่นคง เพราะประชาชนไม่ได้โง่ ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกแบบนี้ คงไม่มีใครอยากล้มรัฐบาลแล้วมาบริหารประเทศแทน แต่ประชาชนเขาอยากให้ปฏิรูปให้แล้วเสร็จก่อนเลือกตั้ง ขจัดความเหลือมล้ำ ล้างทุจริตคอร์รัปชั่น ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่ถูกกล่าวหาว่า 2 มาตรฐาน เพื่อให้เกิดความสามัคคีปรองดองแก่คนในชาติ แต่ คสช.กลับจะสืบทอดอำนาจไปอีก ผิดคำประกาศตอนยึดอำนาจ จึงเป็นห่วงว่าจะซ้ำรอยประวัติศาสตร์ในเหตุการณ์พฤษภา’35”
