ผู้จัดการรายวัน360-กกพ.กางแผนบริหารค่าไฟ เคาะเกลี่ยลดค่าเอฟทีงวด พ.ค.-ส.ค. 28.49 สตางค์ต่อหน่วย ลดลงมากสุดเป็นประวัติการณ์ หลังน้ำมันดิ่ง ฉุดราคาก๊าซฯ ลงตาม แถมบาทแข็ง เผยค่าไฟรวมจะอยู่ที่ 3.4227 บาทต่อหน่วย ส่วนงวดหน้าคงเดิม เหตุเกลี่ยรวมงวดนี้ไปแล้ว ทำให้ค่าไฟจนถึงสิ้นปีไม่เปลี่ยน ยกเว้นมีปัจจัยเสี่ยงมากระทบ
นายวีระพล จิรประดิษฐ์กุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. มีมติเห็นชอบปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือเอฟที รอบเดือน พ.ค-ส.ค.2559 ลดลง 28.49 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าเอฟทีเดิมอยู่ที่ลบ 4.80 สตางค์ต่อหน่วยมาอยู่ที่ลบ 33.29สตางค์ต่อหน่วย และเมื่อรวมกับค่าไฟฐาน จะทำให้ค่าไฟเฉลี่ยผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ 3.4227 บาทต่อหน่วย โดยอัตราค่าเอฟทีที่ลดลงครั้งนี้ ถือเป็นการปรับลดลงมากสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่มีการใช้สูตรค่าไฟตั้งแต่ปี 2535
ปัจจัยที่ทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงที่สำคัญ ได้แก่ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจำนวน 0.33 บาทต่อหน่วย ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น ก๊าซธรรมชาติที่สูตรคำนวณอิงน้ำมันเตาย้อนหลังที่ลดต่ำจากน้ำมันตลาดโลกลดลงอยู่ที่ 234.94บาทต่อล้านบีทียู ลดลงจากงวดที่ผ่านมา 26.25 บาทต่อล้านบีทียู ค่าเอฟทีที่คาดว่าจะเรียกเก็บ (ค่า AF) สะสมลบ 12,512 ล้านบาท หรือเท่ากับลบ 20.81 สตางค์ต่อหน่วย ค่าส่วนเพิ่มรับซื้อค่าไฟ Adder และ FiT ต่ำกว่าคาดการณ์ 9.30 สตางค์ต่อหน่วย และเงินนำส่งกองทุนพัฒนาไฟฟ้าที่ลดลงเล็กน้อย 0.02 สตางค์ต่อหน่วย รวมทำให้ค่าเอฟทีงวด พ.ค.-ส.ค. จะอยู่ที่ลบ 43.48 สตางค์ต่อหน่วย หรือลดลงจากงวดที่แล้ว 38.68 สตางค์ต่อหน่วย
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้ประเมินค่าเอฟทีงวด ก.ย.-ธ.ค.2559 แนวโน้มค่าเอฟทีจะอยู่ที่ลบ 22.51 สตางค์ต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้นจากประมาณการค่าเอฟทีรอบพ.ค.-ส.ค.2559 เท่ากับ 20.97 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะทำให้ค่าเอฟทีผันผวนเกินไป จึงนำเอาค่าเอฟทีทั้งสองงวดมาเฉลี่ยเท่ากับลบ 33.29 สตางค์ต่อหน่วย
"หลักๆ คือ เราเอาเงินค่า AF มาเฉลี่ยงวดละครึ่งหนึ่ง เพื่อไม่ให้ค่าไฟผันผวนจากงวดนี้ลงมาก คือ จะลงถึง 38.68 สตางค์ต่อหน่วย แต่งวดต่อไปจะขึ้น 20.97 สตางค์ต่อหน่วย เพื่อไม่ให้ผันผวนเลยมาเกลี่ย 2 งวด ทำให้ค่าเอฟทีอยู่ที่ลบ 33.29 ไปจนถึงงวดก.ย.-ธ.ค.2559 จึงทำให้งวดนี้ลดลง 28.49 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้น ดังนั้น งวดหน้า หากเป็นไปตามประเมินก็จะไม่เปลี่ยนแปลงจากงวดนี้ ยกเว้นค่าบาทจะแข็งค่าขึ้นมาก ซึ่งเป็นปัจจัยที่เรากังวล ส่วนราคาน้ำมัน เราไม่ค่อยห่วง เพราะดูแนวโน้มไม่น่าจะเพิ่มขึ้นมาก"นายวีระพลกล่าว
นายวีระพล กล่าวถึงโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร หลังประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการ รวมทั้งสิ้น 167 รายว่า กกพ.จะคัดกรองผู้ยื่นคำขอที่ผ่านคุณสมบัติด้วยวิธีจับสลากสำหรับการรับซื้อไฟฟ้าจากสหกรณ์ภาคการเกษตรตามเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าในเฟสแรก จำนวน 300 เมกะวัตต์ ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ ณ ห้องวิภาวดีบอลรูมบีและซี โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ โดยผู้ไม่ผ่านคุณสมบัติ 67 ราย ยืนยันว่าได้มีการพิจารณาคุณสมบัติอย่างรอบคอบแล้ว
นายวีระพล จิรประดิษฐ์กุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. มีมติเห็นชอบปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือเอฟที รอบเดือน พ.ค-ส.ค.2559 ลดลง 28.49 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าเอฟทีเดิมอยู่ที่ลบ 4.80 สตางค์ต่อหน่วยมาอยู่ที่ลบ 33.29สตางค์ต่อหน่วย และเมื่อรวมกับค่าไฟฐาน จะทำให้ค่าไฟเฉลี่ยผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ 3.4227 บาทต่อหน่วย โดยอัตราค่าเอฟทีที่ลดลงครั้งนี้ ถือเป็นการปรับลดลงมากสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่มีการใช้สูตรค่าไฟตั้งแต่ปี 2535
ปัจจัยที่ทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงที่สำคัญ ได้แก่ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจำนวน 0.33 บาทต่อหน่วย ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น ก๊าซธรรมชาติที่สูตรคำนวณอิงน้ำมันเตาย้อนหลังที่ลดต่ำจากน้ำมันตลาดโลกลดลงอยู่ที่ 234.94บาทต่อล้านบีทียู ลดลงจากงวดที่ผ่านมา 26.25 บาทต่อล้านบีทียู ค่าเอฟทีที่คาดว่าจะเรียกเก็บ (ค่า AF) สะสมลบ 12,512 ล้านบาท หรือเท่ากับลบ 20.81 สตางค์ต่อหน่วย ค่าส่วนเพิ่มรับซื้อค่าไฟ Adder และ FiT ต่ำกว่าคาดการณ์ 9.30 สตางค์ต่อหน่วย และเงินนำส่งกองทุนพัฒนาไฟฟ้าที่ลดลงเล็กน้อย 0.02 สตางค์ต่อหน่วย รวมทำให้ค่าเอฟทีงวด พ.ค.-ส.ค. จะอยู่ที่ลบ 43.48 สตางค์ต่อหน่วย หรือลดลงจากงวดที่แล้ว 38.68 สตางค์ต่อหน่วย
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้ประเมินค่าเอฟทีงวด ก.ย.-ธ.ค.2559 แนวโน้มค่าเอฟทีจะอยู่ที่ลบ 22.51 สตางค์ต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้นจากประมาณการค่าเอฟทีรอบพ.ค.-ส.ค.2559 เท่ากับ 20.97 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะทำให้ค่าเอฟทีผันผวนเกินไป จึงนำเอาค่าเอฟทีทั้งสองงวดมาเฉลี่ยเท่ากับลบ 33.29 สตางค์ต่อหน่วย
"หลักๆ คือ เราเอาเงินค่า AF มาเฉลี่ยงวดละครึ่งหนึ่ง เพื่อไม่ให้ค่าไฟผันผวนจากงวดนี้ลงมาก คือ จะลงถึง 38.68 สตางค์ต่อหน่วย แต่งวดต่อไปจะขึ้น 20.97 สตางค์ต่อหน่วย เพื่อไม่ให้ผันผวนเลยมาเกลี่ย 2 งวด ทำให้ค่าเอฟทีอยู่ที่ลบ 33.29 ไปจนถึงงวดก.ย.-ธ.ค.2559 จึงทำให้งวดนี้ลดลง 28.49 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้น ดังนั้น งวดหน้า หากเป็นไปตามประเมินก็จะไม่เปลี่ยนแปลงจากงวดนี้ ยกเว้นค่าบาทจะแข็งค่าขึ้นมาก ซึ่งเป็นปัจจัยที่เรากังวล ส่วนราคาน้ำมัน เราไม่ค่อยห่วง เพราะดูแนวโน้มไม่น่าจะเพิ่มขึ้นมาก"นายวีระพลกล่าว
นายวีระพล กล่าวถึงโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร หลังประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการ รวมทั้งสิ้น 167 รายว่า กกพ.จะคัดกรองผู้ยื่นคำขอที่ผ่านคุณสมบัติด้วยวิธีจับสลากสำหรับการรับซื้อไฟฟ้าจากสหกรณ์ภาคการเกษตรตามเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าในเฟสแรก จำนวน 300 เมกะวัตต์ ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ ณ ห้องวิภาวดีบอลรูมบีและซี โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ โดยผู้ไม่ผ่านคุณสมบัติ 67 ราย ยืนยันว่าได้มีการพิจารณาคุณสมบัติอย่างรอบคอบแล้ว
