เคาะแล้วค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค. 59 ลดลง 28.44 สตางค์ต่อหน่วย อานิสงส์น้ำมันดิ่งแต่ของจริงลง 38.68 สตางค์ต่อหน่วย แต่ประเมินงวดหน้าขึ้นหนักหวั่นผันผวนจึงนำไปเกลี่ยงวดหน้า หากเป็นไปตามแผนค่าไฟงวดหน้าจะไม่เปลี่ยนแปลง
นายวีระพล จิรประดิษฐ์กุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ.เห็นชอบลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือเอฟที รอบเดือน พ.ค-ส.ค. 59 ลดลง 28.49 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งถือเป็นค่าเอฟทีที่ลดลงมากสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่มีการใช้สูตรค่าไฟปี 2535 และการลดครั้งนี้ส่งผลให้ค่าเอฟทีเดิม -4.80 สตางค์ต่อหน่วยมาอยู่ที่ -33.29 สตางค์ต่อหน่วยและเมื่อรวมกับค่าไฟฐานจะทำให้ค่าไฟเฉลี่ยจะเรียกเก็บอยู่ที่ 3.4227 บาทต่อหน่วย
ปัจจัยที่ทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงที่สำคัญ ได้แก่ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจำนวน 0.33 บาทต่อหน่วย ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น ก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ 234.94บาทต่อล้านบีทียู ลดลงจากงวดที่ผ่านมา 26.25 บาทต่อล้านบีทียู ค่าเอฟทีที่คาดว่าจะเรียกเก็บ (ค่า AF) สะสม -12,512 ล้านบาท หรือเท่ากับ -20.81 สตางค์ต่อหน่วย ค่าส่วนเพิ่มรับซื้อค่าไฟ Adder และ FiT ต่ำกว่าคาดการณ์ 9.30 สตางค์ต่อหน่วย และเงินนำส่งกองทุนพัฒนาไฟฟ้าที่ลดลงเล็กน้อย 0.02 สตางค์ต่อหน่วย รวมทำให้ค่าเอฟทีงวด พ.ค.-ส.ค. จะอยู่ที่ -43.48 สตางค์ต่อหน่วย หรือลดลงจากงวดที่แล้ว 38.68 สตางค์ต่อหน่วย
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้ประเมินค่าเอฟทีงวด ก.ย.-ธ.ค. 59 แนวโน้มค่าเอฟทีจะอยู่ที่ -22.51 สตางค์ต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้นจากประมาณการค่าเอฟทีรอบ พ.ค.-ส.ค. 59 เท่ากับ 20.97 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะทำให้ค่าเอฟทีผันผวนเกินไปจึงนำเอาค่าเอฟทีทั้งสองงวดมาเฉลี่ยเท่ากับ -33.29 สตางค์ต่อหน่วย
“หลักๆ คือเราเอาเงินค่า AF มาเฉลี่ยงวดละครึ่งหนึ่งเพื่อไม่ให้ค่าไฟผันผวนจากงวดนี้ลงมาก คือจะลงถึง 38.68 สตางค์ต่อหน่วย แต่งวดต่อไปจะขึ้น 20.97 สตางค์ต่อหน่วย เพื่อไม่ให้ผันผวนเลยมาเกลี่ยทำให้งวดนี้ลดลง 28.49 สตางค์ต่อหน่วย หรือเอาที่ -33.29 สตางค์ต่อหน่วย และงวดหน้าหากเป็นไปตามประเมินก็จะไม่เปลี่ยนแปลงจากงวดนี้ยกเว้นค่าบาทจะแข็งค่าขึ้นมาก”นายวีระพลกล่าว