xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

"บิ๊กโด่ง"ผ่าน3ด่านราชภักดิ์ รอลุ้นแจ๊กพอตด่านที่4ป.ป.ช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -เรื่องทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์ ที่ทำเอา พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ออกอาการซวนเซ เสียหลักตั้งแต่เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ สุดท้ายก็จบลงได้ด้วยดี แบบไม่มีการทุจริต

เพราะเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) พร้อมด้วย นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการ ศอตช. นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ นายยงยุทธ์ มะลิทอง รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงผลสอบทุจริตโครงการดังกล่าว

โดยมีประเด็นที่ทำการสอบอยู่ 3 เรื่องหลัก คือ 1. เรื่องการหักค่าหัวคิว 2. การจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอน และ 3. การใช้งบประมาณที่ไม่ถูกต้อง

ปมหักหัวคิว ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นหลักของเรื่อง เพราะก่อนหน้านี้มีการพูดถึงขั้นตอน กระบวบการหล่อองค์พระบรมรูปบูรพกษัตริย์ นั้น มีเซียนพระ เข้ามากินหัวคิวไป 20 ล้าน ซึ่งเรื่องนี้ นายประยงค์ เลขาฯ ป.ป.ท. ระบุว่า จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และสอบปากคำ ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนแล้ว พบว่า มีการจ่ายเงินกันจริงระหว่างเอกชน กับเอกชน ซึ่งทั้งสองฝ่ายระบุว่า เป็นการให้ค่าตอบแทนทางธุรกิจ ค่าชักนำงานมาให้ เป็นวงเงินร้อยละ 6-7 ของค่าจ้าง ซึ่งถือว่าเป็นราคาตามท้องตลาดทั่วไป 

สรุปว่า เป็นเรื่องปกติทางธุรกิจ ไม่ใช่การหักหัวคิวแต่อย่างใด

ขณะที่ นายพิศิษฐ์ ผู้ว่าฯสตง. บอกว่า สตง.ได้ตรวจสอบในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ในประเด็นเรื่องเงินบริจาค ซึ่งจากการตรวจสอบก็ไม่มีปัญหาอะไร ทางกองทัพได้เตรียมใบเสร็จรับเงินให้กับผู้บริจาค แต่ไม่มีใครเข้ามาขอรับ และปัจจุบันได้ปิดบัญชีเหลือเพียงแค่ 1 บัญชี จาก 6 บัญชี และเงินบริจาคจากทุกช่องทาง ทั้งผ่านสถานีโทรทัศน์ ตู้รับบริจาค ต่างๆ รวมเป็นเงินทั้งหมด 733 ล้านบาท โดยมีการแบ่งใช้จ่ายไป 458 ล้านบาท เช่น ค่าองค์พระ และการยืมเพื่อไปจัดทำเหรียญให้ประชาชนบูชาเป็นเงิน 105 ล้านบาท

ขณะนี้ตัดยอดเงิน ณ วันที่ 31 ธ.ค.58 เหลือเงิน 140 ล้าน และยังมีเงินที่เป็นงบกลางจากรัฐบาล ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนอีก 63 ล้านบาท และเงินจากทางกองทัพบก เป็นงบที่ตั้งไว้ เพื่อทำรั้วโรงเรียนที่ตั้ง 27 ล้านบาท ส่วนเงินมูลนิธิที่ได้มาจากการรับบริจาคโดยตรง มียอดเงิน 108 ล้านบาท โดยขณะนี้ยังไม่มีค่าใข้จ่ายเกิดขึ้น

ส่วนประเด็นการเปลี่ยนชื่อบัญชีเงินกองทุนสวัสดิการกองทัพบก เป็นกองทุนสวัสดิการอุทยานราชภักดิ์แล้ว จากการตรวจสอบพบว่า เป็นการเปลี่ยนชื่อบัญชี เพื่อให้ตรงกับวัถุประสงค์ ส่วนข้อสงสัยถึงทรัพย์สินในอุทยานฯนั้น ขณะนี้ยังคงเป็นการรับผิดชอบของราชการ ยังไม่มีการโอนให้มูลนิธิฯแต่อย่างใด

สำหรับรื่องการซื้อต้นไม้นั้น พบว่าไม่มีการซื้อ เพราะต้นไม้ได้มาจากการบริจาค แต่มีค่าใช้จ่ายในการขนส่งทั้งหมด 4 ล้านบาท 
                
      สรุปว่า ไม่พบการตกแต่งบัญชี หรือบิดเบือน ทั้งกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และการจ่ายเงิน

ผู้ว่าฯสตง. ยังชี้แจงถึงเรื่องคุณภาพของงานหล่อพระบรมรูปฯ ว่ามีความสมบูรณ์ของเนื้องานและความเรียบร้อย 95% และได้ตัดวัสดุจากองค์พระไปทำการตรวจสอบ พบว่ามีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดตามสัญญาที่กำหนดให้ใช้วัสดุนำเข้าจากต่างประเทศ

สำหรับประเด็นหักหัวคิวนั้น "เซียนอุ๊" ซึ่งเป็นเจ้าของโรงหล่อสยามปุระ ที่ปรึกษาการก่อสร้างองค์พระของ 5 โรงหล่อ ที่มีการรับเงินค่าหัวคิว 20 ล้านบาท เพราะเป็นบุคคลที่มีโรงหล่อที่ได้รับความน่าเชื่อถือ มีผลงานเป็นที่ยอมรับในวงการ ซึ่งจากการตรวจสอบทั้งเซียนอุ๊ และ 5 โรงหล่อ ระบุว่า เป็นค่าใช้จ่ายโดยสมัครใจ และต่อมาได้นำเงินดังกล่าว มาคืนครบจำนวนให้กับกองทัพบก และมีการออกใบเสร็จชัดเจน ซึ่งประเด็นนี้ก็ไม่พบข้อทุจริตเช่นกัน 
 
ก็เป็นอันว่าเรื่องทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์ ที่มีการตั้งกรรมการสอบมาหลายชุด ไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการของกระทรวงกลาโหม กรรมการชุดกองทัพบก และ สตง. ต่างก็สรุปมาแล้วว่า ไม่พบการทุจริต

อย่างไรก็ตาม หลังการแถลงผลการสอบ ทางพล.อ.อุดมเดช ก็ได้ออกมาชี้แจงเรื่อง"หัวคิว"ให้เคลียร์กันไปเลย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในช่วงที่เกิดเรื่องใหม่ๆ มีการเสนอข่าวว่า พล.อ.อุดมเดช ก็ยอมรับว่ามีการหักหัวคิวจริง ทำให้สังคมนังมีความคลางแคลงใจ

โดยพล.อ.อุดมเดช ชี้แจงว่า เรื่องการหักหัวคิว นั้นขอยืนยันว่า ไม่เคยยอมรับว่ามีการหักหัวคิว แต่เป็นเพียงการซักถามของผู้สื่อข่าวว่า มีเรื่องการหักหัวคิวหรือไม่ จึงตอบไปว่า เป็นความจริงเพียงบางส่วน และได้มาอธิบายเพิ่มเติมว่า ไม่ใช่หัวคิว แต่เป็นการดำเนินงานของเอกชน ที่เราไปทำสัญญากับบริษัท 6โรงหล่อ และมี 5โรงหล่อ ที่นำเอกชนอีกส่วนหนึ่งมาร่วม ซึ่งอาจมีความเข้าใจว่า เอกชนดังกล่าว มีความรู้ความสามารถในการให้คำปรึกษาได้ และมีการตอบแทนเป็นค่าที่ปรึกษาไป

" ผมจะพูดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายว่า ไม่เคยมีการหักหัวคิว และผมได้อธิบายมาตามลำดับ แต่เนื่องจากการยื่นคำถาม ผมได้ตอบไป จึงมีความเข้าใจผิดว่า ผมยอมรับมาตั้งแต่ต้น เพราะฉะนั้น จึงเป็นความเข้าใจผิดของท่านต่างๆ แต่ไม่ใช่ผมเข้าใจผิด ผมเข้าใจถูกมาตั้งแต่ต้น และได้พยายามอธิบายมาโดยตลอด"

ส่วนเรื่องเงินบริจาค จากเอกชนที่มาให้คำปรึกษา เปรียบเหมือนบริจาคเพื่อลบล้างความผิดนั้น ขอเรียนว่าสามารถดูวันที่ของการบริจาคได้ เรื่องราวที่เริ่มเป็นประเด็น หลังจากตนเกษียณอายุราชการไปแล้ว และอาจมีบางคนสงสัย

"การบริจาคของเอกชน หรือบุคคลที่ 3 ซึ่งผ่านการพูดคุยกับโรงหล่อแล้ว เขาบริจาคมาเป็นเดือน เขาตกลงกันเช่นนั้น สามารถเช็คดูวันที่บริจาคได้เลย และผ่านการตรวจสอบหมดแล้ว ไม่ใช่การบริจาคเพื่อกลบล้างความผิดอะไร"

พล.อ.อุดมเดช กล่าวด้วยว่าเมื่อทุกอย่างเคลียร์แล้ว หลังจากนี้ ทางมูลนิธิราชภักดิ์ฯ ก็จะเดินหน้าการก่อสร้างส่วนที่เหลือ คือ แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ห้องสุขาอีกกว่า 100 ห้อง ให้เรียบร้อย

สุดท้าย พล.อ.อุดมเดช ยังได้เคลีย์เรื่องที่มีกระแสข่าวถึงความขัดแย้งกับพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม โดยยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากับพล.อ.ไพบูลย์ เวลาเจอกันก็คุยกัน แต่ไม่เคยคุยถึงเรื่องอุทยานราชภักดิ์ ไม่เคยขอร้องให้ช่วย

"ตัวผมไม่มีปัญหากับใคร และคิดว่าคนอื่นคงไม่มีปัญหากับผม ตั้งแต่มีปัญหาเกิดขึ้น ผมไม่เคยน้ำตาคลอ แต่อาจจะเป็นคนตาแฉะ" พล.อ.อุดมเดช กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้ผลการตรวจสอบจากสตง. ออกมาว่าไม่พบการทุจริต จนทำให้ พล.อ.อุดมเดช รู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ ได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ถึงกับปลอดโปร่งโล่งใจโดยสิ้นเชิง เนื่องจากยังมีคณะกรรมการป.ป.ช. อีกชุดหนึ่ง ที่กำลังทำการตรวจสอบเรื่องนี้อยู่เช่นกัน

โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.ได้ไปยื่นเรื่องร้องเรียนเอาไว้ และเตรียมนำข้อมูลไปยื่นเพื่อให้ป.ป.ช.สอบเพิ่มเติม ในประเด็นเจ้าหน้าที่พบความผิดปกติ และมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นผลต่อเนื่องจากการแอบอ้างเบื้องสูง  
 
พล.อ.อุดมเดช จะผ่านด่านที่ 4 ได้หรือไม่ ป.ป.ช. จะเป็นผู้ให้คำตอบ



กำลังโหลดความคิดเห็น