xs
xsm
sm
md
lg

แดงบุก กห.แจงตั้งศูนย์ฯ กร้าวเดินหน้าต่อ ย้อน “ประวิตร” จะจับข้อหาอะไร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แกนนำแดงตบเท้าบุกกลาโหม ยื่นหนังสือแจงศูนย์ปราบโกงฯ ไม่ได้มีความขัดแย้ง ย้อนองค์กรอื่นยังตั้งได้ สวน “ประวิตร” ฟังนายกฯ ทำได้ คำสั่งห้ามขัดต่อรัฏฐาธิปัตย์ ขอเปิดใจกว้าง ไม่โกงอย่าเดือดร้อน อย่าทำให้เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ให้ทหารกดดัน ปชช. กร้าวไม่ยุบศูนย์ ย้อนจะจับข้อหาอะไร อ้างเชิญ ตปท.จุ้นเพราะถูกคุกคาม ปัดท้าทายอำนาจ ย้ำไม่ให้ตั้งศูนย์เท่ากับผลประชามติไม่ชอบธรรม

วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่หน้ากระทรวงกลาโหม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. นางธิดา ถาวรเศรษฐ และคณะ เดินทางไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงกรณีการสั่งปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ โดยมี น.อ.ปัญญา ไทยภักดี หัวหน้าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กระทรวงกลาโหมเป็นตัวแทนมารับหนังสือ

โดยนายจตุพรกล่าวว่า ตนมายื่นหนังสือเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงถึง พล.อ.ประวิตร ว่าศูนย์ปราบโกงประชามติไม่ได้มีความขัดแย้ง แต่เป็นองค์กรของประชาชนที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบการทำประชามติ เพราะที่ผ่านมามีองค์กรคู่ขนานในการตรวจสอบการทุจริตของภาคประชาชน เช่น องค์กรของ พล.อ.สายหยุด เกิดผล หรือเครือข่ายต่อต้านการคอร์รัปชันของนายประมนต์ สุธีวงศ์ ซึ่งไม่เห็นมีใครว่าจะสร้างความขัดแย้งเลย และไม่ได้แตกต่างจากองค์กรของ นปช. แม้ว่า พล.อ.ประวิตรเป็นพี่ใหญ่ของบูรพาพยัคฆ์ แต่ตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นรัฏฐาธิปัตย์ อีกทั้งเป็นผู้บังคับบัญชาของ พล.อ.ประวิตร ก็ได้ระบุว่าสามารถตั้งได้ ดังนั้นตนขอชี้แจงไปยัง พล.อ.ประวิตร ว่าคำสั่งของท่านขัดต่อรัฏฐาธิปัตย์

นายจตุพรกล่าวต่อว่า ศูนย์ฯ ของเราไม่เป็นภัยคุกคามของชาติ แต่เป็นเครื่องการันตีว่าการทำประชามติมีการทุจริตหรือไม่ จึงขอร้องให้เปิดใจกว้างว่าควรเปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบ ถ้าไม่มีการโกงก็ไม่ต้องเดือดร้อน และไม่มีปัญหากับ คสช. ทั้งนี้ ขอร้องว่า พล.อ.ประวิตรอย่าทำให้เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว และสร้างความกดดันให้กับทหารในพื้นที่แล้วไปกดดันประชาชน คิดว่าไม่เป็นผลดีเลย อย่างไรก็ตาม พวกตนจะทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บัญชาการมณฑลทหารบกต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าการดำเนินการของพวกตนมีความลับ อีกทั้งจะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วย

“การกดดันให้ยุบศูนย์ปราบโกงประชามติจะสร้างความสงสัยว่าอาจมีการทุจริตมากยิ่งขึ้น ถ้าศูนย์เราไม่สามารถจับใครได้ถือเป็นเครื่องการันตีให้ คสช.ว่าไม่มีการโกง ถ้าพวกท่านไม่คิดจะโกงก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะขัดขวาง ผมไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอของท่านได้ที่จะยุบศูนย์ฯ หากท่านจะจับพวกผมก็ไม่รู้ว่าจะจับข้อหาอะไร แต่วิธีที่จะหยุดศูนย์ฯ นี้ได้ ก็ต้องมาจับพวกเรา หรือใช้มาตรา 44 แต่ก็สวนทางกับคำสั่งนายกฯ ที่ให้เปิดศูนย์ได้” นายจตุพรกล่าว และว่าตนขอร้องให้หยุดคุกคามประชาชนต่างจังหวัด ถ้ามีอะไรให้มาหาพวกตนได้ที่อิมพิเรียลลาดพร้าว

ประธาน นปช.กล่าวต่อว่า สำหรับที่กรณีที่ นปช.ไปเชิญองค์การสหประชาติ และสหภาพยุโรปนั้น เพราะถูกคุกคามทั้งวาจา และการกระทำ เพราะถ้ามีการทุจริตในการทำประชามติ อำนาจของ คสช.คงเอาไม่อยู่ ตนจึงขอเตือนเอาไว้ก่อนว่าแทนที่จะใช้ศูนย์ฯ ของพวกตนไปความเข้าใจกับเวทีโลกว่าการทำประชามติโปร่งใส ก็อาจจะเอื้อต่อการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และปัญหาการบินพลเรือนได้ แต่พวกท่านกับมองว่าศูนย์ฯ นี้เป็นปัญหา ตนจึงขอฝากไปให้พิจารณา

ขณะที่นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ศูนย์ฯ นี้ไม่ใช่กระบวนการนอกกฎหมาย การดำเนินการอยู่ภายในกรอบ พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำประชามติ พ.ศ. 2559 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี โดยวัตถุประสงค์การจัดตั้งก็ไม่ได้สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นภัยความมั่นคงของบ้านเมือง และความสงบเรียบร้อย ตนยืนยันที่จะเดินหน้าการทำงานต่อไป และไม่ใช่การท้าทายอำนาจของ พล.อ.ประวิตร เพราะไม่คิดจะสู้รบปรบมือด้วย เพียงแต่ไม่สามารถทำตามที่ร้องขอและสั่งการของท่านได้ ทั้งนี้ตนเห็นว่าการที่มีทหารไปเก็บป้ายที่ติดไว้ที่บ้านของประชาชนนั้นไม่ใช่สิ่งที่ชายชาติทหารทำกัน เพราะสิ่งที่ทำก็ไม่ได้ผิดกฎหมาย

“ผมไม่มีอะไรต้องเดิมพันนอกจากอิสรภาพของตัวเอง ถ้ามีประชามติแล้วไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ตั้งศูนย์ก็ไม่ได้ แล้วผลประชามติจะมีความหมายอย่างไร ผมไม่คิดว่าตัวกฎหมายผิด แต่ผิดที่กระบวนการ และการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เพราะการไม่ยอมรับให้ตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ เหมือนกับผลของประชามติไม่มีความชอบธรรม อย่างไรก็ตาม ผมยืนยันว่า นปช.จะไม่มีการเดินขบวนตั้งเวทีปราศรัย และถ้าไม่พบว่ามีการทุจริตก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร เพราะฉะนั้นอย่ากังวลต่อการตั้งศูนย์นี้เลย” นายณัฐวุฒิกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเอกสารที่ยื่นต่อ พล.อ.ประวิตร มีใจความว่า ขอชี้แจงวัตถุประสงค์ และการดำเนินงานของศูนย์ปราบโกงประชามติ ประกอบด้วย 1. การตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ เป็นเรื่องของประชาชนที่ใช้สิทธิพลเมืองที่ดีที่ร่วมกันกระทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และไม่ผิดกฎหมายใด 2. มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิลงประชามติให้มากที่สุดอย่างอิสระ และเป็นการป้องปราม และฟ้องร้องลงโทษการทุจริตผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรายึดคำประกาศ กกต. และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 3. ผลการจัดตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติจะเป็นผลบวกต่อการทำประชามติวันที่ 7 สิงหาคม

4. การตรวจสอบการกระทำขององค์กรหน่วยงานรัฐเป็นเรื่องจำเป็นที่ประชาชนและพลเมืองดีต้องกระทำ 5. เรามีประวัติการทำงานลักษณะนี้ คือ ศูนย์ตรวจสอบการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 และตรวจสอบการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเมื่อปี 2556 มาแล้ว ได้ร่วมมือกับ กกต.ทั้งในการอบรมอาสาสมัครและได้ทำหัวข้อเสนอแนะ กกต.จำนวนมาก เพื่อเป็นการปรับปรุงการลงคะแนนเลือกตั้งและไม่มีปัญหาอะไร









กำลังโหลดความคิดเห็น