นายกรัฐมนตรี แสดงความไม่พอใจหลังถูกถามกรณี คสช. เรียกตัวแกนนำ นปช. แจงไม่ได้สั่ง ฝ่ายกฎหมายดูอยู่ ซัดวิจารณ์ดูถูก เหยียบย่ำ แถมสื่อมวลชนเข้าข้างเป็นเครื่องมือ ด้าน รองนายกฯ - รมว.กลาโหม เผย กลุ่มการเมืองวิจารณ์ได้แต่ต้องใช้คำพูดให้เหมาะสม ไม่ควรปลุกปั่น ย้ำ กรธ. เจตนาให้บ้านเมืองสงบ ยืนยันไม่มีปรับโรดแมป
วันนี้ (2 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และอดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ถูกจับกุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ทหาร ว่า เรื่องนี้ใครเรียก ฝ่ายความมั่นคงเรียกใช่ไหม แล้ว นายจตุพร ทำผิดหรือเปล่า
เมื่อถามว่า นายจตุพร ให้เหตุผลว่า ใช้สิทธิในการแสดงความเห็น วิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญในฐานะนักการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ใช้ความคิดเห็นดูถูก เหยียบย่ำผมเนี่ยนะ ด่ารัฐบาลทุกวันผิดหรือเปล่า ไม่ใช่เรื่องของผม ผมไม่ต้องสั่ง คสช. ฝ่ายกฎหมายเขาดูอยู่ ผิดก็ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะกฎหมายได้ประกาศไว้ก่อนแล้ว ถ้าเขาด่าสื่อแบบนี้โกรธไหม แล้วผมไม่มีสิทธิปกป้องตัวผมเองหรือไง คุณก็เข้าข้างไอ้คนอย่างนี้อยู่ได้ ดูถูกดูแคลนคนทุกคน ตัวเองทำความผิดคดีความอยู่ ถ้าทำมาก ๆ เดี๋ยวเขาก็หมั่นไส้เอาอีก ถอนประกันอีกก็วุ่นอีก แล้วคุณจะไปเป็นเครื่องมือให้เขาหรืออย่างไร”
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม กล่าวถึงกรณีเรียกนายจตุพร เข้ารายงานตัวที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 ว่า การวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญสามารถทำได้ แต่ต้องวิจารณ์ให้ไพเราะหน่อย โตป่านนี้แล้ว เป็นสามัญชนแล้ว ควรใช้วาจาดี ๆ อะไรไม่ชอบใจให้พูดไป ตนไม่ได้ว่าอะไร แต่จะคว่ำหรือไม่คว่ำรู้ได้อย่างไรคนเดียว เพราะรัฐธรรมนูญต้องทำประชามติทั้งประเทศ ตนไม่ไห้ห้ามใคร เพียงแต่ทำให้มันดีแล้วกัน ให้สากล อย่ามายุ่งกับ คสช. ปลุกปั่นไม่ได้ ไม่ใช่เวลา
เมื่อถามว่า คสช. จะใช้มาตรการอะไรอีกหรือไม่นอกเหนือจะเชิญมาปรับทัศนคติ เนื่องจากบางคนมีการเชิญมาแล้วหลายครั้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้าพูดมากเชิญมาทุกวันเลย ซึ่งตนขอร้องว่าให้ใช้วาจาดี ๆ หน่อย
เมื่อถามว่า การเชิญนายจตุพรมาเหมือนเป็นการปรามคนอื่นด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ได้ปรามใคร แต่ใครทำไม่ดีก็คือไม่ดี ตนไม่ได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะวิจารณ์ไม่ได้ ไม่เคยพูดอย่างนั้น แต่ช่วยใช้คำพูดดี ๆ ถ้ารัฐธรรมนูญไม่ดีอย่างไรก็บอกไป ไม่ใช่เสียดสี อย่ามาใช้วาจาว่าเผด็จการ
เมื่อถามว่า การออกมาให้สัมภาษณ์ลักษณะรณรงค์สามารถทำได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รณรงค์ได้ แต่การไปปลุกปั่นให้เกิดการขัดแย้งนั้นไม่ได้ จะรณรงค์อย่างไรก็ว่าไป อธิบายให้ดีแล้วกัน เขามีคนฟังอยู่ รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร
เมื่อถามอีกว่า จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เป็นหรอก ทั้งนี้ เราต้องดูเจตนาในการวิจารณ์รัฐธรรมนูญ ไม่ใช่วิจารณ์ว่าอย่างนั้นไม่ดี อย่างนี้ไม่ดี แต่ต้องคิดว่าระยะนี้เป็นระยะเปลี่ยนผ่าน รัฐธรรมนูญต้องเขียนให้เป็นหลักสากลแน่ อะไรไม่ดีก็ว่าไป แต่การดำเนินการอาจจะมีบทเฉพาะกาลอะไรต่าง ๆ ต้องปล่อยให้ทาง คสช. ดำเนินการไป เพื่อที่จะให้ปฏิรูปให้ได้ตามยุทธศาสตร์ 20 ปี ถ้าไม่มีอย่างนี้แล้วก็ไปกันใหญ่ ดังนั้น ในระยะเปลี่ยนผ่าน 4 ปี ควรจะต้องมีอะไรที่ทำให้ประชาชนอยู่อย่างสงบ พอรากฐานมั่นคงแล้วต่อไปก็ว่ากันไป แต่ในชั้นต้นต้องดำเนินการในลักษณะนี้
เมื่อถามว่า พรรคการเมืองแต่ละพรรคสามารถออกมาแสดงจุดยืนต่อร่างรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า แถลงไป แต่พูดจาให้ดีแล้วกัน อย่างไรก็ตาม ตนว่าต้องให้กำลังใจคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพราะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เขาเจตนาทำให้บ้านเมืองสงบ ให้เดินไปข้างหน้าให้ได้ ไม่ใช่ทำเพื่อไปรังแกใคร สิ่งที่ กรธ. ทำให้เห็นชัดเจนคือ เรื่องการป้องกันการทุจริตของนักการเมืองเท่านั้น อย่างอื่นตนดูว่าก็พอรับได้ เขาพยายามเขียนให้ดีที่สุด
ต่อข้อถามว่า มีโอกาสที่เชิญนักการเมืองมานั่งคุยกันเพื่อแสดงความคิดเห็นให้กับ กรธ. หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องถามทาง กรธ. ส่วน คสช. ต้องดูเรื่องความชัดเจน แต่คิดว่าหากมีแต่เรื่องรัฐธรรมนูญคงไม่เป็นไร
เมื่อถามย้ำว่า ถึงเวลาที่จะต้องผ่อนปรนกฎระเบียบของ คสช. หรือยัง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา ขอก่อน รัฐบาลเองก็ทำงานจะตายอยู่แล้ว เดี๋ยวให้ถึงเลือกตั้งก่อน เอาเลย ว่ากันไป อีกไม่นานหรอก เร่งรีบกันเหลือเกิน
เมื่อถามว่า การใช้ระยะเวลาทำกฎหมายลูกเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ต้องปรับโรดแมปเรื่องการเลือกตั้งออกไปหรือไม่ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ยืนยันไม่มีการปรับโรดแมป รับรองได้ อย่างไรต้องอย่างนั้น เดินไปอย่างนั้น ปี 60 ที่จะต้องไปเลือกตั้งคือเลือกตั้ง มันจะช้าหรือเร็วเป็นเรื่องกระบวนการทางกฎหมายซึ่งก็ว่ากันไป
รองนายกฯ และ รมว. กลาโหม เปิดเผยว่า ในที่ประชุม ครม. วันเดียวกัน ได้พูดคุยถึงเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ โดยใช้เวลา 3 ชั่วโมง ซึ่ง ครม. เองก็ไม่ใช่ว่าโอเคทั้งหมด จะต้องส่งข้อแก้ไขไปบ้าง ส่วนประเด็นอะไรบ้างตนจำไม่ได้ และเนื่องจากการประชุมใน ครม. เป็นเรื่องลับ จึงไม่ควรพูด.