ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์
คณะผู้แต่งรัฐธรรมนูญนำโดย “ท่านมีชัยไทยแลนด์” ยังดิ้นรนกับความพยายามแต่งกฎหมายสูงสุดมาบังคับใช้กับคนทั้งประเทศให้เสร็จ ออกตัวช่วงแรกท่านรีบสร้างภาพลักษณ์ ขอความไว้ใจของประชาชนคนรู้ทันแนวว่างานนี้ไม่มีใบสั่ง เพราะถือเป็นภารกิจส่วนตัวเพื่อทดแทนบุญคุณแผ่นดิน
เมื่อไหร่มีปัญหา คณะต้องยกขบวนไปทะลวงวิสัยทัศน์ จุดบอด ทางตัน ตามเมืองชายทะเล ใช้โอโซนเป็นโอสถกล่อมจิตให้ความคิดเปิดโล่ง คณะเดิมของท่านบวรศักดิ์นิยมย่านพัทยา อินเตอร์กว่า ส่วนคณะท่านมีชัยรสนิยมชอบสมัยดั้งเดิมจึงเลือกหัวหิน สะท้อนให้เห็นความชอบตามวัย
คณะบวรศักดิ์ พ้นภารกิจไปด้วยความบอบช้ำระกำทรวง กำลังจ้องดูว่าอาจารย์ท่านจะเสียท่าซ้ำรอยหรือไม่ เป็นบทเรียนว่าการตามเอาใจผู้มีอำนาจนั้น ถ้าเป็นคนมีเหตุผลก็ยังพอทนได้
ตัวท่านมีชัยไทยแลนด์มีภารกิจเดิมพันสูง ไม่ว่าจะมีใบสั่งหรือไม่ ผลงานต้องเนี้ยบ เนียนด้วย
พฤติกรรมยาวนาน ฉายา “จอมหมกเม็ด” ใช่ว่าจะลบล้างกันได้ง่าย แต่ในสังคมการเมือง ค่านิยมกำลังด้อยพัฒนาแบบบ้านเราจึงมีคำพูด “ต้องให้โอกาสท่านพิสูจน์ตัวเอง”
ชาวบ้านแบบไทยๆ ก็หยวนๆ ว่ากันง่าย “เอาก็เอา พวกเรามีทางเลือกที่ไหนล่ะ ดูเค้าก่อน” ช่วงแรกท่านมีชัยมีอาการอิดออดเหมือนไม่เต็มใจ คงเห็นชะตากรรมจบไม่สวยของศิษย์ “บวรศักดิ์” ซึ่งว่ากันว่าถูกเสียบจนหลังเจ็บ ซดน้ำ ใบบัวบกหัวอกช้ำเหมือนตกต้นตาล ตัวเองไม่อยากซ้ำรอย
เป็นปรมาจารย์ด้านกฎหมายมาทั้งชีวิต จะมาเสียคนตอนแก่เพราะถูกมองว่า “รับใบสั่ง” จะสิ้นราคาในสายตาของลูกศิษย์ ชีวิตนี้ไม่เคยเสียท่าใครมาก่อน เป็นประธานวุฒิสภามาแล้วด้วย ไม่ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย คณะแต่งรัฐธรรมนูญจำต้องรับทั้งขึ้นทั้งล่อง ไม่ว่าจะผ่านประชามติหรือไม่
ระยะหลังเมื่อมีใบสั่ง หรือคำแนะนำจากคณะควายเสือช้าง มีหลายข้อสำหรับบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ กรณีที่มาของนายกฯ สส. และ สว. องค์กรอิสระ แสดงให้เห็นทัศนคติของนักตีกินชุบมือเปิบผ่านอำนาจที่ตัวเองไม่ได้ลงทุนลงแรง ประวัติชีวิตมีด้านลบมากกว่าความดีงามทรงคุณค่า
ข้อเรียกร้อง ข้อเสนอแนะ ตามใบสั่งสะท้อนให้เห็นพฤติกรรมอำนาจนิยมชัดเจน คำอ้างที่ว่า “อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน” นั้นหนักแน่นพอๆกับพลังของผายลมสุนัขยามบ่ายหน้าแล้ง
มีแต่พวกบ้องตื้นด้อยสติปัญญาเท่านั้นหลงเชื่อว่าเป็นจริง
ประชาชนบ้านนี้เมืองนี้ไม่เคยเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย การต่อสู้กับอธรรม เผด็จการทรราชทุกยุคจะมีนักตีกิน ชุบมือเปิบสวมรอยเข้ามากุมอำนาจรัฐอย่างหน้าด้านๆ อาศัยอำนาจคือธรรม มีคำหวาน คำมั่นว่าจะทำนั่นนี่โน่นเพื่อประโยชน์สุขของปวงชน ผลสุดท้ายชาวบ้านโดนต้มจนสุก
นั่นหลังจากเอาร่างกายเข้าเสี่ยง ชีวิตเข้าแลก เผชิญอำนาจเถื่อนสารพัดจากเครือข่ายกังฉิน
บ้านนี้เมืองนี้ไม่มีวันพ้นจากกับดักถ่วงประเทศ ระบบอุปถัมภ์ค้ำชูของ เครือข่ายรุ่นพี่รุ่นน้องในสถาบันศึกษา หลักสูตรพิเศษต่างๆ ได้ทำลายหลักการ กระบวนการตรวจสอบ ระบบยุติธรรม จนมีคำพูดประชดว่า “คุกมีไว้ขังหมากับคนจน” ในความเป็นจริง “หมา” ยังไม่เคยโชคร้ายถึงขนาดนั้น
ดังนั้น การแสดงอำนาจบาตรใหญ่ของพวกนิยมอำนาจสะท้อนให้เห็นสภาพสังคมด้อยพัฒนาทางการเมืองอย่างน่าอนาถ ประเทศไทยจึงล้าหลังกว่าเพื่อนบ้านด้านคุณภาพการศึกษา องค์กรตำรวจ อัยการ จึงไม่ได้รับความน่าเชื่อถือด้านการทำงานแบบเที่ยงธรรม ความเป็นมืออาชีพ
เมื่อหลักสำคัญคือกระบวนการยุติธรรมไร้ค่า ปราศจากความน่าเชื่อถือ ทุกอย่างจึงขับเคลื่อนไปไม่ได้เพราะกฎหมายไม่เป็นกฎหมาย คนมีเส้น คนรวย มีอำนาจ ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย
ประเทศไทยจึงเป็นเป้าของเสียงหัวเราะเย้ยหยันของประชาคมโลกเมื่อมีข้อกังขาในการสืบสวน สอบสวนคดีอาญาดังๆ ถ้าไม่บิดเบือน หาแพะ ปล่อยให้หมดอายุความ ก็มีผลแบบประหลาดๆ จากการใช้ดุลพินิจของผู้มีอำนาจโดยผู้รับผิดชอบประเทศๆไม่รู้สึกอับอายขายหน้า คิดแก้ไข
จะหวังให้เจ้าหน้าที่ดำรงความเที่ยงธรรม รับประกันความยุติธรรมได้อย่างไรในเมื่อมีเสียงร่ำลือมาโดยตลอดว่าตำแหน่งสำคัญในองค์กรซึ่งหารายได้นอกกฎหมายนั้นต้องซื้อมาด้วยเงินและระบบเส้นสาย เมื่อสำเร็จแล้วต้องทุ่มเทกับการหารายได้ถอนทุนและบวกกำไรเอาไว้วิ่งเต้นต่อไป
ความเสื่อมสะสมจึงไม่มีวันแก้ไขได้ เพราะผู้มีอำนาจต้องทำการทุจริตเพื่อความมั่งคั่ง การสะสมทรัพย์สินผ่านการทุจริตโดยอาศัยตำแหน่งและอิทธิพลถ้าทำได้สำเร็จถือว่าคุ้ม กินอยู่ถึงรุ่นลูกหลาน โอกาสจะถูกดำเนินคดีมีน้อยตราบใดที่เครือข่ายของพวกกังฉินก้มหน้าก้มตาช่วยเหลือกัน
รัฐธรรมนูญของคณะมีชัยกำกับโดยคณะควายเสือช้างจึงแฝงด้วยเงื่อนปมเพื่ออำนาจของบุคคลกระสันในอำนาจโดยมิได้เห็นแก่ผลประโยชน์ของบ้านเมือง เป็นเพียงตัวหนังสือไร้จิตวิญญาณของความเป็นกฎหมายสูงสุด แต่เป็นพาหนะหรือเครื่องมือของพวกวางแผนชุบมือเปิบ
เมื่อประชาชนไม่ให้ความสำคัญต่อรัฐธรรมนูญ ความคงอยู่ของกลุ่มผู้กุมอำนาจด้วยวิธีแฝงเร้นฉ้อฉลก็ขาดฉันทานุมัติบริสุทธิ์ของประชาชน ไม่ต่างจากนักต้มตุ๋นสิบแปดมงกุฎ อาชญากรชั้นต่ำ
เมื่อประชาสังคมเห็น รับรู้ว่าคณะมีชัยได้รับใบสั่งแต่งร่างรัฐธรรมนูญ ย่อมไม่ไว้ใจใครก็ตามที่จะมากุมอำนาจรัฐ เมื่อไร้ผลงานน่าประทับใจ ทั้งยังอาบด้วยคาวฉาวของการทุจริต วางเครือข่ายนักฉ้อฉล เล่นเกมกลการเมือง บ้านเมืองไร้อนาคต ความมั่นคง ก็อย่าหวังว่าจะสงบสุขยั่งยืน
ประเทศไทยจึงเป็นเดิมพันน่าพิสมัยของนักฉ้อฉล อาชญากรหลากสายพันธุ์รวมตัวเป็นกลุ่มก๊วนลงขันด้วยทุนก้อนใหญ่เพื่อตั้งพรรคการเมืองในการช่วงชิงอำนาจรัฐ เป็นอย่างนี้โดยตลอดไม่ว่าจะมีรัฐธรรมนูญเลิศหรูดูดีเพียงใดก็ตามเพราะตัวเล่นหลักๆ ยังเป็นกลุ่มตัวโกงกังฉินหน้าเดิมๆ
นั่นเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลด้วยการรัฐประหารเกือบทุกครั้งเป็นเพียงการแย่งชิงโอกาสกุมอำนาจรัฐเพื่อทุจริตสร้างความมั่งคั่ง บทเสริมมหกรรมผักชีโรยหน้าแหกตาชาวบ้าน
ช่วงนี้คณะมีชัยจึงดูไม่มีค่านัก เพียงแค่เร่งแต่งรัฐธรรมนูญให้ตามใจ ตรงกับความต้องการผู้กระสันสืบทอดอำนาจซึ่งกาลเวลาจะเปิดหน้ากากให้เห็นตัวตนเมื่อฤดูกาลชิงอำนาจมาถึง
บทบัญญัติต่างๆ ตามใจผู้มีอำนาจจึงไม่น่าไว้วางใจอย่างยิ่ง ว่าแฝงเจตนาไม่ซื่อ น่าเสียดายที่บรรดาผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ ในคณะนักแต่งรัฐธรรมนูญไม่มีปากเสียง แสดงความคิดเห็นต่อต้านอำนาจแฝงเร้นซึ่งแทรกแซง บงการการร่างกฎหมายสูงสูด ทำให้ดูเหมือนเป็น “กฎหมายส่วนตัว”
ตัวท่านมีชัยไทยแลนด์ย่อมตระหนักอยู่แก่ใจว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเป็นผลงานของการ “ทดแทนบุญคุณแผ่นดิน” ตามความต้องการและตัวเองสามารถเงยหน้าสู้ฟ้า นอนตายตาหลับหรือไม่ หรือเป็นเพียงอีกฉากหนึ่งของชีวิตของการเป็นนักแต่งกฎหมายสำหรับนักรัฐประหารหลายรุ่น
ถ้าผิดหวังในผลงาน ท่านมีชัยมีจิตสำนึกต้องการ “ทดแทนบุญคุณแผ่นดิน” แท้จริง ต้องรักษาเกียรติยศ เกียรติภูมิของสภาพความเป็นนักกฎหมายด้วยการเปิดหมวกโบกมืออำลาหน้าที่ทันที
ท่านมีชัยย่อมเลือกได้ว่าจะเดินจากไปอย่างสง่างาม คอตั้งบ่า หรือคุกเข่ายอมสยบต่ออำนาจ นี่จะเป็นประเด็นสำหรับการเล่าขานว่าผลสุดท้ายท่านมีชัยเป็นบุคคลเช่นใดกันแน่