พักนี้ผมเกิดอารมณ์เซ็งๆ กับพาราสารขันธ์ขึ้นมาอีกแล้ว เพราะเรื่องบ้าๆ บอๆทั้งคนทั้งพระมันมากวนใจตลอด
ผสมกับปัญหาบ้านเมืองที่เกิด ได้ยินกูรูทางการเมืองหลายคนวิพากษ์วิจารณ์เป็นโทนเดียวกันว่า ปัญหามันหมักหมมทับถมสลับซับซ้อนเกินกำลังที่ทวยทหารจะรับไหว แม้จะตั้งใจดีอย่างไร แต่ก็ดูเหมือนจะแบกรับเกินสติปัญญาที่มีอยู่จะแบกรับไหว
การคิดจะเขียนรัฐธรรมนูญให้มีบทเฉพาะ ให้ทหารคงอำนาจอยู่ต่อไปแบบที่อาจารย์บวรศักดิ์ อุวรรณโณ นักร่างรัฐธรรมนูญแกกระแนะกระแหนว่า “เขาอยากอยู่ยาว...” ก็กำลังถูกฟากฝ่ายการเมืองอย่างประชาธิปัตย์และพลพรรคของทักษิณดาหน้าออกมาคัดค้านกันอย่างเป็นขบวนการ ทำให้ทหารเองก็ออกอาการหงุดหงิดชนิดกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
คนดูอย่างพวกเราก็ออกอาการผะอืดผะอมเหมือนกัน หรือใครไม่รู้สึกอย่างผมก็แล้วกันไป
เพราะถึงยังไงผมก็ไม่ซีเครียดอันใดดอก เซ็งมากๆ ก็แค่บ่นระบายเป็นบทกวี ตามประสานักกลอนนอนเปล่าก็เศร้าใจแค่นั้นเอง 555
เหมือนวันจันทร์ที่ผ่านมาหมาดๆ ข่าวศาลอาญาพิพากษาจำคุกกรรมกรข่าวเจ้าสัวชื่อดัง สรยุทธ สุทัศนะจินดา 13 ปี ไม่รอลงอาญา แน่นอนว่าในกระบวนการศาล ก็ยังมีสิทธิประกันตัวสู้คดีต่อในชั้นอุทธรณ์และฎีกา
แต่ผมก็หวังว่า คนอย่างนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา จะเคารพจริยธรรมสื่อด้วยการพักหน้าที่ทางทีวีระหว่างการสู้คดี เพราะถือว่าคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ก็ส่งผลให้การทำหน้าที่สื่อทางทีวีมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อสื่อสารมวลชนแน่นอน ผมก็เขียนกระตุกเตือนดังนี้
“เรื่องเล่าเช้าพรุ่งนี้”
แล้วความยุติธรรม ก็มาถึง
จะยื้อยุด ฉุดดึง หาได้ไม่
ขออุทธรณ์ ฎีกา อย่ายาวไกล
พิพากษา ให้เร็วไว เถิดพระคุณ
หลายคดี มีหลักฐาน ผ่านมวลชน
อย่าเพ่งกฎหมาย จนน้ำใสขุ่น
สืบพยาน ลากยาว ชุลมุน
ยาวนาน ไม่สมดุล ที่ควรเป็น
ไร่ส้ม ส้มเน่า มานานนัก
เช้านี้ ยังเชิดชัก เล่าข่าวเล่น
กรรมกร ข่าวเจ้าสัว ยังหน้าเป็น
ช่องสาม ก็ยอมเหม็น หมกส้มเน่า
สังคม ยอมจำนน สีทนได้
ก็จำยอม จำใจ ฟังเรื่องเล่า
จะดูใจ ช่องสาม ถามใจเรา
พรุ่งนี้เช้า...ยังกล้าเล่า ให้รู้ไป
ว.แหวนลงยา
พอเช้าวันอังคารต่อมา เปิดทีวีช่อง 3 ก็เห็นนายสรยุทธ ยังออกรายการเรื่องเล่าเช้านี้เป็นปกติหน้าตาเฉย ก็ไม่ว่ากัน แค่เขียนแถมอีกบทว่า
“เรื่องเล่าเช้านี้”
นักเล่าข่าว เจ้าสัว ไม่สำนึก
จริยธรรม ไม่รู้สึก ไม่รู้สา
เลียนแบบ ปาราชิก แล้วด้านชา
เชิดหน้า ออกอากาศ ไม่อายคน
เขาจับได้ ไล่ทัน ว่าโกงชัด
ศาลตัดสิน โทษขั้น โทษปล้น
ไม่รอลง อาญา ยังหน้าทน
ใช้สิทธิ ประกันตน อุทธรณ์ฎีกา
คดีความ ก็ว่ากัน ตามขั้นตอน
แต่งานสื่อ ต้องรู้ร้อน รู้สึกรู้สา
เหมือนศีล ขาดอาบัติ ต้องอาชญา
ต้องหยุด หน้าที่สื่อ โดยดุษฎี
ช่องสาม อย่าหามสื่อ สวนกระแส
สังคม จะตีแผ่ ว่าบัดสี
อย่าเลียนแบบ โล้นห่มเหลือง อลัชชี
ถุยส์...เรื่องเล่าเช้านี้...หน้าไม่อาย
ว.แหวนลงยา
สื่อกันมาก็สื่อกันไปแบบนี้แหละครับ ตรงไปตรงมาไม่ต้องอ้อมค้อมกัน
สังคมพระก็ดิบด้านไม่ต่างกัน พระที่ทำผิดธรรมวินัยถึงขั้นปาราชิก ก็ยังแต่งพระลอยนวลนะจ๊ะนะจ๋าหลอกลวงประชาชนได้อย่างเป็นปกติสุข พระชั้นสมเด็จที่ด่างพร้อยทั้งตัว ก็อยากเป็นพระสังฆราชโดยไม่ดูฐานานุรูปตนเองว่าสมควรหรือไม่ นี่ก็มีการปลุกระดมวัดทั่วประเทศให้ขึ้นป้ายสนับสนุนแบบเดียวกับนักการเมืองน้ำเน่าไม่ผิดกันเลย
ใครยังไม่รู้สึกรู้สา ไม่มีอารมณ์เซ็งเป็ดเหมือนผมก็ตามแต่ใจตามสบาย ตัวใครตัวมันเถิดนะครับ
ผมก็แค่ขออนุญาตกระแอมกระไอเป็นบทกวีให้ที่มันคันคะเยอในลำคอให้ออกไปบ้างเท่านั้นเอง
“ทุดส์...!”
โอ้พารา สารขันธ์ ด้านทั้งแผ่นดิน
ทั้งคนทั้งพระ ปล้อนปลิ้น เกินรับได้
ล้วนดิบด้าน ไม่กระดาก ทั้งปากใจ
ผิดถูไถ หน้าทน ทั้งคนทั้งพระ
อาบัติ ปาราชิก ต้องอาชญา
ไม่รู้สึก รู้สา ไร้ตรรกะ
สื่อก็สื่อ แต่สื่อ ไร้สาระ
คนก็เสพ แต่ขยะ อาเพศพิษ
โอ้พารา สารขันธ์ ขันไม่ออก
ได้แต่กลอก ตากัน คันถูกผิด
ดิบด้านกัน ทั้งแผ่นดิน เหมือนสิ้นคิด
ทั้งคน ทั้งพระ วิปริตพอๆ กัน
ว.แหวนลงยา