xs
xsm
sm
md
lg

ลุ้น มส.ลงดาบ“ธัมมชโย”วันนี้ DSIส่งสำนวนชงเอาผิดปาราชิก วาง4แสนประกัน“สนิทวงศ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - นายกฯ ย้ำ"ธรรมกาย" ฝ่าฝืน กม.ไม่ได้ ท้าไม่ผิดให้ออกมาสู้คดี "ลีลาวดี" โผล่ทำเนียบฯบีบน้ำตาขอเลิก ม.44 ขู่ฟ่อ “อย่าให้หมดความอดทน” ด้าน “ไก่อู” โร่ปัดข่าวดีเอสไอเผด็จศึกธรรมกายใน 5 วัน “สนิทวงศ์” มอบตัวกองปราบฯก่อนได้ประกัน ส่วนข้อหาขัดคำสั่ง คสช.ฝากขังวันนี้ สตช.-ปปง.-ดีเอสไอ ขนข้อมูลชง มส.เอาผิด “ธัมมชโย” ในการประชุมวันนี้

วานนี้ (9 มี.ค.) ที่โรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง จ.ปราจีนบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างพบปะประชาชน และบรรดาข้าราชการที่มารอต้อนรับว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามทำทุกเรื่องอย่างเต็มที่ แต่อาจยังมีความไม่เข้าใจและการต่อต้านอยู่บ้าง ซึ่งตนไม่สามารถควบคุมได้แม้จะเข้ามาแบบนี้ โดยทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ชุมนุมกันที่ไหนก็ต้องใช้กฎหมายเดียวกัน ต้องขึ้นศาลและกระบวนการยุติธรรม ถ้าไม่ผิดก็มาต่อสู้คดี ไม่สามารถยกให้ได้ เพราะจะเละไปหมดทุกเรื่อง แล้วอย่ามาอ้างว่ารัฐบาลหรือ คสช.ละเมิดสิทธิมนุษยชน เราไม่ต้องการใช้กำลัง แต่ให้ใช้กฎหมาย วันนี้แม้มีอำนาจตามมาตรา 44 ก็ใช้ไม่ได้ หากทุกคนไม่เชื่อถือ ดังนั้นจึงขอร้องให้ทุกคนร่วมมือและมีหลักคิด

“เรื่องวัดพระธรรมกาย ถูกหรือผิด ผมไม่รู้ เป็นเรื่องของศาสนา แต่จะฝ่าฝืนกฎหมายไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

** ปัดเผด็จศึกภายใน 555 วัน

ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งการให้ชี้แจงกรณีกระแสข่าวว่าอีก 5 วันจะมีการเผด็จศึกวัดพระธรรมกายว่า จากการตรวจสอบจากคำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้วพบว่า การที่เจ้าหน้าที่ออกมาพูดถึงระยะเวลา 5 วันนั้น ความหมายคือจะมีความก้าวหน้าของคดีเป็นลำดับไป ไม่ได้พูดว่า 5 วันจะจบประเด็น จึงขอร้องอย่าไปตีความเช่นนั้น

“ที่พูดว่า 5 วันนั้น ไม่ได้หมายความว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าไปเผด็จศึก หรือเข้าตีไม่ใช่แบบนั้น ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่อย่างระมัดระวังไม่อยากให้เกิดปมประเด็นที่จะทำให้ฝ่ายต่างๆนำไปขยายผลในเชิงเสียหายได้” พล.ท.สรรเสริญกล่าว

** แจงสึกพระต้องจับตัวให้ได้ก่อน

ส่วนกระแสเรียกร้องอยากให้มีการจับสึกพระสงฆ์ที่กระทำผิดกฎหมายนั้น พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า การจะสึกพระนั้นต้องยึดหลักตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ มาตรา 21 คือ ถ้ามีการกระทำความผิดเจ้าหน้าที่จะต้องจับตัวผู้ที่กระทำผิดได้เสียก่อน ถึงจะสามารถดำเนินการจับสึกได้ หากไม่ยึดตามกฎหมาย ก็ต้องมีการสึกผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียอย่างมากมาย ก็จะเป็นปัญหากันอีก สิ่งที่ทำได้ก็คือต้องดำเนินการเป็นขั้นตอนค่อยๆกดดันเพื่อให้สังคมเกิดความเข้าใจ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการประชุมมหาเถระสมาคม (มส.) ในวันที่ 10 มี.ค.นี้ นายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการหรือมอบหมายโยบายเกี่ยวกับวัดธรรมกายอย่างไรบ้าง พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวมีการรายงานในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาแล้ว คงเป็นเรื่องของการประสานงานระหว่างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องว่าขั้นตอนต่อไปจะต้องทำอะไร ซึ่งก็คงมีสมมุติฐานในหลายหลายกรณี ว่ากรณีแบบนี้จะทำอย่างไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับทราบและมอบหมายให้รัฐมนตรีทุกคนได้ติดตามข้อมูลโดยตลอดไม่ว่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้อง เนื่องจากนายกรัฐมนตรีต้องการให้ทุกคนได้ช่วยกันชี้แจงให้สังคมทราบว่า เรื่องของวัดธรรมกายไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเป็นเรื่องของสงฆ์และเมื่อมีฆราวาสเข้าไปยุ่งเกี่ยวก็อาจทำให้สังคมเกิดความไขว้เขว หรืออาจได้ข้อมูลไม่ครบถ้วนแท้จริงทั้งหมด

** "ลีลาวดี" ขู่อย่าให้หมดความอดทน

ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย และตัวแทนสมาชิกเครือข่ายวัดพระธรรมกาย 7 คน ยื่นหนังสือถึง หัวหน้า คสช. เพื่อขอให้ยกเลิกมาตรา 44 และให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจ ทหาร ออกจากพื้นที่วัดพระธรรมกาย มูลนิธิธรรมกาย และพื้นที่ควบคุมตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 5/2560 โดยในระหว่างให้สัมภาษณ์ น.ส. ลีลาวดี มีอาการคล้ายสะอึกสะอื้นตลอดเวลา
ทั้งนี้ น.ส.ลีลาวดี กล่าวช่วงหนึ่งว่า วัตถุประสงค์ของหมายค้น เพื่อจับกุมพระธัมมชโยเท่านั้น แต่บริเวณตลาดที่อยู่ตรงข้ามวัด เห็นชัดว่าไม่มีพระธัมมชโยอยู่ แต่ทำไมยังมีกำลังทหาร ตำรวจ เข้าไปปิดกั้น ไม่ให้ประชาชนเข้าไปสวดมนต์ ซึ่งเป็นการใช้ มาตรา 44 เกินขอบเขต ทำแบบนี้ไม่เหมาะสม ในฐานะคนไทยคนหนึ่งมีความรู้สึกอับอาย จึงมาเพื่อทวงคืนวัดพระธรรมกายให้กับพระพุทธศาสนา อย่าให้พวกเราต้องหมดความอดทน

** “พระสนิทวงศ์” มอบตัว-ได้ประกัน

อีกด้าน เมื่อ เวลา 09.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้นำ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส อายุ 45 ปี ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย และผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 634/2560 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2560 ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน , กระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือประการอื่นใดอันมิใช่ความมุ่งหมายแก่รัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน อันก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และตำรวจที่เกี่ยวข้องรอรับตัว พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 150 นายควบคุมสถานการณ์

หลังใช้เวลาสอบปากคำพระสนิทวงศ์ กว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า พระสนิทวงศ์ ให้การรับสารภาพในข้อเท็จจริงที่ปรากฎอยู่ แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยประเด็นที่ซักถามพระสนิทวงศ์ นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่และตำแหน่ง ผอ.สำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย เช่นว่ามีบัญญัติไว้ในพระธรรมวินัยหรือไม่ ซึ่งพระสนิทวงศ์ ระบุว่าไม่มีบัญญัติในพุทธศาสนา แต่เป็นการแต่งตั้งขึ้นมาเอง และประเด็นความชัดเจนเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินของวัด ที่ได้รับคำยืนยันจากพระสนิทวงศ์ ว่ามีเพียง 197 ไร่ ส่วนอีกกว่า 2,000 ไร่ อยู่ในความครอบครองของมูลนิธิวัดพระธรรมกาย ทั้งนี้ได้มีการซักถามและปรึกษาข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับทางสงฆ์กับ พระครูวิจิตร อาภากร เจ้าคณะตำบลคลอง 4 จ.ปทุมธานี เพื่อใช้สำหรับประกอบสำนวนคดีให้มีความรัดกุมด้วย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวพระสนิทวงศ์ ไปขออำนาจศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อผลัดฟ้องฝากขังต่อไป โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าหากได้รับการประกันตัวแล้วผู้ต้องหาจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ต่อมาผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ประกอบหลักทรัพย์ 6 แสนบาท ศาลพิจารณาแล้ว มีเหตุให้ปล่อยชั่วคราว พร้อมกำหนดเงื่อนไขในการปล่อยตัวคือ ห้ามขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่, ห้ามยุยงปลุกปั่นประชาชนอันจะเกิดความไม่สงบและล่วงละเมิดกฎหมาย, ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นได้รับอนุญาตจากศาล และกำหนดในวงเงินหลักทรัพย์ 4 แสนบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ เตรียมพาพระสนิทวงศ์เดินทางกลับ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองห้า ได้มารออายัดตัวเพื่อดำเนินคดีในความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตามคำสั่งของอธิบดีดีเอสไอที่ 4/2560 ลงวันที่ 19 ก.พ.2560 ซึ่งออกตามคำสั่ง คสช.ที่ 5/2560 โดยพระสนิทวงค์ มีสีหน้าเรียบเฉย เดินทางขึ้นรถตู้จากศาล พร้อมรถวิทยุกับรถหุ้มเกราะปิดท้าย ไปยังห้องประชุมเพื่อสอบปากคำ สภ.คลองห้า ทันที

ภายหลังการสอบปากคำพระสนิทวงศ์เสร็จสิ้น โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง นายปรัชญา ก้อนจันทร์ ทนายความ เปิดเผยว่า หลังจากรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว พนักงานสอบสวน ได้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว และสามารถเดินทางกลับเข้าวัดพระธรรมกายได้ตามปกติ เนื่องจากวันนี้ไม่สามารถนำตัวพระสนิทวงศ์ ไปขออำนาจศาลจังหวัดธัญญบุรีพิจารณาฝากขังได้ เพราะสิ้นสุดเวลาทำการของศาลแล้ว โดย พระสนิทวงศ์ จะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า ในเวลา 09.00 น.ก่อนนำส่งศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อขออำนาจฝากขังตามขั้นตอนกฏหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกศิษยานุศิษย์ วัดพระธรรมกาย ได้เดินทางมายัง สภ.คลองห้า เพื่อร่วมสังเกตุการณ์การรับทราบข้อกล่าวหาของพระสนิทวงศ์ด้วย พร้อมเปิดเผยสั้นๆก่อนเดินทางกลับพร้อมพระสนิทวงศ์ว่า หลวงพี่กลับไปจำที่วัดพระธรรมกายคืนนี้ และจะมาพบพนักงานสอบสวนหลังฉันเพล ส่วนพระเสกสรรค์ อัตตทโน นั้นไม่ได้พักอยู่วัดพระธรรมกาย--จบ

ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.คลอง 5 เปิดเผยว่า วันนี้นำตัวพระสนิทวงค์ไปขออำนาจศาลจังหวัดธัญบุรีไม่ทัน เนื่องจากหมดเวลาราชการ ซึ่งอาจให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และนัดหมายเพื่อไปฝากขังใหม่ในวันที่ 10 มี.ค.เวลา 09.00 น.

** ส่งสำนวนความผิด “ธัมมี่” ให้ มส.

ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พ.ต.ท.ปกรณ์ สุขชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินและการธนาคาร ดีเอสไอ เป็นตัวแทนดีเอสไอเดินทางเข้าพบและยื่นเอกสารทางคดีในความผิดของพระธัมมชโย ต่อ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ซึ่งเอกสารที่นำมายื่นเป็นการรวบรวมคดีของทางกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ระบุถึง พระธัมมชโยมีความผิดฐานฟอกเงินและรับของโจร ต้องอาบัติปาราชิก ซึ่งมีความผิดตามคดีอาญา อีกทั้งยังมีพฤติกรรมหลบหนีคดี จึงขอยื่นเรื่องให้ พศ.ส่งต่อไปยังมหาเถรสมาคม (มส.) เพื่อพิจารณาตามพระธรรมวินัยต่อไป

เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบช.ส.4 นำเอกสารทางคดีในความผิดของพระธัมมชโย ที่ พศ.ได้ขอทราบข้อกล่าวหาทางคดีของพระธัมมชโย เข้ายื่นต่อ พ.ต.ท.พงศ์พร เช่นกัน โดย พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า พศ.ได้ยื่นหนังสือขอทราบข้อกล่าวหาทางคดีของพระธัมมชโย จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งมีสถานีตำรวจที่เกี่ยวข้องคือ สภ.คลองหลวง สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี สภ.อุ้มผาง จ.ตาก สภ.เกาะยาว จ.พังงา สภ.ภูเรือ จ.เลย กองบังคับการกองปราบปราม กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสิ้น 346 คดี มีการออกหมายจับผู้ต้องหา 24 หมายในส่วนของพระธัมมชโย ในฐานะส่วนตัวและนิติบุคคลมี 16 หมาย ในวันนี้นำเอกสารมามอบให้กับทาง ผอ.พศ. ที่ได้ขอมาเพื่อพิจารณาในส่วนพระธรรมวินัย

** จับตาประชุม มส.วันนี้ (10 มี.ค.)

ต่อมา นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เดินทางนำเอกสารทางคดีในความผิดเกี่ยวกับทางการเงินและทรัพย์สินที่มีส่วนเกี่ยวกับกระทำความผิดของพระธัมมชโย ยื่นต่อ ผอ.พศ. ซึ่งในส่วนของ ปปง. ได้ส่งรายงานผลคดีตั้งแต่เรื่องการทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เกี่ยวโยงกับเส้นทางการโอนเงิน โดยปปง. ได้ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สิน มีการตรวจยึดตามคำสั่งอายัดเงินในบัญชีธนาคารของพระธัมมชโย และเครือข่ายมูลนิธิของวัดพระธรรมกายรวม 4 บัญชี มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท และการกระทำความผิดเกี่ยวกับที่ดินที่เขาใหญ่ซึ่งมีหลักฐานเส้นทางการเงินและการบุกรุกพื้นที่ป่า

ด้าน พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวว่า จะทำการตรวจสอบพร้อมนำเสนอเอกสารทางคดีต่างๆ ที่หลายหน่วยงานนำมามอบให้ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งมา เพื่อพิจารณาชี้ความผิดทางวินัยของพระธัมมชโย ว่ามีความผิดทางวินัยสงฆ์หรือไม่ ด้วยว่าการกระทำความผิดในข้อหารับของโจรต้องอาบัติปาราชิก จึงขอยื่นเรื่องให้ พศ.ส่งต่อไปยังมหาเถรสมาคม (มส.) เพื่อพิจารณาตามพระธรรมวินัยเพื่อเข้าสู่การประชุมคณะมหาเถรสมาคม ในวันนี้ (10 มี.ค.) ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม.โดยทาง พศ.ได้ขอเรื่องคดีต่างๆทุกหน่วยงาน ให้ทาง มส.ได้พิจารณา เพราะคณะสงฆ์ต้องปกครองคณะสงฆ์.
กำลังโหลดความคิดเห็น