“สอดแนมการเมือง”
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ว่าด้วย..เหตุการณ์ “บิ๊กตู่-น็อตหลุด” อาละวาดใส่ผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 งานนี้ต้องมองเรื่องนี้เช่นไร? แม้นายกฯ “บิ๊กตู่ ”จะได้แสดงความเป็น “ชายชาติทหาร” อีกครั้ง ด้วยการขอโทษผู้สื่อข่าวและประชาชนแล้วก็ตาม
ก่อนอื่นต้องให้กำลังใจ-เข้าใจ-เห็นใจต่อ “นายกฯบิ๊กตู่” ไว้ ณ ที่นี้ แต่ก็ขอบอก “บิ๊กตู่” แบบ “ขวานผ่าซาก” ว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งในหลักการหลายเรื่อง
“ใครหน้าไหนก็ตาม” หากจะขึ้นมาเป็น“ผู้นำชาติ” ต้องรู้และปฏิบัติในหลักการที่ว่า ก่อนจะอาสาเข้ามาทำงานเพื่อชาติและประชาชน ต้องรู้แจ้งเห็นจริงในสิ่งเหล่านี้..
การจะเป็น“ผู้นำชาติที่ดี” ต้องรู้และแยกแยะในสิ่งถูกและสิ่งผิดให้ได้ก่อน ต้องรู้และแยกแยะได้ว่า ใครดีและใครชั่ว เพราะจะได้แยกมิตรแยกศัตรูของชาติได้อย่างชัดแจ้ง ต้องรู้ต้นเหตุปัญหาที่เป็นวิกฤตชาติและประชาชน ต้องรู้ว่าเรื่องไหนต้องแก้ไขทันที เรื่องไหนแก้ไขช้าหน่อยได้
แต่ทั้งหมดลงท้ายที่ “ผู้นำชาติที่ดี” ต้องกล้า-ต้องจริงจัง-ต้องจริงใจ กับการขจัดต้นเหตุปัญหาของชาติอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด!
เมื่อ “กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด” ทำให้แยกมิตรแยกศัตรูไม่ออก จึงแก้ต้นเหตุปัญหาชาติไม่ได้
ดังนั้น “ใครก็ตาม” ที่อาสาเป็น“ผู้นำชาติ” จึงต้องรู้อยู่ก่อนแล้วว่า งานหนัก-เรื่องเยอะ-ต้องตัดกิเลสส่วนตนและพวกพ้อง-ต้องทำเพื่อส่วนรวม-ต้องชาญฉลาด-ต้องกล้าหาญ-ต้องเด็ดขาด-ต้องอดทน ฯลฯ
ที่สำคัญ ต้องไม่มีสันดานโกงชาติ ต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทั้งกายและใจ.. มิใช่รักแต่ปาก จนมีการกระทำที่ “ปากกับใจ-ไม่ตรงกัน” หรือ “พูดอย่าง-ทำอย่าง”
ด้วยหลักการดังกล่าว จึงต้องถือว่า “บิ๊กตู่” หรือ “ใครก็ตาม” เมื่อมีอำนาจ สามารถจะทำดีเพื่อชาติ แต่ไม่ทำ! ต้องถือว่าเป็นคนที่ทำร้ายชาติเช่นกัน!
แต่อย่าได้กังวลใดๆ เลย หาก “ผู้นำรักชาติจริง” ทำตามหลักการดังกล่าวไม่ได้ ก็มีทางออกให้อยู่แล้วนั่นคือ “เปิดทาง”ให้คนที่มีความรู้ความสามารถความกล้า ฯลฯ เข้ามาทำหน้า “ผู้นำชาติคนใหม่ ”แทนไงล่ะ
“ใครก็ตาม” ถ้ารักชาติมากกว่ารักตัวเองจริง ล้วนมีทางออกให้กับคนดีที่รักชาติเสมอ..จริงไหม?
เอาล่ะ..คราวนี้มาพูดถึง “นายกฯบิ๊กตู่” กันดีกว่า เพราะเขาได้อาสาเข้ามาบริหารชาติบ้านเมือง ด้วยการ “ยึดอำนาจด้วยปืน” มานานเกือบ 2 ปี
ต้องยอมรับความจริงในวันนี้ว่า การบริหารชาติสไตล์ “ผู้นำตู่” ทำให้“คอการเมืองที่รักชาติ”วิตกหนักว่า อนาคตการเมืองไทยมีแนวโน้มจะย่ำแย่กว่าเดิมเป็นแน่แท้!
เพราะตอนนี้ “เหลี่ยม” ต่อกรกับ “บิ๊กตู่” ด้วยสูตร “อดทน-กับ-ทนรอ” ตามวิธี “เอ็งมา-ข้ามุด-เอ็งหยุด-ข้าแหย่-เอ็งหนี-ข้าตี-เอ็งแย่-ข้าขย้ำ-เอ็งล้ม-ข้าซ้ำ” สุดท้าย..“เอ็งเลือกตั้ง-ข้าซื้อเสียง”!
หลังเลือกตั้ง “เหลี่ยม” จะเป็น “แกนนำตั้งรัฐบาล” หรือ “เข้าร่วมกับรัฐบาล” หรือ “เป็นฝ่ายค้าน” ล้วนขึ้นกับสภาพความเป็นจริงในตอนนั้น ซึ่ง “เหลี่ยม” กับพวกไม่มีปัญหา ขอแค่ให้มีการเลือกตั้งสกปรกต่อเนื่องเท่านั้น ไม่ช้าก็เร็ว “เหลี่ยม” จะต้องได้ตั้ง “นอมีนี”ของตนเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน
นั่นมิใช่เป็นความเชื่อของ “เหลี่ยม” และพวกเท่านั้น แต่คนรักชาติที่เคยออกมาขับไล่ รัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยมก็เชื่อเช่นนั้น!
เวลารัฐบาล “บิ๊กตู่” กำลังถูกนับถอยหลัง อำนาจรัฐ “บิ๊กตู่” กำลังหมดลงเรื่อยๆ ศรัทธาต่อ “บิ๊กตู่” ก็ถดถอยลงเรื่อยๆเช่นกัน จากผลงานที่ยังแก้ต้นเหตุปัญหา การทำลายชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ไม่ได้เท่าที่ควร
ส่วนการปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนของ “บิ๊กตู่” นั้น ยังไร้จุดหมายปลายทางชัดเจน? บางเรื่องก็ทำยึกๆยักๆจน“ล่มปากอ่าว”? แถมเรื่องที่ควรทำทันทีด้วยอำนาจพิเศษ “บิ๊กตู่” กลับดัน“กล้าหาญ”ประกาศว่า “ตู่ไม่ทำ”?
การปฏิรูปชาติเรื่องสำคัญๆทางโครงสร้าง รัฐบาล “บิ๊กตู่” ยังทิ้งให้คาราคาซังมากมาย ด้วย “บิ๊กตู่” ฝันลมๆ แล้งๆ ให้รัฐบาลใหม่ ที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาทำแทนเฉยเลย
นั่นเท่ากับรัฐบาล “บิ๊กตู่” ทำให้ช่องว่างคนรวยกับคนจน ถ่างกว้างยิ่งขึ้น จนเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ จากสภาพคนไทย “รวยกระจุก-จนกระจาย” คนรวย-รวยมากขึ้น คนจน-จนลงเรื่อยๆ
ส่วน “ร่างรัฐธรรมนูญ”ของ“ปู่มีชัย” นั้น ก็ถูกถล่มเละจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะเครือข่าย “เหลี่ยม” ได้ประกาศชัดว่า จะคว่ำร่าง รธน ของปู่มีชัย ขณะที่พรรค “หล่อจ้อเก่ง” ยังรอดูใจ ว่า “ปู่มีชัย” จะยอมแก้ฯ ในบางประเด็นหรือไม่?
ร่าง รธน จะถูกคว่ำหรือไม่นั้น ไปเกี่ยวพันกับ “วันเลือกตั้ง” อย่างจัง “บิ๊กตู่” จึงต้องลดกระแสกดดันทางการเมือง ด้วยการประกาศว่า แม้ร่าง รธน จะถูกคว่ำด้วยประชามติ “บิ๊กตู่” ก็จะจัดให้เลือกตั้งในช่วงกลางปี 2560 แน่นอน
ทว่าการกดดันทางการเมืองทั้งลับและแจ้ง กลับยิ่งร้อนแรง จน “บิ๊กตู่” โพล่งออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยว่า ใครจะปฏิวัติรัฐประหาร..เชิญเดินออกมาเลย..!!!
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 “บิ๊กตู่” ก็พูดใส่ผู้สื่อข่าวอย่างฉุนเฉียว ผสมคำตัดพ้อปนน้อยใจว่า “ไม่ไว้ใจกันเลยหรือ ผมอยู่มาสองปีแล้ว ไม่เห็นผมทำอะไรบ้างหรือไง ไว้ใจคนอื่นหมดทุกคน แต่ไม่ไว้ใจผม” พูดจบก็ร่อนกระดาษข้อมูลทิ้งลงบนโพเดียม หยุดแถลงข่าวแบบฉับพลัน ทิ้งท้ายให้นักข่าวพากันงงด้วยคำว่า “ไร้ค่า” แล้วเดินจากโพเดียม หันกลับมาพูดย้ำว่า “ผมนะ..ที่ไร้ค่า”
เกือบสองปีที่ “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ เขาได้ต่อว่าผู้สื่อข่าวเบาบ้างแรงบ้าง บางครายังใช้กิริยาไม่เหมาะสมกับฐานะ“ผู้นำชาติ” ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนจุดด้อยของ“บิ๊กตู่” ที่สะท้อนผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง ออกสู่ชาวไทยและชาวโลกอยู่เนืองๆ
แต่สื่อมวลชนที่ดีก็มิได้ถือสา ยังคงทำหน้าที่ “หมาเฝ้าบ้าน” โดยไม่ระย่อ ยกเว้นบรรดาสื่อแดงเครือข่าย “เหลี่ยม” ที่ฉวยโอกาสนำท่าทีอันไม่เหมาะควร ในฐานะ “ผู้นำชาติ”ของ”บิ๊กตู่” ไปทำลาย รัฐบาลของ “บิ๊กตู่” ทั้งลับและเปิดเผยเรื่อยมา
วันนี้ต้องยอมรับว่า การยึดหลัก “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” นั้น จะดูเพียงแค่“กาลเวลาพิสูจน์คน” ไม่ได้โดยเด็ดขาด แต่ต้องดูที่ “ผลงานตามกาลเวลา” ที่คนๆนั้นกระทำด้วยว่า
ใครก็ตาม-ที่ชอบพูดซ้ำๆซากๆว่า รัก-ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์-ยิ่งกว่าชีวิต แล้ววันหนึ่งมี “ส้มหล่น” ใส่เท้า โชคดีได้ทั้งโอกาสและอำนาจอยู่ในกำมือ
วันนั้น-วันที่ “ใครคนนั้น” ได้เป็น“ผู้นำชาติ” ในฐานะนายกรัฐมนตรี เขาคนนั้นยังคิดและยังตั้งใจจะทำดี ให้ชาติบ้านเมืองอย่างเต็มที่อีกหรือเปล่า? เขาคนนั้นจะกล้าลงโทษขบวนการคนชั่ว ที่ทำลายชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์หรือไม่? เขาคนนั้นจะปกป้องดูแลคนดีที่รักชาติหรือไม่?
ผู้คนมักกล่าวว่า ใครก็ตามเมื่อได้ขึ้นครองอำนาจรัฐ “คนดี” ที่เคยรักความถูกต้อง-รักชาติบ้านเมือง-มักมลายหายไป เพราะกิเลสแห่งอำนาจ-เงินทอง-ทรัพย์สิน ฯลฯ จะทำให้ผู้นำชาติที่ฉลาดกลายเป็นคนโง่หรือจงใจแกล้งโง่ ทำให้ผู้นำชาติที่อ้างตนเป็น “คนดี(จอมปลอม)” ที่จะทำเพื่อชาติกลายเป็นคนไม่ชัดเจน ในการทำดีเพื่อชาติ แต่กลับกลายเป็น “คนทำประโยชน์” ให้กับกลุ่มทุนสามานย์และต่างชาติ
ที่สำคัญยิ่ง-กลายเป็น“ผู้นำชาติ” ที่แยกแยะคนดีกับคนชั่ว คนถูกกับคนผิดไม่ได้ ทำให้คนชั่วยังลอยนวลอยู่ในสังคมเต็มไปหมด แถมยังปล่อยคนชั่วทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างสบายใจเฉิบอยู่อีกด้วย ฯลฯ
จน “เขาคนนั้น” ถูกดูแคลนเป็น “ผู้นำชาติ-ลิงหลอกเจ้า” เพราะไม่ยอมใช้อำนาจพิเศษ ขจัดต้นเหตุปัญหาของชาติอย่างจริงจัง เอาแต่ทำงานแบบข้าราชการ ชนิด “ตามน้ำ-ขอไปที-ผักชีโรยหน้า” ฯลฯ
กาลเวลา-ก็แค่บอกให้รู้ว่า ใครคนนั้นอายุยืนยาวแค่ไหน? อยู่ในอำนาจกับตำแหน่งได้นานแค่ไหน? แต่ผลงานผ่านกาลเวลาสิ จะชี้ชัดให้เห็นถึงคุณภาพผู้นำชาติ แต่ละคนว่าเป็นคนดีหรือคนชั่ว เป็นคนกะล่อนเอาตัวรอดหรือเป็นผู้กล้าที่ทำเพื่อส่วนรวม เป็น “ผู้นำ” ที่ทำเพื่อชาติให้กับคนด้อยโอกาส หรือเป็น“ผู้นำ” ที่ทำเพื่อเอื้อกลุ่มทุนสามานย์
“บิ๊กตู่” ต้องรู้นะว่า..ขณะนี้กาลเวลากับผลงานกำลังพิสูจน์ตัว “นายกฯบิ๊กตู่”อยู่นะ...
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ว่าด้วย..เหตุการณ์ “บิ๊กตู่-น็อตหลุด” อาละวาดใส่ผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 งานนี้ต้องมองเรื่องนี้เช่นไร? แม้นายกฯ “บิ๊กตู่ ”จะได้แสดงความเป็น “ชายชาติทหาร” อีกครั้ง ด้วยการขอโทษผู้สื่อข่าวและประชาชนแล้วก็ตาม
ก่อนอื่นต้องให้กำลังใจ-เข้าใจ-เห็นใจต่อ “นายกฯบิ๊กตู่” ไว้ ณ ที่นี้ แต่ก็ขอบอก “บิ๊กตู่” แบบ “ขวานผ่าซาก” ว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งในหลักการหลายเรื่อง
“ใครหน้าไหนก็ตาม” หากจะขึ้นมาเป็น“ผู้นำชาติ” ต้องรู้และปฏิบัติในหลักการที่ว่า ก่อนจะอาสาเข้ามาทำงานเพื่อชาติและประชาชน ต้องรู้แจ้งเห็นจริงในสิ่งเหล่านี้..
การจะเป็น“ผู้นำชาติที่ดี” ต้องรู้และแยกแยะในสิ่งถูกและสิ่งผิดให้ได้ก่อน ต้องรู้และแยกแยะได้ว่า ใครดีและใครชั่ว เพราะจะได้แยกมิตรแยกศัตรูของชาติได้อย่างชัดแจ้ง ต้องรู้ต้นเหตุปัญหาที่เป็นวิกฤตชาติและประชาชน ต้องรู้ว่าเรื่องไหนต้องแก้ไขทันที เรื่องไหนแก้ไขช้าหน่อยได้
แต่ทั้งหมดลงท้ายที่ “ผู้นำชาติที่ดี” ต้องกล้า-ต้องจริงจัง-ต้องจริงใจ กับการขจัดต้นเหตุปัญหาของชาติอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด!
เมื่อ “กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด” ทำให้แยกมิตรแยกศัตรูไม่ออก จึงแก้ต้นเหตุปัญหาชาติไม่ได้
ดังนั้น “ใครก็ตาม” ที่อาสาเป็น“ผู้นำชาติ” จึงต้องรู้อยู่ก่อนแล้วว่า งานหนัก-เรื่องเยอะ-ต้องตัดกิเลสส่วนตนและพวกพ้อง-ต้องทำเพื่อส่วนรวม-ต้องชาญฉลาด-ต้องกล้าหาญ-ต้องเด็ดขาด-ต้องอดทน ฯลฯ
ที่สำคัญ ต้องไม่มีสันดานโกงชาติ ต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทั้งกายและใจ.. มิใช่รักแต่ปาก จนมีการกระทำที่ “ปากกับใจ-ไม่ตรงกัน” หรือ “พูดอย่าง-ทำอย่าง”
ด้วยหลักการดังกล่าว จึงต้องถือว่า “บิ๊กตู่” หรือ “ใครก็ตาม” เมื่อมีอำนาจ สามารถจะทำดีเพื่อชาติ แต่ไม่ทำ! ต้องถือว่าเป็นคนที่ทำร้ายชาติเช่นกัน!
แต่อย่าได้กังวลใดๆ เลย หาก “ผู้นำรักชาติจริง” ทำตามหลักการดังกล่าวไม่ได้ ก็มีทางออกให้อยู่แล้วนั่นคือ “เปิดทาง”ให้คนที่มีความรู้ความสามารถความกล้า ฯลฯ เข้ามาทำหน้า “ผู้นำชาติคนใหม่ ”แทนไงล่ะ
“ใครก็ตาม” ถ้ารักชาติมากกว่ารักตัวเองจริง ล้วนมีทางออกให้กับคนดีที่รักชาติเสมอ..จริงไหม?
เอาล่ะ..คราวนี้มาพูดถึง “นายกฯบิ๊กตู่” กันดีกว่า เพราะเขาได้อาสาเข้ามาบริหารชาติบ้านเมือง ด้วยการ “ยึดอำนาจด้วยปืน” มานานเกือบ 2 ปี
ต้องยอมรับความจริงในวันนี้ว่า การบริหารชาติสไตล์ “ผู้นำตู่” ทำให้“คอการเมืองที่รักชาติ”วิตกหนักว่า อนาคตการเมืองไทยมีแนวโน้มจะย่ำแย่กว่าเดิมเป็นแน่แท้!
เพราะตอนนี้ “เหลี่ยม” ต่อกรกับ “บิ๊กตู่” ด้วยสูตร “อดทน-กับ-ทนรอ” ตามวิธี “เอ็งมา-ข้ามุด-เอ็งหยุด-ข้าแหย่-เอ็งหนี-ข้าตี-เอ็งแย่-ข้าขย้ำ-เอ็งล้ม-ข้าซ้ำ” สุดท้าย..“เอ็งเลือกตั้ง-ข้าซื้อเสียง”!
หลังเลือกตั้ง “เหลี่ยม” จะเป็น “แกนนำตั้งรัฐบาล” หรือ “เข้าร่วมกับรัฐบาล” หรือ “เป็นฝ่ายค้าน” ล้วนขึ้นกับสภาพความเป็นจริงในตอนนั้น ซึ่ง “เหลี่ยม” กับพวกไม่มีปัญหา ขอแค่ให้มีการเลือกตั้งสกปรกต่อเนื่องเท่านั้น ไม่ช้าก็เร็ว “เหลี่ยม” จะต้องได้ตั้ง “นอมีนี”ของตนเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน
นั่นมิใช่เป็นความเชื่อของ “เหลี่ยม” และพวกเท่านั้น แต่คนรักชาติที่เคยออกมาขับไล่ รัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยมก็เชื่อเช่นนั้น!
เวลารัฐบาล “บิ๊กตู่” กำลังถูกนับถอยหลัง อำนาจรัฐ “บิ๊กตู่” กำลังหมดลงเรื่อยๆ ศรัทธาต่อ “บิ๊กตู่” ก็ถดถอยลงเรื่อยๆเช่นกัน จากผลงานที่ยังแก้ต้นเหตุปัญหา การทำลายชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ไม่ได้เท่าที่ควร
ส่วนการปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนของ “บิ๊กตู่” นั้น ยังไร้จุดหมายปลายทางชัดเจน? บางเรื่องก็ทำยึกๆยักๆจน“ล่มปากอ่าว”? แถมเรื่องที่ควรทำทันทีด้วยอำนาจพิเศษ “บิ๊กตู่” กลับดัน“กล้าหาญ”ประกาศว่า “ตู่ไม่ทำ”?
การปฏิรูปชาติเรื่องสำคัญๆทางโครงสร้าง รัฐบาล “บิ๊กตู่” ยังทิ้งให้คาราคาซังมากมาย ด้วย “บิ๊กตู่” ฝันลมๆ แล้งๆ ให้รัฐบาลใหม่ ที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาทำแทนเฉยเลย
นั่นเท่ากับรัฐบาล “บิ๊กตู่” ทำให้ช่องว่างคนรวยกับคนจน ถ่างกว้างยิ่งขึ้น จนเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ จากสภาพคนไทย “รวยกระจุก-จนกระจาย” คนรวย-รวยมากขึ้น คนจน-จนลงเรื่อยๆ
ส่วน “ร่างรัฐธรรมนูญ”ของ“ปู่มีชัย” นั้น ก็ถูกถล่มเละจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะเครือข่าย “เหลี่ยม” ได้ประกาศชัดว่า จะคว่ำร่าง รธน ของปู่มีชัย ขณะที่พรรค “หล่อจ้อเก่ง” ยังรอดูใจ ว่า “ปู่มีชัย” จะยอมแก้ฯ ในบางประเด็นหรือไม่?
ร่าง รธน จะถูกคว่ำหรือไม่นั้น ไปเกี่ยวพันกับ “วันเลือกตั้ง” อย่างจัง “บิ๊กตู่” จึงต้องลดกระแสกดดันทางการเมือง ด้วยการประกาศว่า แม้ร่าง รธน จะถูกคว่ำด้วยประชามติ “บิ๊กตู่” ก็จะจัดให้เลือกตั้งในช่วงกลางปี 2560 แน่นอน
ทว่าการกดดันทางการเมืองทั้งลับและแจ้ง กลับยิ่งร้อนแรง จน “บิ๊กตู่” โพล่งออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยว่า ใครจะปฏิวัติรัฐประหาร..เชิญเดินออกมาเลย..!!!
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 “บิ๊กตู่” ก็พูดใส่ผู้สื่อข่าวอย่างฉุนเฉียว ผสมคำตัดพ้อปนน้อยใจว่า “ไม่ไว้ใจกันเลยหรือ ผมอยู่มาสองปีแล้ว ไม่เห็นผมทำอะไรบ้างหรือไง ไว้ใจคนอื่นหมดทุกคน แต่ไม่ไว้ใจผม” พูดจบก็ร่อนกระดาษข้อมูลทิ้งลงบนโพเดียม หยุดแถลงข่าวแบบฉับพลัน ทิ้งท้ายให้นักข่าวพากันงงด้วยคำว่า “ไร้ค่า” แล้วเดินจากโพเดียม หันกลับมาพูดย้ำว่า “ผมนะ..ที่ไร้ค่า”
เกือบสองปีที่ “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ เขาได้ต่อว่าผู้สื่อข่าวเบาบ้างแรงบ้าง บางครายังใช้กิริยาไม่เหมาะสมกับฐานะ“ผู้นำชาติ” ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนจุดด้อยของ“บิ๊กตู่” ที่สะท้อนผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง ออกสู่ชาวไทยและชาวโลกอยู่เนืองๆ
แต่สื่อมวลชนที่ดีก็มิได้ถือสา ยังคงทำหน้าที่ “หมาเฝ้าบ้าน” โดยไม่ระย่อ ยกเว้นบรรดาสื่อแดงเครือข่าย “เหลี่ยม” ที่ฉวยโอกาสนำท่าทีอันไม่เหมาะควร ในฐานะ “ผู้นำชาติ”ของ”บิ๊กตู่” ไปทำลาย รัฐบาลของ “บิ๊กตู่” ทั้งลับและเปิดเผยเรื่อยมา
วันนี้ต้องยอมรับว่า การยึดหลัก “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” นั้น จะดูเพียงแค่“กาลเวลาพิสูจน์คน” ไม่ได้โดยเด็ดขาด แต่ต้องดูที่ “ผลงานตามกาลเวลา” ที่คนๆนั้นกระทำด้วยว่า
ใครก็ตาม-ที่ชอบพูดซ้ำๆซากๆว่า รัก-ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์-ยิ่งกว่าชีวิต แล้ววันหนึ่งมี “ส้มหล่น” ใส่เท้า โชคดีได้ทั้งโอกาสและอำนาจอยู่ในกำมือ
วันนั้น-วันที่ “ใครคนนั้น” ได้เป็น“ผู้นำชาติ” ในฐานะนายกรัฐมนตรี เขาคนนั้นยังคิดและยังตั้งใจจะทำดี ให้ชาติบ้านเมืองอย่างเต็มที่อีกหรือเปล่า? เขาคนนั้นจะกล้าลงโทษขบวนการคนชั่ว ที่ทำลายชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์หรือไม่? เขาคนนั้นจะปกป้องดูแลคนดีที่รักชาติหรือไม่?
ผู้คนมักกล่าวว่า ใครก็ตามเมื่อได้ขึ้นครองอำนาจรัฐ “คนดี” ที่เคยรักความถูกต้อง-รักชาติบ้านเมือง-มักมลายหายไป เพราะกิเลสแห่งอำนาจ-เงินทอง-ทรัพย์สิน ฯลฯ จะทำให้ผู้นำชาติที่ฉลาดกลายเป็นคนโง่หรือจงใจแกล้งโง่ ทำให้ผู้นำชาติที่อ้างตนเป็น “คนดี(จอมปลอม)” ที่จะทำเพื่อชาติกลายเป็นคนไม่ชัดเจน ในการทำดีเพื่อชาติ แต่กลับกลายเป็น “คนทำประโยชน์” ให้กับกลุ่มทุนสามานย์และต่างชาติ
ที่สำคัญยิ่ง-กลายเป็น“ผู้นำชาติ” ที่แยกแยะคนดีกับคนชั่ว คนถูกกับคนผิดไม่ได้ ทำให้คนชั่วยังลอยนวลอยู่ในสังคมเต็มไปหมด แถมยังปล่อยคนชั่วทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างสบายใจเฉิบอยู่อีกด้วย ฯลฯ
จน “เขาคนนั้น” ถูกดูแคลนเป็น “ผู้นำชาติ-ลิงหลอกเจ้า” เพราะไม่ยอมใช้อำนาจพิเศษ ขจัดต้นเหตุปัญหาของชาติอย่างจริงจัง เอาแต่ทำงานแบบข้าราชการ ชนิด “ตามน้ำ-ขอไปที-ผักชีโรยหน้า” ฯลฯ
กาลเวลา-ก็แค่บอกให้รู้ว่า ใครคนนั้นอายุยืนยาวแค่ไหน? อยู่ในอำนาจกับตำแหน่งได้นานแค่ไหน? แต่ผลงานผ่านกาลเวลาสิ จะชี้ชัดให้เห็นถึงคุณภาพผู้นำชาติ แต่ละคนว่าเป็นคนดีหรือคนชั่ว เป็นคนกะล่อนเอาตัวรอดหรือเป็นผู้กล้าที่ทำเพื่อส่วนรวม เป็น “ผู้นำ” ที่ทำเพื่อชาติให้กับคนด้อยโอกาส หรือเป็น“ผู้นำ” ที่ทำเพื่อเอื้อกลุ่มทุนสามานย์
“บิ๊กตู่” ต้องรู้นะว่า..ขณะนี้กาลเวลากับผลงานกำลังพิสูจน์ตัว “นายกฯบิ๊กตู่”อยู่นะ...