อดีต ผบ.ทบ. ท่านหนึ่งให้แง่คิดว่า..
จงจำไว้ว่า..ลักษณะนิสัยของคุณ..เป็นตัวกำหนดโชคชะตาของตัวคุณเอง!
และผู้ใหญ่ท่านเดียวกัน ก็ให้แง่คิดต่อว่า..นั่นเป็นเรื่องโชคชะตาชีวิตส่วนตัวของคน-คนนั้น แต่เรื่องของชาติบ้านเมือง จะคิดเอาง่ายๆ เช่นนั้นไม่ได้เด็ดขาด!
เพราะถ้าคนๆนั้นเป็น “ผู้นำชาติ” มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ พร้อมสรรพที่จะแก้ต้นเหตุปัญหาชาติ ดังนั้น ไม่ว่าจะยึดอำนาจรัฐ-ด้วยเงิน-หรือ-ด้วยปืน ลักษณะนิสัยของ “ผู้นำชาติ” จึงมิได้กำหนดโชคชะตาดีร้ายแค่ตัว “ผู้นำชาติ” เท่านั้น
หากแต่ลักษณะนิสัยของ “ผู้นำชาติ” จะเกี่ยวข้องกับการส่งผลดีหรือผลร้าย ต่อชะตากรรมชาติและประชาชน ให้ดีขึ้นหรือเลวลงได้โดยตรง
วิธีทำงานและผลงานของ “ผู้นำชาติ” จึงถูกติดตามและจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพื่อตรวจสอบ-วิพากษ์วิจารณ์-เปรียบเทียบ-เสนอแนะ ฯลฯ ทั้งจากประชาชนทุกวงการและสื่อมวลชน ซึ่งจะมีทั้งเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย ฯลฯ แล้วแต่ข้อมูลและการรับรู้ของแต่ละบุคคล
“ผู้นำชาติ” ทุกคน ต้องนำไปแยกแยะว่า คำวิพากษ์วิจารณ์และคำเสนอแนะใด สร้างสรรค์หรือไม่สร้างสรรค์ เป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์ ควรนำไปใช้หรือไม่ควรใส่ใจ ฯลฯ ทั้งหมดขึ้นกับศาสตร์และศิลป์ ในการบริหารชาติของตัว “ผู้นำชาติ”
หาก “ผู้นำชาติ”ชาญฉลาด ย่อมแยกแยะออกว่า กลุ่มผู้คนและสื่อฯใดที่มีอคติ หรือมีจุดยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับ “ผู้นำชาติ” ซึ่งกลุ่มผู้คนและสื่อฯประเภทหลังนี้ “ผู้นำชาติ” ที่ดีต้องเข้าใจ-ทำใจ-ไม่สนใจ ฯลฯ ด้วยคนเหล่านี้มิได้วิจารณ์ด้วยใจบริสุทธิ์ หากแต่มีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่เบื้องหลังเสมอ
ดังนั้น ไม่ว่า “ผู้นำชาติ” จะทำดีเช่นไร คนเหล่านั้นมิเพียงจะไม่ชื่นชมเท่านั้น แต่จะค้นหาจุดอ่อน เพื่อวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบ และบิดเบือนให้ร้ายป้ายสี “ผู้นำชาติ” อยู่ตลอดเวลา
ขณะเดียวกันกลุ่ม “ผู้ด้อยปัญญา” และกลุ่ม “ผู้มีผลประโยชน์ทับซ้อน” กับ “ผู้นำชาติ” และพวกพ้องที่กำลังมีอำนาจ ก็เป็นกลุ่มคนที่สร้างปัญหาในทางลบ ต่อ “ผู้นำชาติ” ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพราะไม่สนใจว่า “ผู้นำชาติ” และพวกจะทำถูกหรือทำผิด หรือจะคอร์รัปชั่นโกงชาติอย่างมหาศาล ฯลฯ
เรียกว่า.. ผู้คนสองกลุ่มนี้จะหลับหูหลับตา เชียร์ “ผู้นำชาติ” ที่มีอำนาจรัฐในกำมือ แถมบ่อยครั้งยังไปช่วยบิดเบือน-แก้ต่าง ให้ “ผู้นำชาติ” ที่ทำชั่วต่อชาติอีกต่างหาก
ที่ชั่วร้ายยิ่งกว่านั้น คือ ผู้คนสองกลุ่มนี้ยังยอมตน เป็นเครื่องมือให้ “ผู้นำชาติชั่ว” จนถึงขั้นก่อจลาจลเผาบ้านเผาเมือง และใช้อาวุธสงครามก่อการร้าย เข่นฆ่าทหารและประชาชน จนได้รับบาดเจ็บล้มตายเป็นเบืออีกด้วย
ดังบทเรียนจริงที่อดีต “ผู้นำเหลี่ยม” กับพวก ใช้อำนาจรัฐที่ยึดมาได้ด้วยเงิน ก่อกรรมทำชั่วอย่างใหญ่หลวงนานกว่าสิบปี ต่อชาติ- ศาสนา-พระมหากษัตริย์ ที่คนไทยเห็นคาตามาแล้ว
แม้อดีต “ผู้นำเหลี่ยม” จะหนีคุกไปอยู่ต่างแดน แต่ด้วยมีเงินสกปรกมหาศาล จึงยังคงมีขี้ข้าชั่วๆเป็น “ผี-โม่แป้ง” ให้ มีทั้ง ผี-นักการเมือง ผี-ผู้นำแดงสู้แล้วรวย ผี-ขบวนการล้มเจ้า ผี-นักวิชาการและสื่อฯ ฯลฯ
ขบวนการคนชั่วทั้งหลายที่เป็น“ผี-ไม่ไปผุดไม่ไปเกิด” ยังคงปฏิบัติการทำชั่วในทุกรูปแบบ เพื่อโค่นล้มรัฐบาลของ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” หรืออย่างน้อยก็กดดันให้เพลี่ยงพล้ำ เพื่อให้รัฐบาลของ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” เร่งจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วประเทศ โดยเร็วที่สุดนั่นเอง
ทั้งๆ ที่รัฐบาล “บิ๊กตู่” ยังมิได้ปฏิรูปเรื่องสำคัญๆ ทางการเมือง เช่น ยังป้องกันคนชั่วเข้ามาสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้! ยังป้องกันคนชั่วใช้เงินซื้อเสียงและโกงการเลือกตั้งไม่ได้! ยังป้องกันเผด็จการรัฐสภาไม่ได้! ยังป้องกันผู้นำชั่วและรัฐบาลโกงชาติไม่ได้!
สุดท้าย..ยังไร้กฎหมายลงโทษรุนแรง ต่อกลุ่มทุนสามานย์-นักการเมือง-รัฐสภา-รัฐบาลชั่ว ที่ยังคุ้มค่าต่อการเข้ามาทำธุรกิจการเมือง เพื่อโกงเงินงบประมาณชาติกว่าสองล้านล้านบาทต่อปี
ดังที่ “ทุนสามานย์เหลี่ยม” เป็นรัฐบาลแค่สี่-ห้าปี ก็ร่ำรวยผิดปกติไม่ต่ำกว่าสี่-ห้าแสนล้านบาท จนทำให้เงินของอดีต “ผู้นำเหลี่ยม” ถูกศาลไทยพิพากษาให้ยึดทรัพย์มากกว่าสี่หมื่นล้านบาท และเงินไม่โปร่งใสของอดีต “ผู้นำเหลี่ยม” ยังถูกรัฐบาลยุโรปบางประเทศอายัดเงินสกปรก มากกว่าหนึ่งแสนล้านบาทอีกด้วย
เรียกว่า.. ในประวัติชาติไทย ยังไม่เคยมี “ผู้นำชาติ” ที่ยึดอำนาจรัฐ-ด้วยเงิน และ “ผู้นำชาติ” ที่ยึดอำนาจรัฐ-ด้วยปืน คนใด ถูกยึดเงินสกปรกมากมหาศาล เท่า“ผู้นำเหลี่ยม” มาก่อนเลย
จึงเห็นชัดว่า.. ไม่มีธุรกิจใดในชาติไทย ดีเท่าการทำธุรกิจการเมือง ซึ่งลงทุนด้วยเงินราว“หมื่นล้านบาท” ให้ผลตอบแทนมากถึง“สี่-ห้าแสนล้านบาท”ในเวลาเพียงสี่-ห้าปี!
ส่วน“บิ๊กตู่-ผู้นำชาติ” ที่รัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาล “เครือข่ายเหลี่ยม” จากที่มีอำนาจล้นเหลือแต่นับวันจะหมดลงไปเรื่อยๆ จนทำให้ขบวนการล้มรัฐบาล “บิ๊กตู่” และล้มเจ้า ของอดีต “ผู้นำเหลี่ยม” เหิม เกริม จนเพิ่มปฏิบัติการชั่วทั้งลับและเปิดเผยมากขึ้น ทำให้สถานการณ์ร้ายๆในชาติไทย เกิดมากขึ้นชนิดผิดหูผิดตา
แถมลักษณะนิสัยของ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” ทั้งวิธีทำงานในการแก้ต้นเหตุปัญหาชาติ มีจุดอ่อนมากมาย โดยเฉพาะการไม่แยกแยะคนดีคนชั่วอย่างชัดเจน จึงมิได้ลงโทษคนผิดอย่างรวดเร็วเด็ดขาด ขบวนการคนชั่วจึงยังลอยนวลอยู่ ทั้งในและต่างประเทศ ทำการโจมตีรัฐบาล “บิ๊กตู่” ทั้งลับและเปิดเผย อย่างต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้..
ยิ่ง “บิ๊กตู่” ในฐานะ “ผู้นำปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน” เคยประกาศในตอนต้นว่า “จะเร่งปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน” โดยไว ทว่าเวลาผ่านเลยไปแล้วเกือบสองปี “บิ๊กตู่” ก็ยังมิได้ทำการปฏิรูปชาติ ทุกภาคส่วนอย่างจริงจังดังที่ลั่นวาจาไว้เลย
โดยเฉพาะการปฏิรูปตำรวจนั้น “บิ๊กตู่” ที่มีอำนาจล้นฟ้า สามารถทำได้ทันที แต่ “บิ๊กตู่” กลับพูดเสียงดังฟังชัดต่อหน้าสื่อว่า-ไม่ทำ โดย “บิ๊กตู่” จะให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง-ทำแทน!
โอกาสปฏิรูปตำรวจที่เป็นต้นน้ำกระบวนการยุติธรรมนั้น อำนาจของ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” ในขณะนี้ สามารถทำการปฏิรูปตำรวจได้โดยมิเหลือบ่ากว่าแรง แต่ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” กลับเพิกเฉยไม่ยอมทำ?
ดังนั้น เรื่องปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน ของ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” จึงกลายเป็นเรื่อง“ท่าดีทีเหลว” อีกทั้งทำให้ข้าราชการบางส่วนเข้าเกียร์ว่าง บางส่วนถึงกับแอบเข้าเกียร์ถอยหลังกันเลย! ส่วนที่เข้าเกียร์เดินหน้านั้นมีน้อยมาก
ยิ่งเมื่อข้าราชการและผู้เกี่ยวข้องกับการปฏิรูป เห็นว่า ตัว “บิ๊กตู่”เองไม่ได้เข้าเกียร์เดินหน้า ปฏิบัติการปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนแบบเต็มร้อยตำตา งานปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนของรัฐบาล “บิ๊กตู่” จึงไม่มีผลงานให้จับต้องได้อย่างเด่นชัด จะมีก็แต่ผลงานตามแผนเงินงบประมาณแผ่นดิน ที่นายกฯคนไหนเข้ามาก็ล้วนทำได้ทั้งสิ้น
เมื่ออดีต “ผู้นำเหลี่ยม” จับมือกับชาติตะวันตก กดดันต่อ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่”หนักขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งการร่างรัฐธรรมนูญของ “ปู่มีชัย” ก็ทำท่าจะไปไม่รอด แถมศรัทธาที่ตกต่ำลงด้วยผลงานไม่จ๊าบของ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” ที่ไม่อาจแก้ไขต้นเหตุปัญหาสำคัญๆของชาติได้ ฯลฯ
ทำให้ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” จำต้องลดกระแส การกดดันอย่างหนักจากทุกทิศทาง ด้วยการประกาศเสียงดังฟังชัดไปทั่วโลกว่า
หากรัฐธรรมนูญ “ปู่มีชัย” ล้มคว่ำคะมำหงายไป นักเลือกตั้งทั้งหลายอย่าได้กังวลใดๆเลย เพราะ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” ที่เรียนผูกจะแก้ด้วยตนเอง โดยขอยืนยันนอนยันตีลังกายันว่า กระโพ้ม..ผู้นำชาติที่ช่างจำนรรจา จะทำให้มีการเลือกตั้งตามเส้นทางโร้ดแม็พ ในเดือนกรกฎาคม ปี 2560 แน่นอนที่ซู้ด!..
เรื่องแก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ ของชาติ..ไม่สำคัญเท่าเลือกตั้งว่ะ!
อ้อ..แล้วหลังเลือกตั้งกลางปี 2560 ชาติและคนไทยจะดีหรือเลว ไม่เกี่ยวกับ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” แล้วนะเฟ้ย!..
จงจำไว้ว่า..ลักษณะนิสัยของคุณ..เป็นตัวกำหนดโชคชะตาของตัวคุณเอง!
และผู้ใหญ่ท่านเดียวกัน ก็ให้แง่คิดต่อว่า..นั่นเป็นเรื่องโชคชะตาชีวิตส่วนตัวของคน-คนนั้น แต่เรื่องของชาติบ้านเมือง จะคิดเอาง่ายๆ เช่นนั้นไม่ได้เด็ดขาด!
เพราะถ้าคนๆนั้นเป็น “ผู้นำชาติ” มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ พร้อมสรรพที่จะแก้ต้นเหตุปัญหาชาติ ดังนั้น ไม่ว่าจะยึดอำนาจรัฐ-ด้วยเงิน-หรือ-ด้วยปืน ลักษณะนิสัยของ “ผู้นำชาติ” จึงมิได้กำหนดโชคชะตาดีร้ายแค่ตัว “ผู้นำชาติ” เท่านั้น
หากแต่ลักษณะนิสัยของ “ผู้นำชาติ” จะเกี่ยวข้องกับการส่งผลดีหรือผลร้าย ต่อชะตากรรมชาติและประชาชน ให้ดีขึ้นหรือเลวลงได้โดยตรง
วิธีทำงานและผลงานของ “ผู้นำชาติ” จึงถูกติดตามและจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพื่อตรวจสอบ-วิพากษ์วิจารณ์-เปรียบเทียบ-เสนอแนะ ฯลฯ ทั้งจากประชาชนทุกวงการและสื่อมวลชน ซึ่งจะมีทั้งเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย ฯลฯ แล้วแต่ข้อมูลและการรับรู้ของแต่ละบุคคล
“ผู้นำชาติ” ทุกคน ต้องนำไปแยกแยะว่า คำวิพากษ์วิจารณ์และคำเสนอแนะใด สร้างสรรค์หรือไม่สร้างสรรค์ เป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์ ควรนำไปใช้หรือไม่ควรใส่ใจ ฯลฯ ทั้งหมดขึ้นกับศาสตร์และศิลป์ ในการบริหารชาติของตัว “ผู้นำชาติ”
หาก “ผู้นำชาติ”ชาญฉลาด ย่อมแยกแยะออกว่า กลุ่มผู้คนและสื่อฯใดที่มีอคติ หรือมีจุดยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับ “ผู้นำชาติ” ซึ่งกลุ่มผู้คนและสื่อฯประเภทหลังนี้ “ผู้นำชาติ” ที่ดีต้องเข้าใจ-ทำใจ-ไม่สนใจ ฯลฯ ด้วยคนเหล่านี้มิได้วิจารณ์ด้วยใจบริสุทธิ์ หากแต่มีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่เบื้องหลังเสมอ
ดังนั้น ไม่ว่า “ผู้นำชาติ” จะทำดีเช่นไร คนเหล่านั้นมิเพียงจะไม่ชื่นชมเท่านั้น แต่จะค้นหาจุดอ่อน เพื่อวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบ และบิดเบือนให้ร้ายป้ายสี “ผู้นำชาติ” อยู่ตลอดเวลา
ขณะเดียวกันกลุ่ม “ผู้ด้อยปัญญา” และกลุ่ม “ผู้มีผลประโยชน์ทับซ้อน” กับ “ผู้นำชาติ” และพวกพ้องที่กำลังมีอำนาจ ก็เป็นกลุ่มคนที่สร้างปัญหาในทางลบ ต่อ “ผู้นำชาติ” ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพราะไม่สนใจว่า “ผู้นำชาติ” และพวกจะทำถูกหรือทำผิด หรือจะคอร์รัปชั่นโกงชาติอย่างมหาศาล ฯลฯ
เรียกว่า.. ผู้คนสองกลุ่มนี้จะหลับหูหลับตา เชียร์ “ผู้นำชาติ” ที่มีอำนาจรัฐในกำมือ แถมบ่อยครั้งยังไปช่วยบิดเบือน-แก้ต่าง ให้ “ผู้นำชาติ” ที่ทำชั่วต่อชาติอีกต่างหาก
ที่ชั่วร้ายยิ่งกว่านั้น คือ ผู้คนสองกลุ่มนี้ยังยอมตน เป็นเครื่องมือให้ “ผู้นำชาติชั่ว” จนถึงขั้นก่อจลาจลเผาบ้านเผาเมือง และใช้อาวุธสงครามก่อการร้าย เข่นฆ่าทหารและประชาชน จนได้รับบาดเจ็บล้มตายเป็นเบืออีกด้วย
ดังบทเรียนจริงที่อดีต “ผู้นำเหลี่ยม” กับพวก ใช้อำนาจรัฐที่ยึดมาได้ด้วยเงิน ก่อกรรมทำชั่วอย่างใหญ่หลวงนานกว่าสิบปี ต่อชาติ- ศาสนา-พระมหากษัตริย์ ที่คนไทยเห็นคาตามาแล้ว
แม้อดีต “ผู้นำเหลี่ยม” จะหนีคุกไปอยู่ต่างแดน แต่ด้วยมีเงินสกปรกมหาศาล จึงยังคงมีขี้ข้าชั่วๆเป็น “ผี-โม่แป้ง” ให้ มีทั้ง ผี-นักการเมือง ผี-ผู้นำแดงสู้แล้วรวย ผี-ขบวนการล้มเจ้า ผี-นักวิชาการและสื่อฯ ฯลฯ
ขบวนการคนชั่วทั้งหลายที่เป็น“ผี-ไม่ไปผุดไม่ไปเกิด” ยังคงปฏิบัติการทำชั่วในทุกรูปแบบ เพื่อโค่นล้มรัฐบาลของ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” หรืออย่างน้อยก็กดดันให้เพลี่ยงพล้ำ เพื่อให้รัฐบาลของ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” เร่งจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วประเทศ โดยเร็วที่สุดนั่นเอง
ทั้งๆ ที่รัฐบาล “บิ๊กตู่” ยังมิได้ปฏิรูปเรื่องสำคัญๆ ทางการเมือง เช่น ยังป้องกันคนชั่วเข้ามาสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้! ยังป้องกันคนชั่วใช้เงินซื้อเสียงและโกงการเลือกตั้งไม่ได้! ยังป้องกันเผด็จการรัฐสภาไม่ได้! ยังป้องกันผู้นำชั่วและรัฐบาลโกงชาติไม่ได้!
สุดท้าย..ยังไร้กฎหมายลงโทษรุนแรง ต่อกลุ่มทุนสามานย์-นักการเมือง-รัฐสภา-รัฐบาลชั่ว ที่ยังคุ้มค่าต่อการเข้ามาทำธุรกิจการเมือง เพื่อโกงเงินงบประมาณชาติกว่าสองล้านล้านบาทต่อปี
ดังที่ “ทุนสามานย์เหลี่ยม” เป็นรัฐบาลแค่สี่-ห้าปี ก็ร่ำรวยผิดปกติไม่ต่ำกว่าสี่-ห้าแสนล้านบาท จนทำให้เงินของอดีต “ผู้นำเหลี่ยม” ถูกศาลไทยพิพากษาให้ยึดทรัพย์มากกว่าสี่หมื่นล้านบาท และเงินไม่โปร่งใสของอดีต “ผู้นำเหลี่ยม” ยังถูกรัฐบาลยุโรปบางประเทศอายัดเงินสกปรก มากกว่าหนึ่งแสนล้านบาทอีกด้วย
เรียกว่า.. ในประวัติชาติไทย ยังไม่เคยมี “ผู้นำชาติ” ที่ยึดอำนาจรัฐ-ด้วยเงิน และ “ผู้นำชาติ” ที่ยึดอำนาจรัฐ-ด้วยปืน คนใด ถูกยึดเงินสกปรกมากมหาศาล เท่า“ผู้นำเหลี่ยม” มาก่อนเลย
จึงเห็นชัดว่า.. ไม่มีธุรกิจใดในชาติไทย ดีเท่าการทำธุรกิจการเมือง ซึ่งลงทุนด้วยเงินราว“หมื่นล้านบาท” ให้ผลตอบแทนมากถึง“สี่-ห้าแสนล้านบาท”ในเวลาเพียงสี่-ห้าปี!
ส่วน“บิ๊กตู่-ผู้นำชาติ” ที่รัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาล “เครือข่ายเหลี่ยม” จากที่มีอำนาจล้นเหลือแต่นับวันจะหมดลงไปเรื่อยๆ จนทำให้ขบวนการล้มรัฐบาล “บิ๊กตู่” และล้มเจ้า ของอดีต “ผู้นำเหลี่ยม” เหิม เกริม จนเพิ่มปฏิบัติการชั่วทั้งลับและเปิดเผยมากขึ้น ทำให้สถานการณ์ร้ายๆในชาติไทย เกิดมากขึ้นชนิดผิดหูผิดตา
แถมลักษณะนิสัยของ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” ทั้งวิธีทำงานในการแก้ต้นเหตุปัญหาชาติ มีจุดอ่อนมากมาย โดยเฉพาะการไม่แยกแยะคนดีคนชั่วอย่างชัดเจน จึงมิได้ลงโทษคนผิดอย่างรวดเร็วเด็ดขาด ขบวนการคนชั่วจึงยังลอยนวลอยู่ ทั้งในและต่างประเทศ ทำการโจมตีรัฐบาล “บิ๊กตู่” ทั้งลับและเปิดเผย อย่างต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้..
ยิ่ง “บิ๊กตู่” ในฐานะ “ผู้นำปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน” เคยประกาศในตอนต้นว่า “จะเร่งปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน” โดยไว ทว่าเวลาผ่านเลยไปแล้วเกือบสองปี “บิ๊กตู่” ก็ยังมิได้ทำการปฏิรูปชาติ ทุกภาคส่วนอย่างจริงจังดังที่ลั่นวาจาไว้เลย
โดยเฉพาะการปฏิรูปตำรวจนั้น “บิ๊กตู่” ที่มีอำนาจล้นฟ้า สามารถทำได้ทันที แต่ “บิ๊กตู่” กลับพูดเสียงดังฟังชัดต่อหน้าสื่อว่า-ไม่ทำ โดย “บิ๊กตู่” จะให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง-ทำแทน!
โอกาสปฏิรูปตำรวจที่เป็นต้นน้ำกระบวนการยุติธรรมนั้น อำนาจของ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” ในขณะนี้ สามารถทำการปฏิรูปตำรวจได้โดยมิเหลือบ่ากว่าแรง แต่ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” กลับเพิกเฉยไม่ยอมทำ?
ดังนั้น เรื่องปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน ของ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” จึงกลายเป็นเรื่อง“ท่าดีทีเหลว” อีกทั้งทำให้ข้าราชการบางส่วนเข้าเกียร์ว่าง บางส่วนถึงกับแอบเข้าเกียร์ถอยหลังกันเลย! ส่วนที่เข้าเกียร์เดินหน้านั้นมีน้อยมาก
ยิ่งเมื่อข้าราชการและผู้เกี่ยวข้องกับการปฏิรูป เห็นว่า ตัว “บิ๊กตู่”เองไม่ได้เข้าเกียร์เดินหน้า ปฏิบัติการปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนแบบเต็มร้อยตำตา งานปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนของรัฐบาล “บิ๊กตู่” จึงไม่มีผลงานให้จับต้องได้อย่างเด่นชัด จะมีก็แต่ผลงานตามแผนเงินงบประมาณแผ่นดิน ที่นายกฯคนไหนเข้ามาก็ล้วนทำได้ทั้งสิ้น
เมื่ออดีต “ผู้นำเหลี่ยม” จับมือกับชาติตะวันตก กดดันต่อ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่”หนักขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งการร่างรัฐธรรมนูญของ “ปู่มีชัย” ก็ทำท่าจะไปไม่รอด แถมศรัทธาที่ตกต่ำลงด้วยผลงานไม่จ๊าบของ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” ที่ไม่อาจแก้ไขต้นเหตุปัญหาสำคัญๆของชาติได้ ฯลฯ
ทำให้ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” จำต้องลดกระแส การกดดันอย่างหนักจากทุกทิศทาง ด้วยการประกาศเสียงดังฟังชัดไปทั่วโลกว่า
หากรัฐธรรมนูญ “ปู่มีชัย” ล้มคว่ำคะมำหงายไป นักเลือกตั้งทั้งหลายอย่าได้กังวลใดๆเลย เพราะ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” ที่เรียนผูกจะแก้ด้วยตนเอง โดยขอยืนยันนอนยันตีลังกายันว่า กระโพ้ม..ผู้นำชาติที่ช่างจำนรรจา จะทำให้มีการเลือกตั้งตามเส้นทางโร้ดแม็พ ในเดือนกรกฎาคม ปี 2560 แน่นอนที่ซู้ด!..
เรื่องแก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ ของชาติ..ไม่สำคัญเท่าเลือกตั้งว่ะ!
อ้อ..แล้วหลังเลือกตั้งกลางปี 2560 ชาติและคนไทยจะดีหรือเลว ไม่เกี่ยวกับ “ผู้นำชาติ-บิ๊กตู่” แล้วนะเฟ้ย!..