ผู้จัดการรายวัน360-"ผู้การแต้ม"ไขก๊อกที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. มีผล 1 มี.ค. "ชายหมู"ไม่สน สั่งปลดทันที ตั้ง "บรรจง-นวยนิ่ม" เป็นที่ปรึกษาแทน "วัชระ"ปัด ปชป. บีบให้ลาออก ยกเป็นตัวอย่างแสดงสปิริต ซัดผู้ว่าฯ ไม่รู้จักคำว่ามารยาท ด้าน "อัศวิน"ปัดข่าวลาออกตาม "อลงกรณ" แนะ ปชป. ใช้วิกฤตเป็นโอกาสปฏิรูปตนเอง สตง.ตรวจพบ กทม.พลาญงบกว่า 71% จัดทัวร์ดูงานต่างประเทศ ลือหึ่งข้าราชการเริ่มหนีตายไฟฉาว 39 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ออกแถลงการณ์ตัดขาดไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ไปแล้วนั้น ล่าสุด พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. ได้ทำหนังสือถึง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ขอลาออกจากตำแหน่ง ลงวันที่ 25 ม.ค.2559 โดยให้เหตุผลว่า ต้องดำเนินธุรกิจของครอบครัว ประกอบกับได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการและที่ปรึกษาให้กับบริษัทเอกชนและรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติงานนโยบายสำคัญที่มอบหมายในฐานะที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม.ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งการลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.เป็นต้นไป
ข่าวแจ้งว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้รับหนังสือลาออกดังกล่าวแล้ว และพยายามยับยั้ง โดยมีการประสานให้ พล.ต.ต.วิชัย ไปพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แต่ได้รับการปฏิเสธ ทำให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ตัดสินใจที่จะให้หนังสือลาออกมีผลทันที แทนที่จะเป็นวันที่ 1 มี.ค.2559 โดยคนใกล้ชิดผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า จะมีการแต่งตั้งที่ปรึกษาคนใหม่มาแทน และไม่คิดว่ากรณีนี้จะกระทบต่อการบริหาร และความน่าเชื่อถือของผู้ว่าฯ กทม.
สำหรับ พล.ต.ต.วิชัย นับเป็นรายแรกที่ลาออกจากตำแหน่งฝ่ายบริหารใน กทม. หลังจากพรรคประชาธิปัตย์ตัดขาดความสัมพันธ์กับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เนื่องจากไม่เคารพระบบพรรค ไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสที่เกิดขึ้น โดยคาดว่า จะมีคนของพรรคที่ไปร่วมบริหารงานที่ กทม. ลาออกเพิ่มเติมอีก ยกเว้นนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. เนื่องจากเจ้าตัวให้เหตุผลว่า ไม่ได้ไปทำงานในนามพรรค แต่ได้รับการแต่งตั้งโดยส่วนตัวจาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์
ทั้งนี้ ยังมีบุคลากรของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไปเป็นฝ่ายบริหารของ กทม. อีก 2 คน คือ นางผุสดี ตามไท และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการตัดสินใจว่าจะลาออกจากตำแหน่งหรือไม่
***ตั้ง"บรรจง-นวยนิ่ม"เป็นที่ปรึกษาทันที
ล่าสุด ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้งให้ นายบรรจง สุขดี และพล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เป็นที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2559
***ปชป.ยันไม่ได้บีบ"ผู้การแต้ม"ลาออก
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ของพล.ต.ต.วิชัย ว่า ไม่มีคนในพรรคประชาธิปัตย์ไปบีบ หรือขอร้องให้ลาออก เราเคารพวิจารณญาณการตัดสินใจของแต่ละคน อีกทั้ง คณะกรรมการบริหารพรรคได้แถลงไม่ขอยุ่งเกี่ยวการบริหารงานของ กทม. ไปแล้ว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็พูดชัดแล้ว ดังนั้น ใครจะลาออก หรือทำงานต่อใน กทม. กับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล
"ต้องขอชมเชยการตัดสินใจแสดงสปิริตของ พล.ต.อ.วิชัย ครั้งนี้ นับเป็นตัวอย่างที่ดี"
***ซัด"ชายหมู"ไม่รู้จักคำว่ามารยาท
นายวัชระกล่าวว่า ส่วนกรณีที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ระบุว่า ปัจจุบันยังเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อยู่ ขอถามว่า ท่านเป็นรองหัวหน้าพรรคอย่างไร ที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์หัวหน้าพรรค ท่านเคยเป็นถึงอดีต รมช.ต่างประเทศ รู้มารยาททางการทูตดีอยู่แล้ว ควรรู้มารยาททางการเมืองด้วยว่าต้องทำอย่างไร
"อย่าทนงตนว่ามีทหารบางกลุ่มหนุนหลัง เพราะอำนาจของทหารไม่มีทางยั่งยืน เพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งประชาชน ถ้าอยู่ในระบบพรรคการเมือง จะต้องรู้ดีว่าเมื่อพรรคส่งสัญญาณ ควรรู้ว่าต้องปฏิบัติตนอย่างไร"
***ไม่หวั่นถูกนำไปตีกินเลือกผู้ว่าสมัยหน้า
เมื่อถามว่า ประเด็นนี้ จะถูกฝ่ายตรงข้ามนำไปตีกิน เมื่อถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งหน้า หรือไม่ นายวัชระ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะพรรคประชาธิปัตย์ก้าวสู่การเป็นสถาบันทางการเมืองไปแล้ว ต้องกล้าตรวจสอบ แม้จะมาจากสังกัดเดียวกัน
"เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ คสช. จะใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ประกาศยุบพ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคนอมีนีทหารได้จัดตั้งพรรคใหม่ มาเล่นการเมืองแน่นอน"
***"อัศวิน"ปัดไม่คิดลาออกจากตำแหน่ง
ส่วนกระแสข่าวที่คาดว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯกทม. จะลาออกจากตำแหน่งด้วยนั้น นายวัชระ กล่าวว่าตนเคารพสิทธิ์ของทุกท่าน แต่คนที่เป็นประชาธิปัตย์โดยเนื้อแท้ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้าพรรค
ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าตนเองจะลาออกจากตำแหน่งใน กทม.ว่า ไม่รู้ ไม่ทราบว่ากระแสข่าวดังกล่าวมาอย่างไร แต่ยืนยันไม่เป็นความจริง ยังไม่คิดลาออกจากตำแหน่งแน่นอน
**แนะปชป.พลิกวิกฤตเป็นโอกาสปฏิรูปตนเอง
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) คนที่ 1 กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งในพรรคประชาธิปัตย์ที่ตัดสัมพันธ์กับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ควรใช้โอกาสนี้ปฏิรูปตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการบริหารงาน ภาวะผู้นำ และการมีประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ซึ่งเกิดขึ้นกับพรรคการเมืองใหญ่ทั่วโลก โดยพรรคควรพลิกวิกฤตครั้งนี้เป็นโอกาสในการสร้างความหวังและความเชื่อมั่นให้กับประชาชนอีกครั้ง เพราะพรรคเป็นกลุ่มการเมืองใหญ่ที่จะสร้างประโยชน์ต่อการเมืองของประเทศไทยในอนาคต เชื่อว่านายอภิสิทธิ์ จะสามารถปฏิรูปพรรคได้
ส่วนความขัดแย้งครั้งนี้ จะทำให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ลาออกจากพรรคหรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะตนเชื่อว่า ผู้ใหญ่ของพรรค ไม่ว่าจะเป็น นายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน จะช่วยประคับประคองแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นกับพรรคให้คลี่คลายไปได้
***สตง.พบ กทม. พลาญงบทัวร์นอก
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.ป ได้ตรวจสอบพบความไม่โปร่งใสในการใช้งบประมาณของสภา กทม. โดยใช้งบผิดประเภทกว่า 71% หรือ 228.19 ล้านบาท จากงบ 312.34 ล้านบาท โดยนำไช้ในการฝึกอบรมและดูงานต่างประเทศ ทั้งๆ ที่เป็นงบเกี่ยวกับงานการประชุม งานสารบรรณธุรการและคณะกรรมการวิสามัญชุดต่างๆ และยังพบอีก 17 โครงการดูงานต่างประเทศ งบ 106.15 ล้านบาท ที่ไม่มีเหตุผลจำเป็น ไม่เหมาะสม ไม่เกิดประโยชน์ และยังได้ตรวจสอบกรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับโครงการกรุงเทพแสงสีแห่งความสุข ที่มีการติดตั้งหลอดไฟแอลอีดี 5 ล้านดวง ใช้งบประมาณ 39.5ล้านบาทด้วย
ทั้งนี้ พบว่า ข้าราชการ กทม. เริ่มมีความหวาดวิตกว่าจะเกิดปัญหาจนส่งผลกระทบต่อตำแหน่งหน้าที่ โดยเฉพาะกรณีติดตั้งหลอดไฟ 39.5 ล้านบาท ทำให้มีกรรมการตรวจรับงานอย่างน้อย 2 คน ไม่ยอมเซ็นต์รับงาน และยังเริ่มมีการให้ข้อมูลการทุจริตเกี่ยวกับโครงการทีวีมหานคร ที่มีความเกี่ยวโยงกับคนใกล้ชิดกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ รวมไปถึงการให้สัมปทานป้ายโฆษณาส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าที่อยู่ในการดูแลของ กทม. ให้กับบริษัทของบุตรรองผู้ว่าฯ กทม. คนหนึ่ง