xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“เพื่อนตู่”จุดพลุปรองดอง มะพร้าวห้าว หรือแค่“ใบสั่ง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ทำท่าจะล่มแค่ปากอ่าวเสียแล้ว เรือแป๊ะเที่ยวปรองดอง ที่“บิ๊กเจี๊ยบ”พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ออกมาตีปั๊บให้มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาเสริมสร้างสังคมสันติสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อเป็นเจ้าภาพเอาทุกฝ่ายมานั่งโต๊ะกลม จับเข่าคุยกัน เพื่อหาทางสร้างความปรองดองภายในประเทศ หลังมีแต่เสียงนินทา หมาดูถูก ว่า เลอะเทอะ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์กว่านี้เสียดีกว่า เพราะจัดตั้งกันมาไม่รู้กี่หนจนจำชื่อกรรมการกันไม่ได้แล้วว่ามีอะไรบ้าง ยังจะวนกลับไปทำอะไรเดิมๆ อีก

เอาสั้นๆ ง่าย ถาม“บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะผู้มีอำนาจ กับ“บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ผู้มากคอนเนกชั่นไปเลย ว่าจะเอาอย่างไร เพื่อไม่ให้เสียเวลา เพราะสุดท้ายคนที่ต้องตัดสินใจว่า จะเอาหรือไม่เอา คือสองคนนี้ ต่อให้กรรมการหน้าอินทร์หน้าพรหมคนไหนคิดเฟ้นยาวิเศษมาสมานแผลเลิศหรูอลังการ แต่หากไม่เป็นที่ถูกใจ"สองบิ๊ก" ชาติหน้าตอนบ่ายๆ คงสำเร็จ

ที่ผ่านมาประเทศไทยตั้งคณะกรรมการเพื่อการปรองดองมาไม่รู้กี่ชุด ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการปฏิรูปประเทศที่มี อานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่มี คณิต ณ นคร เป็นประธาน คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมือง วุฒิสภา ทื่มี ดิเรก ถึงฝั่ง เป็นประธาน คณะกรรมการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี “บิ๊กบัง”พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธาน หรือที่เพิ่งพ้นไปหมาดๆ อย่างคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่มี เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธาน ซึ่งแนวทางของคณะกรรมการเหล่านี้ยังไม่มีชิ้นไหนถูกนำมาใช้เป็นชิ้นเป็นอันในทางถูกต้อง
 
มีแต่มุบมิบเอาไปใช้ประโยชน์ในทางการเมือง

ของเก่ายังอยู่ในลิ้นชักจนฝุ่นเกาะ แต่ดันมาผุดชุดใหม่เพิ่มมาอีก หนำซ้ำยังทำท่า ทำทาง ในรูปแบบเดิมๆ มันก็สมควรจะโดนชาวบ้านชาวช่องขว้างสากกะเบือใส่หัวอยู่หรอก เพราะยังหาความแตกต่างที่เห็นเป็นเนื้อเป็นหนังไม่ได้ นอกจากบทสัมภาษณ์หล่อๆ ชวนเพ้อฝันของ “บิ๊กเจี๊ยบ” ว่าที่ ประธานกมธ.สันติสุขฯ ที่บอกก้าวข้ามคำว่า "ปรองดอง" มาสู่ "สันติสุขแล้ว"

รูปแบบการตั้งแทบจะเหมือนกับชุดเอนก แทบทุกกระเบียดนิ้ว มีคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุด แล้วตั้งชื่อให้ดูวิลิศมาหราน่าเชื่อถือ ให้คนมีความหวัง ไปควานเอาคนทุกสีเสื้อ ทั้งแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ กปปส. พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นกรรมการให้ดูหลากหลาย ซึ่งน่าสงสัยจะเสียเวลาตั้งใหม่ทำไม เหตุใดไม่ไปเอาของเก่าที่เขาศึกษากันมาเคาะสนิทประยุกต์ใช้

จะว่าไป “บิ๊กเจี๊ยบ”เป็นนายทหารที่ผ่านการทำงานจนขึ้นยศ พล.อ. ก็ไม่น่าจะบ้องตื้นโดยไม่รู้ว่า การออกมาจุดพลุ จะไม่โดนด่าโขมง ผีซ้ำด้ามพลอย จะโดน“บิ๊กตู่”เพื่อนรัก ตท.12 เขกกะโหลกโทษฐานแกว่งเท้าหาเสี้ยนให้รัฐบาลโดนด่าเปิง หากไม่ได้รับไฟเขียว หรือรับงานจากใครให้เข้ามาทำเรื่องดังกล่าว

ถามว่า หาก“บิ๊กเจี๊ยบ”เจ๋งจริง เป็นปรมาจารย์ด้านการแก้ไขความไม่สงบ เหตุใด “บิ๊กตู่”ไม่แต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งที่เจ้าตัวกระเหี้ยนกระหือรือ อยากเป็นหนักเป็นหนา แล้วทำไมจึงไปเอา“บิ๊กโบ้” พล.อ.อักษรา เกิดผล อดีตประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก มาทำหน้าที่เจรจาเรื่องไฟใต้แทน งานนี้มันจึงมีเงื่อนงำ

นอกจากนี้ ในฐานะที่ “บิ๊กเจี๊ยบ”เป็นสมาชิก สนช. สภาฯ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสภาท็อปบูต เป็นเอกภาพที่สุดในบรรดาแม่น้ำทุกสาย ซ้ายหัน ขวาหันได้ หากได้รับสัญญาณจาก “บิ๊กตู่ - บิ๊กป้อม”ในเรื่องต่างๆ เพราะส่วนใหญ่เป็นนายทหาร โดยเป็นสภาที่ไม่ทำอะไรสะเปะสะปะ ล้ำเส้น การออกมาตีปี๊บดังๆ แบบนี้ ต้องมีแบ็กอัพหนุนเนืองแน่

ที่ผ่านมาเวลาสนช. จะดำเนินการใดๆ เสียงจะท่วมท้น ไม่ค่อยมีเชือดเฉือนกัน จนถึงถูกคนตราหน้าว่าเป็นสภาใบสั่ง แต่ญัตติที่ “บิ๊กเจี๊ยบ”เสนอ กลับมีผู้ร่วมลงญัตติมากมายก่ายกองเป็นประวัติการณ์ อย่างนี้ มันชัดแจ้งแดงแจ๋อยู่แล้วว่า เบื้องหลังต้องมีการส่งซิกมาจากรัฐบาล เพียงแต่แป๊ะ เป็นคนเลือก“บิ๊กเจี๊ยบ”หรือ เจ้าตัวขอขันอาสาทำหน้าที่หนังหน้าไฟเอง

กรรมการจากหลากหลายสี ที่จะมาเข้าร่วมเองก็ไม่ได้ดีเด่ หรือมีชื่อเสียงกว่าที่ชุด เอนกไปเอามา แต่ละคนไม่ได้จัดอยู่ในประเภทมีอำนาจตัดสินใจแทนมวลชน หรือสายตรงแกนนำอีกฝั่ง ทั้ง “แรมโบ้อีสาน”สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ที่รู้ไส้รู้พุงกันดีว่า ตอนนี้ขวัญหนีดีฝ่อ ทหารขอความร่วมมืออะไร มีหรือจะกล้าขัด เพราะมีชนักปักหลังอยู่เพียบ

จะกล่าวรวมว่า เอาคนพวกนี้มาเป็นพระอันดับก็ไม่ผิด เพียงเพื่อให้องค์ประกอบดูชอบธรรม พิธีกรรมดูเข้มขลัง ว่ามาจากตัวแทนทุกฝ่าย ส่วนการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ไม่น่าจะมี เพราะโควตาในซีก สนช. นายทหารเพียบ ดังนั้นผลมันล็อกไว้แล้วว่า ควรจะมีแนวทางอย่างไร

ถ้าจับใจความที่ “บิ๊กตู่”พูดมาตลอดว่า ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อนถึงจะนิรโทษกรรมได้ คณะกรรมการปาหี่ชุดนี้ จึงไม่น่าจะกล้ากำเรื่องร้อนๆ อย่างนิรโทษสุดซอยแน่ เพราะไม่ใช่แค่จะโดนด่า แต่ “รัฐบาลบิ๊กตู่”จะมีชะตากรรมเดียวกับ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดนสหม็อบรวมใจตะเพิด แต่น่าจะมีมาตรการอะไรที่จับต้องได้ออกมาสักอย่าง ถ้าเอาแบบที่คนรับได้ ทุกสีทุกพรรคเห็นพ้องต้องกัน ก็ดูจะมีเรื่องเดียว คือ นิรโทษกรรมให้กับประชาชน และผู้ร่วมชุมนุม ที่ผิดเล็กๆ น้อยๆ อย่าง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.ความมั่นคง กฎอัยการศึก โดยไม่เหมาเข่งกับพวกที่มีความผิดในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 คดีทุจริตคอร์รัปชั่น พวกที่สั่งเผาบ้านเผาเมือง แล้วตัวแกนนำม็อบทั้งหลาย 

อย่างน้อยก็ได้ชื่อว่ามีผลงานเรื่องปรองดองสักชิ้นที่เป็นรูปธรรม หลังโดนค่อนแคะว่า ยังไม่มีอะไรคืบหน้าในเรื่องนี้ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญระดับชาติ


กำลังโหลดความคิดเห็น