ผู้จัดการรายวัน 360 - ปตท.ปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ หวังสร้างความเข้มแข็งในกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี โดยจะขายหุ้นในบริษัทย่อยที่ปตท.ถืออยู่ในกับPTTGC -TOP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น คาดว่าจะดำเนินการให้เสร็จภายใน1-2ปีนี้ เผยเตรียมบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ธุรกิจถ่านหินในไตรมาส 4/58 หลังราคาถ่านหินดิ่ง
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯจะปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความเข้มแข็งในกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี โดยจะพิจารณาโครงสร้างที่เหมาะสมควรเป็นเช่นใด คาดว่ามีความชัดเจนในปีนี้และดำเนินแล้วเสร็จใน 1-2 ปีข้างหน้า
ส่วนการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)กับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่ถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ โดยยอมรับว่าไออาร์พีซีเพิ่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่ภายใต้ฟินิกซ์ก็คงต้องรอให้เข้าที่เข้าทางก่อน แต่บริษัทย่อยๆของปตท.ที่กระจายกันอยู่ก็จัดการให้ไปอยู่ในบริษัท Flagship ของปตท.ทั้งบมจ.พีทีที โกลบอลเคมิคอล (PTTGC) บมจ.ไทยออยล์ และ บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ทำให้พัฒนาเป็นคลัสเตอร์และมีSynergy ร่วมกันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าหลายบริษัทย่อยจะดำเนินการได้ภายในสิ้นปี 2559
นายเทวินทร์ กล่าวต่อไปว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกน่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาส 2 นี้ แม้ราคาน้ำมันดิบดูไบขณะนี้จะปรับตัวลงมาอยู่ที่ 27 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่เริ่มเห็นแหล่งผลิตน้ำมันบางแห่งทยอยหยุดไปเพราะไม่คุ้มการลงทุน แม้ว่าแหล่งผลิตตะวันออกกลางจะมีต้นทุนการผลิตระดับ 20 เหรียญสหรับ/บาร์เรล แต่เชื่อว่าประเทศเหล่านี้คงไม่ต้องการขายน้ำมันในราคาที่ต่ำเป็นเวลานาน และความต้องการใช้น้ำมันยังขยายตัวต่อเนื่อง ดังนั้น ปตท.ต้องเตรียมความพร้อมให้เข้มแข็งเพื่อรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.เตรียมตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซียในงบการเงินไตรมาส 4/2558 หลังจากราคาถ่านหินปรับตัวลดลงมา โดยการบันทึกด้อยค่าดังกล่าวคาดว่าจะอยู่บนพื้นฐานราคาถ่านหินที่กว่า 50 เหรียญสหรัฐ/ตัน โดยปตท.ยังมีผลกำไรจากการดำเนินงานงวดปี 2558
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนประมาณ 5.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในต่างประเทศ
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯจะปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความเข้มแข็งในกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี โดยจะพิจารณาโครงสร้างที่เหมาะสมควรเป็นเช่นใด คาดว่ามีความชัดเจนในปีนี้และดำเนินแล้วเสร็จใน 1-2 ปีข้างหน้า
ส่วนการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)กับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่ถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ โดยยอมรับว่าไออาร์พีซีเพิ่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่ภายใต้ฟินิกซ์ก็คงต้องรอให้เข้าที่เข้าทางก่อน แต่บริษัทย่อยๆของปตท.ที่กระจายกันอยู่ก็จัดการให้ไปอยู่ในบริษัท Flagship ของปตท.ทั้งบมจ.พีทีที โกลบอลเคมิคอล (PTTGC) บมจ.ไทยออยล์ และ บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ทำให้พัฒนาเป็นคลัสเตอร์และมีSynergy ร่วมกันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าหลายบริษัทย่อยจะดำเนินการได้ภายในสิ้นปี 2559
นายเทวินทร์ กล่าวต่อไปว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกน่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาส 2 นี้ แม้ราคาน้ำมันดิบดูไบขณะนี้จะปรับตัวลงมาอยู่ที่ 27 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่เริ่มเห็นแหล่งผลิตน้ำมันบางแห่งทยอยหยุดไปเพราะไม่คุ้มการลงทุน แม้ว่าแหล่งผลิตตะวันออกกลางจะมีต้นทุนการผลิตระดับ 20 เหรียญสหรับ/บาร์เรล แต่เชื่อว่าประเทศเหล่านี้คงไม่ต้องการขายน้ำมันในราคาที่ต่ำเป็นเวลานาน และความต้องการใช้น้ำมันยังขยายตัวต่อเนื่อง ดังนั้น ปตท.ต้องเตรียมความพร้อมให้เข้มแข็งเพื่อรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.เตรียมตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซียในงบการเงินไตรมาส 4/2558 หลังจากราคาถ่านหินปรับตัวลดลงมา โดยการบันทึกด้อยค่าดังกล่าวคาดว่าจะอยู่บนพื้นฐานราคาถ่านหินที่กว่า 50 เหรียญสหรัฐ/ตัน โดยปตท.ยังมีผลกำไรจากการดำเนินงานงวดปี 2558
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนประมาณ 5.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในต่างประเทศ