ผลงานรัฐบาล ก็สุดแล้วแต่จะมอง

ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์

รัฐบาลคุณท่านจะแถลงผลงานในอีกไม่กี่วันข้างหน้าให้ชาวบ้านรับรู้ว่าตั้งแต่รับผิดชอบบริหารบ้านเมืองมานั้นประสบความสำเร็จมากน้อยเท่าไหร่ สมกับความตั้งใจและเข้าตาชาวบ้านมั้ย

และมีอะไรเป็นไปตามแนวทางของคำประกาศโขมงโฉงเฉงว่าจะทำนั่นนี่โน่นเพื่อแก้ไขปัญหาทำให้โลกเมืองไทยน่าอภิรมย์กว่าที่เคยเป็นในยุคนักโกงเมือง งาบคำโตแทบทำบ้านเมืองล่มจม

เมื่อแถลงผลงานแล้ว ชาวบ้านจะดูว่าเป็นไปตามคำแถลงหรือไม่ คุ้มกับระยะเวลาที่ได้ทุ่มเททำงานผลิตดอกออกผลเป็นอย่างไร ที่สำคัญสิ่งที่ได้มานั้นคุ้มค่าหรือไม่กับการเสียสิทธิเสรีภาพ

แน่นอน มุมมองจากการประเมินของชาวบ้าน นักการเมือง และรัฐบาลคุณท่านย่อมต่างกัน ยิ่งพวกเครือข่ายคุณเหลี่ยมเร่ร่อนด้วยแล้ว อะไรจะดูดีน่าชื่นชมคงเป็นไปได้ยากแน่นอน

จะน่าช้ำใจ ถ้ามีใครในเครือข่ายขี้ข้าคุณเหลี่ยมกล้าบอกว่าผลงานของ รัฐบาลคุณท่านมีน้อยกว่าของรัฐบาลแม่นางโฉมสะคราญเห็ดบานหวานฉ่ำเยิ้ม หลายอย่างเดินตามก้นแม่นางชัดๆ

เอาเถอะ ถ้าจะว่ากันเรื่องผลสำเร็จ ยังต้องดูว่ามีอะไรยังไม่แจ่มชัด บางเรื่องอาจมีความเห็นแย้งกัน โดยเฉพาะประเด็นที่ยังเป็นปัญหา เรื่องสำคัญต่างๆ ซึ่งยังทำไม่เสร็จ หรือยังไม่ได้เริ่ม

เมื่อเป็นเช่นนี้ อะไรที่รัฐบาลของคุณท่านเชื่ออย่างจริงจังว่าเป็นความสำเร็จสมควรก็ให้รัฐบาลว่าไป รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงจะมาร่ายยาวว่าได้ทำอะไรไปบ้าง และกระทรวงที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ต้องหานิทานมาเล่าให้ชาวบ้านฟังว่ามีปัญหาอะไรทำให้ไม่คืบหน้า หรือยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ

บางกระทรวงจะมีปัญหาในการค้นหาผลงานมาอวดอ้าง ที่รอดตัวคือรัฐมนตรีซึ่งได้โยกกระทรวง อ้างได้ว่ายังใหม่ แต่จะไม่พูดถึงผลงานของตัวเองในกระทรวงก่อนหน้านี้

ที่น่าจับตามองก็คือ หลายคนยังเป็นเสนาบดีที่โลกไม่รู้จัก ประเภทปิดทองหลังพระ แท้ที่จริงบางรายอาจแอบซ่อนตัวเอาพระบังหน้า อ้างคำพระเพราะตัวเองขาดความน่าเชื่อถือ

น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือพวกอยู่หลังพระ ไม่ได้ปิดทอง แต่ดันแอบลอกทองพระเอาไปขาย ว่ากันตามตรง เสนาบดีหลายคนส่งกลิ่นคาว มือไม่สะอาด หยิบฉวยอะไรมาล้างไม่เกลี้ยง

เรื่องผลงานจะแถลงก็ว่าไป แต่ที่น่าจะยกมาเตือนความจำหรือกระชากความรู้สึก ก็มีเยอะ ล้วนเป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวโยงกับการปฏิรูป ซึ่งยังไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน สมกับราคาคุยฟุ้ง

นอกจากผลงานด้านปฏิรูปแทบไร้ร่าง ไม่มีแม้แต่เงา เจตนารมณ์ตามคำประกาศดูมัวซัว

ปฏิรูปในภาคสำคัญคือ การศึกษา กระบวนการยุติธรรม องค์กรตำรวจ และประเด็นอื่นๆ ยังไม่มีแม้แต่เค้าโครงให้เห็นเป็นสาระสำคัญ แม้แต่กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญก็ตาม เพียงไมกี่เดือนเท่านั้นไม้ไผ่ป่ามีชัยไทยแลนด์ได้กลายสภาพเป็นไม้ข้าวหลาม หรือบ้องกัญชาเรียบร้อย

อ้างไม่ว่าง วาระซับซ้อน หรืออุปสรรคอื่นใดก็สุดแล้วทำให้การปฏิรูปยังไม่เกิด อย่าให้ชาวบ้านประเมินแล้วได้ข้อสรุปว่า “ไม่คุ้มค่า” ก็แล้วกัน จะทำให้นำไปสู่ความเห็น “ให้อยู่ต่อไปก็ไม่คุ้ม”

เค้าโครงร่างรัฐธรรมนูญ เริ่มต้นดูขึงขัง ท่าทางทำให้บ้านเมืองรุ่งแน่ มาถึงจุดนี้ “น่าผิดหวัง” พวกนักการเมืองหลังลาย หน้าขี้โกง ขี้คุกขี้ตะรางจะยังคงมีสิทธิเข้าสู่สนามซื้อเสียงเหมือนเดิม

แทบไม่มีอะไรใหม่ ซ้ำร้ายพวกหน้าเดิมจะยังอยู่เกือบครบ หาช่องทางได้โกงอีกครั้ง

ยิ่งวันต่อวัน ชาวบ้านได้ยินแต่เสียงล้งเล้ง ขู่ คำราม ตะคอก คนดี คนชั่วถูกดุด่าไม่ต่างกัน ทำให้รู้สึกว่าประชาชนโดนลดชั้นให้เป็นลูกไล่ ขี้ข้าม้าใช้ ทาสในเรือนเบี้ยหรืออย่างไร

ที่แน่ๆ ประชาชนไม่ได้มีความรู้สึกว่าได้เป็นเจ้าของประเทศแต่เป็นผู้อาศัยแผ่นดินอยู่ในฐานะผู้ถูกปกครอง คนดีบางพวกเริ่มเกิดความรู้สึกของภาวะจำยอม ความอดทนสั้นตามแบบไทยๆ

ความรู้สึกต่ำชั้นรุนแรงกว่าเดิม เมื่อพวกนักธุรกิจระดับชาติ นักลงทุนข้าม ชาติ ถูกดันก้นให้ข้ามหัวชาวบ้าน ได้รับการต้อนรับ เอาอกเอาใจด้วยมธุรสวาจาสุดๆ ได้รับการประเคนด้วยสิทธิประโยชน์ด้านภาษี เขตการลงทุน เสมือนหนึ่งว่าพวกเจ้าสัวหมื่นแสนล้านบาทจะยังมั่งคั่งไม่พอ

ทุกวันนี้ชาวบ้านทั่วไปรู้สึกว่ายังมองไม่เห็นอนาคตเมื่อทุกอย่างเพื่อการอวยเจ้าสัว ราษฎรเต็มขั้นด้อยสิทธิ ด้อยโอกาสลืมตาอ้าปากไม่ขึ้นภายไต้เศรษฐกิจเงินฝืดยืดเยื้อเกือบ 1 ปีแล้ว

สภาพความรู้สึกจิตตก อ่อนล้า ยังไม่เคยมากเท่ายุคนี้เมื่อเทียบกับหลังยุคลดค่าเงินบาท ช่วงนั้นเจ๊งเฉพาะสถาบันการเงิน ธุรกิจขนาดใหญ่พึ่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากเมืองนอก ชาวบ้านไม่ได้กู้

แม้ภาคอุตสาหกรรมจะเกือบล่มสลาย ฐานรากหญ้าชนบทยังแข็งแกร่ง ยังไม่ถูกทำลายโดยนโยบายประชานิยมผสมกับระบบทุนนิยมสามานย์ในยุคคุณเหลี่ยมก่อนเป็นมหกรรมโกงคำโต

ยุคคุณท่านโครงการเยอะ มีสักกี่เปอร์เซ็นต์เพื่อกลุ่มคนระดับรายได้น้อย เศรษฐกิจรากหญ้า คนไร้อาชีพเพราะภัยธรรมชาติ ธุรกิจทุนนิยมสามานย์ปลาใหญ่กินปลาเล็กทำให้สังคมโทรม

ไม่อย่างนั้นจะมีอาชญากรรมสารพัดประเภทให้ชาวบ้านได้ลุ้นเสี่ยงภัยทุกวันเรอะ ออกจากบ้านมีแต่กังวลจะรอดกลับบ้านได้หรือไม่เมื่อเมืองไทยมีอาชญากรจากแทบทุกมุมโลกหลบอยู่เยอะ

ในบรรดาผลงานที่จะแถลง และยังไม่ได้ทำ ก็ยังมีเรื่องเหนือความคาดหมายสิ่งที่ช็อกต่อความรู้สึกชาวนา เกษตรกร และคนรักห่วงชาติ คือไม่นึกคิดว่ารัฐบาลคุณท่านจะกล้าเปิดทางให้บริษัทผีดิบแดนสหรัฐได้เข้ามาใช้แผ่นดินไทยทดลองจริงๆ กับพืชผีดิบ

ก่อนหน้านี้ ไม่กล้าคิดว่ารัฐบาลคุณท่านจะกล้าคิดจะยอมรับการทดลองพืชผีดิบ นี่จะทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าแผ่นดินไทยคงอยู่ไต้อุ้งตีนของพวกนักธุรกิจเกษตรขนาดใหญ่ประเภทเจ้าสัวกินรวบ

กลุ่มประเทศยุโรปยังต่อต้านไม่รับ! แล้วผู้กุมอำนาจประเทศไทยกล้าดีอย่างไร?

ไปคุยฟุ้งให้ต่างชาติฟังที่สหประชาชาติเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรอินทรีย์ แต่มาถึงวันนี้กลับส่งเสริมทดลองพืชผีดิบบนแผ่นดินเกษตร ปลูกข้าวหอมมะลิ พืช สมุนไพรสารพัด

เป็นอย่างที่คุณท่านเคยพูดไว้ “แผ่นดินไทยมีคนชั่วเยอะจริงๆ” ผลสุดท้ายแผ่นดินศักดิ์สิทธิแห่งนี้จะเป็นที่อยู่ของคนชั่วหรือคนดี อีกไม่นานคงได้รู้ เค้าลางสิ่งบอกเหตุแปลกๆ เริ่มส่อแววให้รู้สึกแล้ว จากกรณีมหกรรมโกงกินหลู่เกียรติบุรพกษัตริย์ 7 พระองค์

แล้วผลของการทรยศแผ่นดินเกิดจะเป็นอย่างไร?

มีตัวอย่างให้เห็นแล้ว กรณีคุณเหลี่ยม ตามด้วยแม่นางโฉมสะคราญเห็ดบานหวานฉ่ำเยิ้มทำลายข้าวแม่โพสพเจ๊งไปกว่า 7 แสนล้านบาท ยังอยู่ในสภาพเช่นนี้ แล้วพวกที่เปิดประตูให้พืชผีดิบเข้ามาทำลายเกษตรกรรมทั้งระบบ หายนะทั้งแผ่นดิน เสียหายแล้วแก้ไขไม่ได้

ผลสุดท้ายคนรับผิดชอบจะรับกรรม มีชะตากรรมลงเอยอย่างไร ไม่อยากนึกคิดจริงๆ อย่างดีที่สุดพืชผีดิบคงทำให้ตายทั้งเป็นเหมือนผีดิบ!