ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์
คุณท่านผู้นำยังปล้ำผีลุกปลุกผีนั่งแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เปิดโครงการใหม่ๆ สารพัด มีคำมั่นสัญญาหลากหลาย สร้างความหวัง สลับกับคำเว้าวอนขอให้ชาวบ้านอดทน ใจเย็น อย่าขัดขวางขัดคอเพื่อความสะดวกโยธินตามสไตล์ผู้นำทหารมาดเข้มเฉียบ ใครตอแยล้อเล่นลูบคมไม่ได้นั่นเลย
พร้อมคำประกาศยึดติดกับช่วงเวลาของโรดแหม็บๆ ซึ่งจำนวนวันลดน้อยรวดเร็วน่าใจหาย ขณะที่ผลงานไม่ได้เข้าเป้าหมายตามคาด นั่นย่อมทำให้คุณท่านเกิดอาการลมบ่จอย ล้งเล้งเป็นบางช่วง
บางครั้งหลุดปากเรื่อง “ปิดประเทศ” สร้างความเข้าใจผิด คนทำมาค้าขายตื่นตระหนก คุณท่านก็ยอมขอโทษขอโพย ชาวบ้านก็เข้าใจอารมณ์ ทั้งๆ ที่สับสนว่าปัญหาบ้านเมืองทำไมต้องปิดประเทศ
เว้นแต่จะปิดประตูตีแมว ไม่สนใจว่าจะมีแรงกดดันจากประชาคมโลกแค่ไหนเท่านั้น
ชาวบ้านส่วนใหญ่ยอมสงบ สยบเพื่อให้คุณท่านทำงานแบบทุ่มเทเต็มที่ การเมืองน้ำเน่าก็ยังจมปลักอยู่กับเรื่องการแต่งรัฐธรรมนูญ ถกกันแต่เรื่องเดิมๆ ล้วนแต่เกี่ยวกับการแก่งแย่งช่วงชิงอำนาจเพื่อรักษาผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม เช่นกลุ่มอำนาจเก่า ใหม่ และอำนาจแฝงเร้น
ชาวบ้านยังไม่อยากคิดมากใส่ใจว่าอนาคตบ้านเมืองจะไปทิศทางใด ไม่เกิดปัญหาวุ่นวายอีกหรือเมื่อมีแต่เงื่อนปมสารพัดถูกยัดไว้ในรัฐธรรมนูญ ดูเหมือนเจตนาทำให้ซับซ้อน ไม่ผ่านประชามติ
เอาเพียงประเด็นที่มาของนายกฯ ก็มีเรื่องถกให้มันในอารมณ์ เพราะการเมืองน้ำเน่า หน้าด้านไร้จิตสำนึกยางอายแบบบ้านเรานั้น นายกฯ เคยมาจากหลายแหล่ง ไม่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
เช่น ก่อนหน้านี้ระบุว่า “นายกฯ มาจากการเลือกตั้ง” แต่ในความเป็นจริงมาจาก “การซื้อเสียง” บางยุคยังมาจาก “การซื้อเสียง” ควบกับ “การซื้อพรรค” เป็นรูปแบบของ “การค้ามนุษย์” อีกด้วย
จะหาการเมืองที่ไหนสามานย์ หน้าด้าน คิดโกงกินทุกลมหายใจเข้าออก ไม่รับผิดชอบเหมือนนักซื้อเสียงประเทศไทย เอาเฉพาะประเด็นไม่รู้จักอายอย่างเดียวก็เหนือจินตนาการว่าใครชั่วกว่า
คราวนี้ รัฐธรรมนูญบอกว่า “นายกฯ มาจากคนนอก” แต่ต้องให้ ส.ส. อนุมัติในสภา และพรรคการเมืองหาเสียงต้องเสนอให้ชาวบ้านรู้ว่า “ตัวเลือก” สำหรับคนเป็นนายกฯ มีใครบ้าง
เสนอคนเดียว หลายคนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช่คนแรก! มีทั้งตัวหลอก ตัวล่อ และล่อจริงๆ ทำเป็นว่าบางพรรคมีคนพร้อมจะเป็นนายกฯ เยอะ จึงเสนอทางเลือกเป็นอะหลั่ย ตัวสำรองเผื่อไว้
ยังมีประเด็น “นายกฯ มาจากคนปัจจุบัน” ให้ถกแบบซุบซิบอีกด้วย
คณะแต่งรัฐธรรมนูญนำโดยมีชัยไทยแลนด์ยังมีเงื่อนไขพิสดารอีกเยอะ ที่สำคัญชาวบ้านยังสงสัยว่าจำเป็นอย่างไรที่ต้องมี สส. ระบบปาร์ตี้ลิสต์ หรือระบบบัญชีรายชื่อไว้เป็นปัญหาต่อเนื่อง
การเลือกตั้งที่ผ่านมา ระบบ สส. ปาร์ตี้ลิสต์ไม่เข้ากับเจตนารมณ์ดั้งเดิมซึ่งต้องคัดสรรหาเอาคนดี มีความรู้ความสามารถ ใจซื่อมือสะอาดมาเป็นผู้นำประเทศ คนไทยจะได้ไม่ต้องอายเขา
เลือกตั้งครั้งล่าสุด นักการเมืองเสนอตัวให้เลือกในระบบปาร์ตี้ลิสต์มีหลากหลายสายพันธ์ ในบางพรรคมีทั้งนายทุนพรรค ญาติโกโหติกา เจ้าพ่อ อาชญากร ขี้คุก ตัวโกง ตลกซกมก นักเผาเมือง ขี้ข้าม้าใช้เจ้าของพรรค เหมือนคัดสรรมาจากชุมโจร ชาวบ้านเห็นแล้วรู้สึกสยอง ยกเว้นพวกเดียวกัน
พรรคการเมืองในดินแดนทุ่งหมาแหงนต่างจากประเทศที่เจริญแล้ว นั่นคือเป็นเหมือนการรวมตัวของพวกนอกกฎหมาย อาชญากร เจ้าพ่อ นายทุน พวกหลังลาย ลงขันกันเพื่อตั้งขบวนการซื้อเสียงจากชาวบ้านเข้ากุมอำนาจรัฐให้ได้ จากนั้นหาทางถอนทุนโดยเร็ว บวกกำไรให้มากจนกว่าจะออกไป
นโยบายต่างๆ ที่เอาไปขายให้ชาวบ้านเชื่อเป็นเพียงการโกหกคำโต โครงการต่างๆ มีไว้เพื่อเป็นช่องทางเพื่อการทุจริตแบบมีเชิง เอาไว้เพื่อการหักดิบ นักการเมืองโกงให้ข้าราชการรับเคราะห์แทน
กรณีทุจริตการขายทรายให้สนามบินหนองงูเห่า และ “สุพจน์ ทรัพย์ล้อม” เป็นตัวอย่าง ผลสุดท้ายอยู่ที่ว่าใครเป็นแพะ ใครหนีคุกทัน หนีได้ทันตลอดจนหมดอายุความหรือไม่เท่านั้น
ดังนั้น เรื่องแต่งรัฐธรรมนูญฉบับพิสดารก็ว่ากันไป จะหาวิธีป้องกันนักการเมืองกังฉินอย่างไรก็สุดแล้วแต่ความสามารถ แต่คงยากเพราะอาชญากรย่อมก้าวแซงไปก่อนคนดีเสมอ
เรื่องแต่งรัฐธรรมนูญจึงไม่น่าหนักใจสำหรับคุณท่าน เพราะมีชัยไทยแลนด์ย่อมรู้ใจผู้กุมอำนาจรัฐ จัดให้ได้ตามความต้องการ บางครั้งจะให้หมกกี่เม็ด ซ่อนกี่เงื่อน ไม่ใช่เรื่องยากเย็นนัก
เว้นแต่พวกเดียวกัน หรือกลุ่มคนรู้ทันออกมาร้องโวยวายเท่านั้น!
ปัญหาการบริหารบ้านเมืองจึงไม่ง่าย ช่วงนี้คุณท่านอาจต้องแบ่งหู เผื่อใจไว้สำหรับเสียงคร่ำครวญออดอ้อนเป็นระยะๆ ของโฉมสคะราญหวานฉ่ำเยิ้มนักเพาะเห็ดจากดินแดนล้านนา ร้องขอความกรุณาเปิดช่องให้สู้คดีในข้อหาสร้างความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวหลายแสนล้านบาท
แม่นางโฉมสะคราญยกแม่น้ำทั้งห้ามาอ้างให้คุณท่านหวังให้ใจอ่อน ระลึกถึงไมตรีความหลัง แต่คุณท่านปล่อยให้ “เสธ. ไก่อู” รับหน้า รับมือกับการร้องแรกแหกกระเฌอในลีลาไก่แก่แม่ปลาช่อน
ต้องเข้าใจให้ลึกซึ้งอีกครั้งว่าแม่นางนักเพาะเห็ดไม่ต้องการความยุติธรรมตามคำอ้าง แต่ต้องการให้หลุดคดี พ้นข้อกล่าวหา ไม่ต้องโดนยึดทรัพย์ชดใช้ความเสียหายมหาศาลต่างหาก
แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าเล่นยาก แม่นางโฉมสะคราญยังมีลีลาเยอะ นอกจากจดหมายกระตุกหัวใจ ยังมีเวลาจัดคิวเดินสายหาเหตุไปปรากฏตัวตามสถานที่ต่างๆ ทำบุญ เปิบอาหาร เดินชมนกชมไม้ชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปตามความถนัดในเรื่องไร้สาระ เป็นการประเมินระดับความนิยมถมไม่เต็มต้นน้ำถึงปลายน้ำ
ดูแล้ว ลีลาซ้ำซากของแม่นางน่าจะสร้างความน่าเบื่อหน่ายให้คุณท่านบ้าง แล้วแต่อารมณ์ตอบรับ ช่วงนี้มีเรื่องกวนใจเกี่ยวกับความอื้อฉาวเกี่ยวโยงนายทหารจำต้องทนกล้ำกลืนแบบเลี่ยงไม่ได้
การประกาศโครงการใหม่ๆ ยังถูกสงสัยว่าจะทำเสร็จหรือ เมื่อขบวนการเกียร์ว่างยังเข้มแข็ง เพราะรู้ว่าคุณท่านและพวกจะไปกลางปี 2560 แต่ไม่มีใครกล้ายืนยันว่าจะเป็นไปตามนั้น
การยกเลิกข้อจำกัดผังเมืองทั่วประเทศ เปิดทางให้ลงทุนอุตสาหกรรมในพื้นที่เคยต้องห้าม ได้สร้างความสงสัยว่าทิศทางอนาคตประเทศจะเป็นเศรษฐกิจพอเพียงตามคำประกาศที่สหประชาชาติ หรือก้าวบนเส้นทางทุนนิยม อุตสาหกรรมเต็มสูบ เหลือการเกษตรไว้ตามบุญตามกรรมกันแน่
ถ้าไร้ข้อจำกัด จะมีพื้นที่ปลอดเขตพิษอุตสาหกรรมเหลืออยู่อีกหรือไม่ ทุกวันนี้มีโรงงานใหญ่น้อยสร้างปัญหาให้แทบทั่วทุกหัวระแหง หน่วยงานควบคุมตรวจสอบไม่ทำหน้าที่ได้ตามคาดหวัง
จะมีเหมืองแร่ทองคำ บ่อแร่โปแตช โรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงงานสารพัดสร้างหายนะอีกมากเท่าไหร่ หลับตามโนอนาคตแผ่นดินไทยชวนให้รู้สึกสยดสยอง จะมีอากาศสะอาดให้หายใจอีกหรือไม่
ใครพอจะรู้เยอะ วานตอบด้วยก็แล้วกัน
โดย โสภณ องค์การณ์
คุณท่านผู้นำยังปล้ำผีลุกปลุกผีนั่งแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เปิดโครงการใหม่ๆ สารพัด มีคำมั่นสัญญาหลากหลาย สร้างความหวัง สลับกับคำเว้าวอนขอให้ชาวบ้านอดทน ใจเย็น อย่าขัดขวางขัดคอเพื่อความสะดวกโยธินตามสไตล์ผู้นำทหารมาดเข้มเฉียบ ใครตอแยล้อเล่นลูบคมไม่ได้นั่นเลย
พร้อมคำประกาศยึดติดกับช่วงเวลาของโรดแหม็บๆ ซึ่งจำนวนวันลดน้อยรวดเร็วน่าใจหาย ขณะที่ผลงานไม่ได้เข้าเป้าหมายตามคาด นั่นย่อมทำให้คุณท่านเกิดอาการลมบ่จอย ล้งเล้งเป็นบางช่วง
บางครั้งหลุดปากเรื่อง “ปิดประเทศ” สร้างความเข้าใจผิด คนทำมาค้าขายตื่นตระหนก คุณท่านก็ยอมขอโทษขอโพย ชาวบ้านก็เข้าใจอารมณ์ ทั้งๆ ที่สับสนว่าปัญหาบ้านเมืองทำไมต้องปิดประเทศ
เว้นแต่จะปิดประตูตีแมว ไม่สนใจว่าจะมีแรงกดดันจากประชาคมโลกแค่ไหนเท่านั้น
ชาวบ้านส่วนใหญ่ยอมสงบ สยบเพื่อให้คุณท่านทำงานแบบทุ่มเทเต็มที่ การเมืองน้ำเน่าก็ยังจมปลักอยู่กับเรื่องการแต่งรัฐธรรมนูญ ถกกันแต่เรื่องเดิมๆ ล้วนแต่เกี่ยวกับการแก่งแย่งช่วงชิงอำนาจเพื่อรักษาผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม เช่นกลุ่มอำนาจเก่า ใหม่ และอำนาจแฝงเร้น
ชาวบ้านยังไม่อยากคิดมากใส่ใจว่าอนาคตบ้านเมืองจะไปทิศทางใด ไม่เกิดปัญหาวุ่นวายอีกหรือเมื่อมีแต่เงื่อนปมสารพัดถูกยัดไว้ในรัฐธรรมนูญ ดูเหมือนเจตนาทำให้ซับซ้อน ไม่ผ่านประชามติ
เอาเพียงประเด็นที่มาของนายกฯ ก็มีเรื่องถกให้มันในอารมณ์ เพราะการเมืองน้ำเน่า หน้าด้านไร้จิตสำนึกยางอายแบบบ้านเรานั้น นายกฯ เคยมาจากหลายแหล่ง ไม่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
เช่น ก่อนหน้านี้ระบุว่า “นายกฯ มาจากการเลือกตั้ง” แต่ในความเป็นจริงมาจาก “การซื้อเสียง” บางยุคยังมาจาก “การซื้อเสียง” ควบกับ “การซื้อพรรค” เป็นรูปแบบของ “การค้ามนุษย์” อีกด้วย
จะหาการเมืองที่ไหนสามานย์ หน้าด้าน คิดโกงกินทุกลมหายใจเข้าออก ไม่รับผิดชอบเหมือนนักซื้อเสียงประเทศไทย เอาเฉพาะประเด็นไม่รู้จักอายอย่างเดียวก็เหนือจินตนาการว่าใครชั่วกว่า
คราวนี้ รัฐธรรมนูญบอกว่า “นายกฯ มาจากคนนอก” แต่ต้องให้ ส.ส. อนุมัติในสภา และพรรคการเมืองหาเสียงต้องเสนอให้ชาวบ้านรู้ว่า “ตัวเลือก” สำหรับคนเป็นนายกฯ มีใครบ้าง
เสนอคนเดียว หลายคนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช่คนแรก! มีทั้งตัวหลอก ตัวล่อ และล่อจริงๆ ทำเป็นว่าบางพรรคมีคนพร้อมจะเป็นนายกฯ เยอะ จึงเสนอทางเลือกเป็นอะหลั่ย ตัวสำรองเผื่อไว้
ยังมีประเด็น “นายกฯ มาจากคนปัจจุบัน” ให้ถกแบบซุบซิบอีกด้วย
คณะแต่งรัฐธรรมนูญนำโดยมีชัยไทยแลนด์ยังมีเงื่อนไขพิสดารอีกเยอะ ที่สำคัญชาวบ้านยังสงสัยว่าจำเป็นอย่างไรที่ต้องมี สส. ระบบปาร์ตี้ลิสต์ หรือระบบบัญชีรายชื่อไว้เป็นปัญหาต่อเนื่อง
การเลือกตั้งที่ผ่านมา ระบบ สส. ปาร์ตี้ลิสต์ไม่เข้ากับเจตนารมณ์ดั้งเดิมซึ่งต้องคัดสรรหาเอาคนดี มีความรู้ความสามารถ ใจซื่อมือสะอาดมาเป็นผู้นำประเทศ คนไทยจะได้ไม่ต้องอายเขา
เลือกตั้งครั้งล่าสุด นักการเมืองเสนอตัวให้เลือกในระบบปาร์ตี้ลิสต์มีหลากหลายสายพันธ์ ในบางพรรคมีทั้งนายทุนพรรค ญาติโกโหติกา เจ้าพ่อ อาชญากร ขี้คุก ตัวโกง ตลกซกมก นักเผาเมือง ขี้ข้าม้าใช้เจ้าของพรรค เหมือนคัดสรรมาจากชุมโจร ชาวบ้านเห็นแล้วรู้สึกสยอง ยกเว้นพวกเดียวกัน
พรรคการเมืองในดินแดนทุ่งหมาแหงนต่างจากประเทศที่เจริญแล้ว นั่นคือเป็นเหมือนการรวมตัวของพวกนอกกฎหมาย อาชญากร เจ้าพ่อ นายทุน พวกหลังลาย ลงขันกันเพื่อตั้งขบวนการซื้อเสียงจากชาวบ้านเข้ากุมอำนาจรัฐให้ได้ จากนั้นหาทางถอนทุนโดยเร็ว บวกกำไรให้มากจนกว่าจะออกไป
นโยบายต่างๆ ที่เอาไปขายให้ชาวบ้านเชื่อเป็นเพียงการโกหกคำโต โครงการต่างๆ มีไว้เพื่อเป็นช่องทางเพื่อการทุจริตแบบมีเชิง เอาไว้เพื่อการหักดิบ นักการเมืองโกงให้ข้าราชการรับเคราะห์แทน
กรณีทุจริตการขายทรายให้สนามบินหนองงูเห่า และ “สุพจน์ ทรัพย์ล้อม” เป็นตัวอย่าง ผลสุดท้ายอยู่ที่ว่าใครเป็นแพะ ใครหนีคุกทัน หนีได้ทันตลอดจนหมดอายุความหรือไม่เท่านั้น
ดังนั้น เรื่องแต่งรัฐธรรมนูญฉบับพิสดารก็ว่ากันไป จะหาวิธีป้องกันนักการเมืองกังฉินอย่างไรก็สุดแล้วแต่ความสามารถ แต่คงยากเพราะอาชญากรย่อมก้าวแซงไปก่อนคนดีเสมอ
เรื่องแต่งรัฐธรรมนูญจึงไม่น่าหนักใจสำหรับคุณท่าน เพราะมีชัยไทยแลนด์ย่อมรู้ใจผู้กุมอำนาจรัฐ จัดให้ได้ตามความต้องการ บางครั้งจะให้หมกกี่เม็ด ซ่อนกี่เงื่อน ไม่ใช่เรื่องยากเย็นนัก
เว้นแต่พวกเดียวกัน หรือกลุ่มคนรู้ทันออกมาร้องโวยวายเท่านั้น!
ปัญหาการบริหารบ้านเมืองจึงไม่ง่าย ช่วงนี้คุณท่านอาจต้องแบ่งหู เผื่อใจไว้สำหรับเสียงคร่ำครวญออดอ้อนเป็นระยะๆ ของโฉมสคะราญหวานฉ่ำเยิ้มนักเพาะเห็ดจากดินแดนล้านนา ร้องขอความกรุณาเปิดช่องให้สู้คดีในข้อหาสร้างความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวหลายแสนล้านบาท
แม่นางโฉมสะคราญยกแม่น้ำทั้งห้ามาอ้างให้คุณท่านหวังให้ใจอ่อน ระลึกถึงไมตรีความหลัง แต่คุณท่านปล่อยให้ “เสธ. ไก่อู” รับหน้า รับมือกับการร้องแรกแหกกระเฌอในลีลาไก่แก่แม่ปลาช่อน
ต้องเข้าใจให้ลึกซึ้งอีกครั้งว่าแม่นางนักเพาะเห็ดไม่ต้องการความยุติธรรมตามคำอ้าง แต่ต้องการให้หลุดคดี พ้นข้อกล่าวหา ไม่ต้องโดนยึดทรัพย์ชดใช้ความเสียหายมหาศาลต่างหาก
แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าเล่นยาก แม่นางโฉมสะคราญยังมีลีลาเยอะ นอกจากจดหมายกระตุกหัวใจ ยังมีเวลาจัดคิวเดินสายหาเหตุไปปรากฏตัวตามสถานที่ต่างๆ ทำบุญ เปิบอาหาร เดินชมนกชมไม้ชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปตามความถนัดในเรื่องไร้สาระ เป็นการประเมินระดับความนิยมถมไม่เต็มต้นน้ำถึงปลายน้ำ
ดูแล้ว ลีลาซ้ำซากของแม่นางน่าจะสร้างความน่าเบื่อหน่ายให้คุณท่านบ้าง แล้วแต่อารมณ์ตอบรับ ช่วงนี้มีเรื่องกวนใจเกี่ยวกับความอื้อฉาวเกี่ยวโยงนายทหารจำต้องทนกล้ำกลืนแบบเลี่ยงไม่ได้
การประกาศโครงการใหม่ๆ ยังถูกสงสัยว่าจะทำเสร็จหรือ เมื่อขบวนการเกียร์ว่างยังเข้มแข็ง เพราะรู้ว่าคุณท่านและพวกจะไปกลางปี 2560 แต่ไม่มีใครกล้ายืนยันว่าจะเป็นไปตามนั้น
การยกเลิกข้อจำกัดผังเมืองทั่วประเทศ เปิดทางให้ลงทุนอุตสาหกรรมในพื้นที่เคยต้องห้าม ได้สร้างความสงสัยว่าทิศทางอนาคตประเทศจะเป็นเศรษฐกิจพอเพียงตามคำประกาศที่สหประชาชาติ หรือก้าวบนเส้นทางทุนนิยม อุตสาหกรรมเต็มสูบ เหลือการเกษตรไว้ตามบุญตามกรรมกันแน่
ถ้าไร้ข้อจำกัด จะมีพื้นที่ปลอดเขตพิษอุตสาหกรรมเหลืออยู่อีกหรือไม่ ทุกวันนี้มีโรงงานใหญ่น้อยสร้างปัญหาให้แทบทั่วทุกหัวระแหง หน่วยงานควบคุมตรวจสอบไม่ทำหน้าที่ได้ตามคาดหวัง
จะมีเหมืองแร่ทองคำ บ่อแร่โปแตช โรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงงานสารพัดสร้างหายนะอีกมากเท่าไหร่ หลับตามโนอนาคตแผ่นดินไทยชวนให้รู้สึกสยดสยอง จะมีอากาศสะอาดให้หายใจอีกหรือไม่
ใครพอจะรู้เยอะ วานตอบด้วยก็แล้วกัน