xs
xsm
sm
md
lg

ตัวเล็กๆ แต่ความสนุกไม่เล็ก : Ant-Man

เผยแพร่:   โดย: อภินันท์ บุญเรืองพะเนา


ก่อนไปดูหนังเรื่องนี้ พี่ที่นับถือท่านหนึ่งสนทนากับผมว่า ซูเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวล สตูดิโอส์ นั้น กดสูตรติดชนิดคาดหวังได้ ราวกับมีดบินของลี้คิมฮวงที่ไม่เคยพลาดเป้า ซึ่งก็เห็นจะเป็นจริง เพราะตลอดเส้นทางที่ผ่านมา หนังของมาร์เวล ไม่เคยมีเรื่องไหนไม่ทำเงิน และที่ยิ่งไปกว่านั้น คือการแตกไลน์ขยายจักรวาลออกไปด้วยการเปิดโอกาสให้ซูเปอร์ตัวอื่นๆ ได้เป็นตัวเอกโดดเด่นขึ้นมาบนจอเงินก็ประสบความสำเร็จและได้รับการต้อนรับจากคนดูผู้ชมเป็นอย่างดี อย่างเช่นเหล่าฮีโร่ฮีรั่วในการ์เดี้ยนส์ อ๊อฟ เดอะ แกแล็กซี่ ซึ่งฉายเมื่อปีก่อน หรืออย่างด๊อกเตอร์สเตรนจ์ที่จะมาในปีหน้า แต่ ณ ขณะนี้ ไม่น่าจะมีใครปฏิเสธได้ว่า แอ๊นท์-แมน คือฮีโร่ตัวล่าสุดที่เพิ่งแนะนำตัวเองบนจอเงินและจะเป็นอีกหนึ่งฮีโร่ขวัญใจคนดูชนิดที่วางอนาคตภาคต่อไว้ได้เลย

จุดเด่นที่ยังคงเส้นคงวาและถือเป็นการรักษาฐานที่มั่นแฟนคลับไว้ได้อย่างเหนียวแน่น คงเป็นเรื่องของการจัดวางน้ำหนักการนำเสนอของเรื่องซึ่งเกือบจะพูดได้ว่าเป็นสูตรสำเร็จอย่างหนึ่ง เนื้อหาของหนังไม่หนักมาก ดูไม่ยาก และสามารถจะเสพได้ทุกวัยในสไตล์ของความเป็นหนังที่ดูได้ทั้งครอบครัว สถานะของหนังซึ่งถูกคิดผ่านที่ประชุมเรียบร้อยแล้ว จึงมีสถานะสำคัญกว่าเสมอ ดังนั้น เราจึงมักได้ยินผู้กำกับภาพยนตร์บางคนที่เคยทำหนังให้มาร์เวลออกปากว่าการทำหนังกับมาร์เวล สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการนำพาหนังให้เดินไปจนสำเร็จเสร็จสิ้นตามใบสั่ง ความสำเร็จของหนังนั้นสำคัญเหนืออื่นใด ซึ่งแน่นอนว่า การมีสูตรแบบนี้ก็เป็นข้อดีของมาร์เวลแบบปฏิเสธไม่ได้ เพราะอย่างน้อยที่สุด มันการันตีหรือทำให้หนังคาดหวังได้ในแง่ของความสำเร็จด้านเงินทอง และในทำนองเดียวกันนี้ ฮีโร่หน้าใหม่อย่างแอ๊นท์แมนก็แน่ชัดแล้วว่าน่าจะทำเงินให้แก่มาร์เวลได้อีกนาน

อันที่จริง แอ๊นท์แมนไม่ใช่คนอื่นคนไกล เขามีส่วนที่พาดเกี่ยวกับจักรวาลของดิ อะเวนเจอร์ส เพียงแต่ตอนแรกเริ่ม ผู้ริเริ่มการทดลองและนับเป็นแอ๊นท์แมนคนแรก อย่าง “แฮงก์ พีม” จะแยกตัวออกไปจากโลกของอะเวนเจอร์ส แต่สุดท้าย เมื่อเข้าสู่ยุคแอ๊นท์แมนรุ่นสอง ซึ่งได้แก่ “สก็อต แลง” ซึ่งจะไปมีบทบาทสำคัญในจักรวาลของอะเวนเจอร์ส (ก็บอกแล้วว่า มาร์เวลยังมีเวลาทำมาหากินได้อีกยาวนาน) ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม หนังแอ๊นท์แมนภาคนี้ ดูจะรวบรัดตัดความในการเล่าข้ามเรื่องราวยุคบุกเบิกของแฮงก์ พีม ตามข้อมูลในเวอร์ชั่นการ์ตูนพอสมควร แล้วโฟกัสไปที่แอ๊นท์แมนรุ่นสอง โดยมีเนื้อหาประวัติในส่วนของแฮงก์ พีม กรุ่นๆ เป็นแบ๊กกราวน์อยู่เบื้องหลัง...ถ้าจะมองตามไทม์ไลน์ที่มาร์เวลเคยทำไว้ในเรื่องเอ็กซ์เม็น เรื่องของแฮงก์ พีม ก็สามารถที่จะเอาไปทำอีกครั้งอย่างละเอียดได้ในภายภาคหน้า เปรียบเสมือนว่า มีเอ็กซ์เม็นหนึ่ง-สอง-สาม แล้ว ค่อยมีเอ็กซ์เม็นเฟิร์สคลาส ก็ไม่เสียหาย

อย่างไรก็ดี อันนั้นเป็นเรื่องอนาคตซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ ณ ปัจจุบัน ภาคนี้ แอ๊นท์แมน แนะนำตัวเองผ่านเรื่องราวของฮีโร่ตัวหลักนามว่า “สก็อต แลง” ผู้ล้มเหลวในชีวิตคู่ มีลูกมีเมีย เมียก็เลิกและพาลูกไปอยู่กับแฟนใหม่ ขณะที่ตัวเขาเองก็ดูจะไร้หลักแหล่ง ไม่มีงานการเป็นหลักเป็นฐาน เพียงแต่ใช้ความเชี่ยวชาญในการเป็นหัวขโมยประทังชีวิตกับเพื่อนร่วมก๊วนอีกสามสี่คน หลังจากที่โดนจับติดคุกแล้ว กลับออกมาก็หวังว่าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ “ไอ้ขี้คุก” ก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับการต้อนรับจากโลกอีกต่อไป จึงจำต้องหันเหกลับเข้าสู่โลกแห่งหัวขโมยอีกครั้ง เหตุการณ์พลิกผันครั้งสำคัญในชีวิตของสก็อต แลง ก็เริ่มต้นตรงจุดนี้ เมื่อเขากับพรรคพวกลักลอบเข้าไปในบ้านของเศรษฐีคนหนึ่งเพราะหวังว่าจะเจาะตู้เซฟเอาทรัพย์มาใช้ แต่เขาหารู้เลยไม่ว่า บ้านหลังดังกล่าวนั้น คือบ้านของ “แฮงก์ พีม” นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงตัวตนของเขาไปตลอดกาล

สนุกสนานสำราญใจ...เราคงใช้คำนี้กับหนังเรื่องแอ๊นท์แมนได้แบบไม่รู้สึกเขินปาก เพราะตลอดระยะเวลาความยาวกว่าสองชั่วโมง หนังเล่าเรื่องได้น่าติดตาม ในความรู้สึกส่วนตัวของผม หนังสนุกกว่าอะเวนเจอร์ส 2 เสียด้วยซ้ำ แม้ตัวละครจะเป็นพวกที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ ในโลกของหนัง โดยเฉพาะ พวกขี้แพ้หรือลูสเซอร์ที่บังเอิญได้โอกาสในการพลิกกลับชีวิตในทางที่โสภาขึ้น เหมือนอย่างสก็อต แลง หรือแม้กระทั่งตัวเรื่องที่รู้ว่าจะต้องดราม่าจุดนั้นจุดนี้เพื่อให้หนังดูมีน้ำหนัก โดยเฉพาะเรื่องครอบครัว ตัวตนที่ล้มเหลว แต่กระนั้น หนังก็ทำออกมาได้กลมกล่อมครบรสชาติ แอ็กชั่น ดราม่า และเสริมด้วยความตลกในหลายฉาก

โดยส่วนตัว ผมรู้สึกว่า การพบกันระหว่างสก็อต แลง กับ แฮงก์ พีม นั้น เป็นการจับคู่ที่ถูกฝาถูกตัวมาก เพราะทั้งสองคน พูดจริงๆ ก็มีปมพอๆ กันในเรื่องความสัมพันธ์และครอบครัว ขณะที่สก็อต แลง ชีวิตตะแคงซ้ายตะกายขวา แฮงก์ พีม ก็มีความหลังเรื่องความรักที่ไม่ธรรมดา อีกทั้งขณะปัจจุบันก็ดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกจะเอียงกะเท่เร่ ทั้งหมดทั้งมวล มันส่งผลให้แอ๊นท์แมนเป็นหนังฮีโร่ที่ไม่ได้เกิดขึ้นมาเพียงเพื่อจะปราบผู้ร้ายอย่างเดียว แต่มันยังดูมีน้ำหนักในแง่เรื่องราวเนื้อหาด้วย อย่างน้อยที่สุด ผมเห็นว่าแอ๊นท์แมนนั้นอาจจะทำได้สนุกกว่าหนังบางเรื่องของมาร์เวลด้วยซ้ำ อย่างน้อยๆ ก็สนุกกว่าอะเวนเจอร์ส 2 ในความรู้สึกของผม

ผมชอบคาแรกเตอร์ของตัวละครที่พอล รัดด์ เล่น นั่นก็คือ สก็อต แลง เขาถูกออกแบบและตกแต่งมาเพื่อจะเป็นแอ๊นท์แมนได้อย่างลงตัว ชีวิตของสก็อต แลง ก็เหมือนคนตัวเล็กๆ ที่ถูกบีบจากสถานการณ์รอบทิศ ชีวิตเล็กๆ แทบจะดูไร้ค่าของเขา เข้ากันได้ดีกับลักษณะของ “มด” (Ant) ที่เขาจะเป็นในลำดับถัดไป และสุดท้าย ความฟีลกู๊ดที่หนังเรื่องนี้ส่งออกมา ก็คือเรื่องพลังของคนตัวเล็กที่แม้แต่เด็กๆ ก็จะสนุกสนานไปด้วยได้

แอ๊นท์แมน เป็นการเปิดตัวและปูทางเพื่อก้าวไปข้างหน้าต่อไปได้สวยงาม และถ้อยคำอื่นใดก็คงไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่า “เป็นหนังที่น่าดู”...


ASTVผู้จัดการออนไลน์ เพิ่มหมวดข่าว “โต๊ะญี่ปุ่น” นำเสนอความเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสาร ตอบสนองผู้อ่านที่สนใจในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้ง สรรสาระ เกร็ดความรู้ต่างๆ ที่ผู้อ่านควรรู้ และ ต้องรู้อีกมากมาย ติดตามเราได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป



ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม



เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก










กำลังโหลดความคิดเห็น