ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์
ขณะที่บ้านเรายังจมปลักติดอยู่ในพิธีกรรมแต่งรัฐธรรมนูญ เถียงกันเรื่องที่มาของนายกรัฐมนตรี ส.ส. ส.ว.ว่าจะเอาอย่างไรให้เหมาะกับการเมืองน้ำเน่า เอาแต่ได้ ไร้ความชัดเจนว่าอนาคตประเทศไทยจะไปอย่างไรนั้น นอกบ้านเราล้วนมีเหตุส่งผลกระทบถึงเราแบบเลี่ยงไม่พ้น
ปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และด้านอื่นๆ ใช่ว่าจะยากเย็นแสนเข็ญเกินแก้ เพียงแต่มีข้อติดขัดง่ายๆ ไม่มีใครจัดการ และผู้มีอำนาจจัดการต้องซื่อตรง จริงใจ เห็นแก่ผลประโยชน์ของชาติและประชาชนโดยรวมอย่างแท้จริง
พวกเย้วๆ คุยฟุ้งเรียกร้องสิทธิต่างๆ อ้างประชาธิปไตยทุกวันนี้ล้วนมีผลประโยชน์แฝงเร้นทั้งนั้น น่าเห็นใจพวกที่มีอาชีพเดียว เมื่อการเมืองสะดุด ก็หยุดโอกาสรวยทางลัด
บ้านเมืองของเรา ถ้าไม่ปฏิรูปกลไกกระบวนการยุติธรรมอันดับแรก ให้มีคนดีทำหน้าที่รักษากฎหมายอย่างจริงจัง คงยากที่จะคิดทำอย่างอื่นได้ เมื่อระบบเส้นสายเครือข่ายของการอุปถัมภ์ยังแข็งแกร่งลงรากลึก ขุดลำบากคนทำได้สำเร็จ ต้องใจถึง มือถึง ไม่ใช่ประเภทดีแต่โม้
เอาเรื่องที่มาของนายกฯ ก็ไม่น่าซับซ้อน เรื่องเยอะ ถ้าไม่มีอำนาจแฝงเร้นของพวกกลุ่มทุนอยากกุมอำนาจรัฐ แต่ไม่อยากเข้าสู่กระบวนการแข่งขันเลือกตั้งยุ่งยาก มาแทรกแซง เสนอแนะแนวทางในการร่างรัฐธรรมนูญ
“เปิดช่องไว้บ้าง อย่าให้เกิดปัญหาทางตัน จะได้ไม่ต้องทำรัฐประหาร!”
ฟังแล้วดูเหมือนดี แต่ต้องฟังหลายครั้ง ดูด้วยว่าใครพูด ที่ผ่านมาบ้านเมืองเจอทางตัน นักการเมืองสามานย์ไล่ก็ไม่ไปเป็นตัวก่อวิกฤต ต้องผ่าทางตันใช้การรัฐประหารเป็นทางเลือกสุดท้าย
แต่การมีรัฐประหารบ่อยๆ เพราะหลายครั้งทำเสียของ ล้มเหลว เยี่ยวไม่สุด ทั้งยังมีพยายามต่อรองหวังประสานผลประโยชน์กับกลุ่มอำนาจเก่า ปัญหาเรื้อรังสารพัดจึงไม่ได้รับการแก้ไขแท้จริง
การรัฐประหาร สำเร็จหรือล้มเหลวยังเสี่ยงทำให้ภาพลักษณ์ของกองทัพเสียหาย ยิ่งถ้ากลุ่มนักรัฐประหารจ้องหาผลประโยชน์ไม่ต่างจากนักการเมือง ดังที่ได้เกิดขึ้นมาแล้ว
ประชาชนไม่อยากเห็นความล้มเหลว ไม่อยากเห็นการรัฐประหารแล้วคนได้กุมอำนาจช่วงเวลาหนึ่งจากไปพร้อมกับเสียงครหาว่ามีการประพฤติมิชอบ สร้างปัญหาต่อเนื่อง
คุณท่านและคณะปัจจุบันต้องพยายามไม่ให้ซ้ำรอยเดิม ที่ผ่านมาก็ได้ แสดงท่าที เจตนาและจุดยืนอย่างแรงกล้าว่าจะต้องจัดการปัญหาเรื้อรังเพื่อให้เกิดความถูกต้องดีงามในบ้านเมือง
ชาวบ้านเอาใจช่วยด้วยความหวังว่าคุณท่านเอาจริง ไม่ถอดใจเสียก่อน มีอำนาจแล้วต้องใช้ให้เหมาะสมเพื่ออนาคตมั่นคงของบ้านเมือง
อย่าให้ประชาชนต้องผิดหวังอีก ถ้าการปฏิรูปต่างๆ ไม่สำเร็จ อย่าหวังว่านักการเมืองจะทำ
คุณท่านยังต้องสร้างความกระจ่างโปร่งใสในเรื่องความอื้อฉาวกระทบเกียรติภูมิ ความน่าเชื่อถือของกองทัพ ถ้าเกี่ยวโยงพัวพันถึงใคร ต้องจัดการอย่างจริงจังเพื่อเสริมความศรัทธาของประชาชน
นี่เป็นเรื่องหนักอกสำหรับหลายคน มีความกังวลว่าใครจะโดน ใครจะรอดจากข้อครหาทั้งยังมีกระแสข่าวลือต่างๆ คุณท่านต้องหยุดให้ได้ นี่เป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือด้วย
ที่สำคัญ กองทัพต้องดำรงอยู่เป็นเสาค้ำยันหลักของประเทศ อยู่ด้วยความศรัทธาเชื่อมั่นของประชาชน ไม่รับใช้กลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองหรือทางอื่นใดซึ่งหวังเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ถ้ากองทัพเป็นเครื่องมือทางการเมือง เกิดความเสื่อมศรัทธา ประชาชนขาดที่พึ่ง จะมีปัญหาความมั่นคงแน่
ยิ่งยุคใดอนาคตของบ้านเมืองเปราะบาง การเมืองป่วน ผู้นำทุกเหล่าทัพยิ่งต้องระวัง หนักแน่น ยึดมั่นกับประชาชนเท่านั้น
เป็นภาระหน้าที่โดยรวมของคุณท่านในฐานะผู้นำรัฐบาล
มาถึงประเด็นที่มาของ สส. ทุกวันนี้ยังไม่มีใครอธิบายเหตุผลน่าเชื่อถือว่าทำไมต้องมีระบบ ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ ทั้งๆ ทึ่มีหลักฐานให้เห็นชัดแล้วว่าเป็นระบบเลวร้าย เปิดทางให้นายทุน พวกมีประวัติมัวหมอง อาชญากร พวกเจ้าพ่อ ผู้มีอิทธิพลเกาะหลัง ส.ส. เขต ใช้คะแนนรวมเดินเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญ
ปาร์ตี้ลิสต์ชุดล่าสุดมีพวกขี้คุก อาชญากรเผาเมือง ปล้นห้าง นักติดสินบนตุลาการเข้ามาเพียบ ดังนั้น ระบบปาร์ตี้ลิสต์คือการช่วยเหลือพวกอีแอบ ไอ้แอบ ตัวร้าย ตัวโกง หลังลายนั่นเอง พวกนี้ไม่ต้องเดินสายเสี่ยงหาซื้อเสียง เป็นนักตีกินเพราะได้ทำประโยชน์ให้เจ้าของพรรค นักค้าทาสการเมือง
ทำไมไม่เสนอตัวให้ชาวบ้านเลือกในระบบแบ่งเขต หรือให้แต่ละจังหวัดเป็นเขตเดียว หรือมีใครยังเป็นห่วงนักซื้อเสียงต้องลำบาก ทุ่มเงินจ้างหัวคะแนนมากกว่าที่เคยทำ เสี่ยงต่อการสอบตกสูง
ผู้สมัคร ส.ส. ต้องไม่เคยรับโทษคดีอาญา เว้นกรณีประมาท มีโทษรอการลงอาญาถือว่ามีมลทิน ในสังคมการเมืองคนหน้าบาง การตรวจสอบเข้มข้น คนหน้าด้านรับรู้ จำยอมปิดฉากตัวเอง แต่สังคมการเมืองน้ำเน่าหน้าด้านแบบไทย ต้องมีบทข้อห้ามพิเศษเฉพาะนักการเมืองหน้าหนา ไร้จิตสำนึก
ผู้สมัคร ส.ส. ส.ว. ต้องผ่านการซักฟอกตรวจสอบสาธารณะอย่างเปิดเผยทางทีวี ตอบคำถามในการสอบประวัติ ถ่ายทอดสด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีพฤติกรรมมัวหมอง น่ารังเกียจ ทุจริต ฉ้อฉล
วิธีนี้เหมาะสมสำหรับผู้ที่มั่นใจว่าตัวเองประวัติสะอาด ไม่มีแผลเน่าเปื่อยให้ขุดคุ้ย เปิดเผยให้รับรู้กันโดยทั่วไป เป็นการประหยัดเวลาในการป้องกันวงการเมืองไม่ให้มีพวกกังฉินตัวร้ายเยอะ
พวก ส.ส. หลังลายเคยถูกศาลสั่งยุบพรรคแล้ว 2 ครั้งเพราะทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย โกงกินคำโต และยังโดนรัฐประหาร 2 ครั้ง ถือว่าเป็นบุคคลต้องห้าม
เอาประเด็นที่มาของ ส.ว. เมื่อไม่ต้องการให้เกิดรูปแบบสภาผัวเมีย ให้ ส.ว. เป็นอิสระ ต้องกำหนดกรอบไว้ให้รัดกุม เพื่อตัดความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างสมาชิกทั้งสภาผู้แทน วุฒิสภา
เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญไว้เลย ห้ามคนเคยเป็น ส.ส. หรือเคยเป็นสมาชิกพรรคการเมือง รวมทั้งคนในครอบครัว พ่อแม่พี่น้องปู่ย่าตายาย ลงสมัครเป็น ส.ว. ตลอดชีวิต อย่าอ้างว่าละเมิดสิทธิ
ที่ผ่านมา ผัวเมีย ลูกเต้า ได้อาศัยคะแนน นามสกุลของกันและกันเป็นทางลัดเข้าสู่รัฐสภา
ถ้าต้องการให้ ส.ว. มีอิสระ ไม่มีสังกัดในระดับหนึ่ง ต้องวางกฎเข้มแบบนี้ ให้เลือกเอาทางใดทางหนึ่ง การเมืองไทยของคนหน้าด้านแตกต่างจากสังคมการเมืองพัฒนาจึงจำเป็นต้องวางกฎอย่างนี้
ส.ว. ควรเริ่มต้นจากไม่มีฐานเสียง ถ้าปรากฏหลักฐานว่ามีสังกัดแฝงเร้นต้องถูกปลดทันที ไม่ต้องมีพิธีกรรมถอดถอนให้เปลืองน้ำเปลืองไฟสภา เปลือง เบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ เป็นภาระเงินภาษี
ใครมีความผิดด้านซื้อเสียง ทุจริต ต้องถูกยึดทรัพย์ มีโทษตืดคุก ห้ามเล่นการเมืองตลอดชีวิต โทษในการกระทำความผิดต่างๆ เกี่ยวโยงกับตำแหน่งทางการเมือง ต้องถูกยึดทรัพย์ทุกกรณี!
เอาแบบนี้กันเลยมั้ย ไหนๆ ก็ ไหนๆ แล้ว? ไม่ต้องกลัวใครโวย ไม่ได้บังคับให้มาสมัครเป็น ส.ว. ให้รู้กันโดยทั่วไปว่าการเมืองต้องสะอาด ปราศจากกลุ่มผลประโยชน์ผ่านตัวแทน
กระบวนการสรรหาหรือคัดสรรผู้เข้าทำงานองค์กรของรัฐควรใช้วิธีนี้เช่นกัน เป็นระบบการตรวจสอบขั้นพื้นฐานเพื่อกำจัดการทุจริต ประพฤติมิชอบ ให้เข้ากับการปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจ สังคม
ที่ยืนในสังคมสาธารณะเปิดเผยมีไว้สำหรับคนดี พฤติกรรม ประวัติสะอาดเท่านั้น!
คุณท่านผู้นำ และท่านมีชัยไทยแลนด์ จะนำประเด็นเหล่านี้ไปถกในกลุ่มนักแต่งรัฐธรรมนูญก็ได้ ใครเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย ก็จะได้รู้ว่าเป็นพวกใคร ขี้ข้านายทาสการเมืองคนไหน
ดีกว่าอยู่แบบเดิมๆ ไม่ลอง ไม่รู้นะ