xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.เจอหลักฐานเด็ดจีทูเก๊รอบใหม่ เช็กเฉียดแสนล้าน รัฐขีดเส้น30วัน“ปู”แจงจำนำข้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน- "วิษณุ"ให้โอกาส "ปู" ชี้แจงภายใน 30 วัน ปัดกัน "บิ๊กตู่" ออกจากปมร้อน สอนเชิงทนายเอาให้ดี จะฟ้องกลับนายกฯ เล่นคน หรือตำแหน่ง "ทนายปู"อัด "ไก่อู" พูดล้ำเส้นทั้งที่ไม่รู้ระเบียบสอบสวน เล็งงัดคำพูดนายกฯประจานคนไทย ปมเร่งเดินหน้าเรียกค่าเสียหาย หวังเพิ่มน้ำหนักคดีอาญา "หมอวรงค์" เตือนรัฐบาลอย่าชะล่าใจ หลัง “ก๊วนเพื่อไทย” ระดมโจมตีคดีจำนำข้าว หวั่นแพ้เกมการเมืองตามแผน "แม้ว" ขณะที่ ป.ป.ช.เจอหลักฐานเด็ดจีทูจีปลอมรอบใหม่ พบแคชเชียร์เช็กพันกว่าใบเฉียดแสนล้าน ลุยเช็คขบวนการเดียวกับรอบแรกหรือไม่

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินการเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้ได้มีการขยายเวลาให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการรับจำนำข้าวออกไปอีก 30 วัน เหมือนที่เคยขยายจนถึงวันที่ 30 ก.ย. และยังสามารถขยายได้อีก เพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น ใครที่เคยถูกเชิญมาให้ข้อมูลแล้วยังไม่ได้มา ก็จะถามไปอีกครั้งว่า จะมาหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้เคยเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาให้ข้อมูลแล้ว แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ขอส่งข้อมูลเป็นลายลักษณ์อักษร ส่วนคณะกรรมการอีกชุดของกระทรวงพาณิชย์ที่มีการส่งข้อมูลมาแล้วก่อนหน้านี้ จะส่งให้นายกฯภายใน 1 -2 วันนี้

“ขอย้ำว่า เราไม่เคยบอกว่านโยบายจำนำข้าวผิด และไม่เคยบอกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทุจริต แต่มีการปล่อยให้เกิดการทุจริต อีกทั้งมีการบอกมาแล้วว่า มีการทุจริต แต่ไม่มีการแก้ไข หรือตรวจสอบ ไม่ดำเนินการ จึงกลายเป็นความผิดของผู้บังคับบัญชา” นายวิษณุ กล่าว

** เย้ย “ทนายปู” ปล่อยไก่

ผู้สื่อข่าวถามว่า การระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ไม่ต้องลงนามในคำสั่งทางปกครองดังกล่าว เป็นการป้องกันไม่ให้นายกฯถูกฟ้องกลับหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวปฏิเสธว่า ถึงนายกฯลงนาม ก็ใช่ว่านายกฯจะถูกฟ้องกลับได้ และถึงนายกฯจะไม่ลงนาม หากจะหาทางฟ้อง ไม่ใช่ว่าจะหาทางฟ้องไม่ได้ ถ้าทนายเก่งก็ฟ้องจนได้ อยู่ที่กฎหมายข้อบังคับว่าอย่างไร ทั้งนี้ นายกฯยังบอกว่า หากจำเป็นก็พร้อมลงนาม ส่วนทนายที่คิดจะฟ้องก็ต้องคิดให้ดี ว่าจะฟ้องคน หรือตำแหน่ง และถึงอย่างไร นายกฯยังต้องลงนามร่วมกับรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ส่งไปยังคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่ง ซึ่งเป็นชุดที่ 2 อยู่ดี

เมื่อถามว่า การเรียกเก็บค่าเสียหายตามกระแสข่าวที่เป็นวงเงินสูงถึงแสนล้านบาท เป็นวงเงินมากที่สุดตั้งแต่มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ในกฎหมายดังกล่าว มีช่องทางที่สามารถผ่อนผัน หรือลดลงมาได้ และตนไม่เข้าใจว่า ทนายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาชี้ถึงจุดอ่อนขั้นตอนการดำเนินการของรัฐบาลทำไม เหตุใดไม่ไปพูดในศาลทีเดียว

** “ทนายปู” ตอก “ไก่อู” ล้ำเส้น

นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาวิจารณ์เรื่อง การคัดค้านการใช้คำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวว่า เกรงว่า พล.ต.สรรเสริญ จะไม่รู้ระเบียบกติกาการสอบสวน ไม่ควรพูดเรื่องคดี อีกทั้งตำแหน่งโฆษกฯ ไม่มีหน้าที่ไปตอบเรื่องการทำหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ส่วนที่ พล.ต.สรรเสริญ พูดทำนองดูหมิ่นดูแคลน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า อธิบายความแล้วคนฟังไม่เข้าใจ เลยเขียนตอบเป็นเอกสารนั้น อยากให้ พล.ต.สรรเสริญ เข้าใจและรู้ความจริงในเรื่องนี้ว่า คณะกรรมการสอบสวนกลุ่มนั้น มีส่วนได้เสีย น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงขอคัดค้านเปลี่ยนตัวกรรมการ แต่นายกฯและหัวหน้า คสช. ไม่ตอบและไม่สนใจ จนบัดนี้หนังสือคัดค้านที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ส่งไปถึงนายกฯก็ยังไม่ตอบมา ทั้งที่ควรตอบว่าทำไมไม่เปลี่ยน คณะกรรมการฯ อีกทั้งการตอบเป็นหนังสือและการถามเป็นหนังสือ ก็ถือเป็นสิทธิตามกฎหมายและระเบียบที่ให้กระทำได้ รวมถึงการนัดหมายของคณะกรรมการฯ ก็ไม่ดูความเหมาะสมของวันเวลาที่สอบสวน ทำงานตามอำเภอใจ

“ขอให้โฆษกรัฐบาล ระวังว่า นอกจากนายกฯ จะไม่ตอบ และไม่ชี้แจงเรื่องที่อดีตนายกฯ ทำหนังสือคัดค้านแล้ว นายกฯยังไปพูดและให้สัมภาษณ์เรื่องการสอบสวนคดีนี้ไว้ที่ไหนอย่างไร ทีมทนายเก็บหลักฐานไว้หมด ถึงวันหนึ่งในเวลาที่เหมาะสม จะเอาออกมาแสดงให้คนทั้งประเทศได้รู้ วันนั้นโฆษกฯ คงตอบแทนไม่ได้ และขอตั้งข้อสังเกตว่าการรีบเร่งครั้งนี้มีนัยสำคัญในทางเป็นประโยชน์ต่อคดีอาญา ต้องการเร่งรีบเอาผลสอบสวนคดีแพ่งไปเติมให้คดีอาญา เพราะขณะนี้ทางอัยการได้ยื่นบัญชีระบุพยาน เกี่ยวกับผลการสอบสวนคดีแพ่งไว้ล่วงหน้าแล้ว” นายนรวิชญ์ กล่าว

** เตือน รบ.อย่าประมาท "แม้ว"

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรชะล่าใจกับปฏิกิริยาที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยหลายคนออกมาโจมตีคดีโครงการจำนำข้าว โดยมีการบิดเบือนหลายประเด็น เพราะนี่คือเกมการเมืองที่ถนัดของพรรคเพื่อไทย เพื่อให้คนเข้าใจผิด และหาว่ารัฐบาลกลั่นแกล้ง ทางที่ดี รัฐบาลต้องขยันพูด ขยันชี้แจง มิฉะนั้นอาจชนะทางข้อกฎหมาย แต่แพ้เกมทางการเมือง และการสร้างสิ่งบิดเบือน มักจะเข้าใจ และจำได้ง่ายกว่าการชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนั้นถ้าคนเพื่อไทยออกมามากหน้าหลายตา รัฐบาลก็ควรหาคนออกมาชี้แจงหลายๆ คน เพื่อเป็นการยืนยันในสิ่งที่ถูกต้อง ที่สำคัญเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเกมการเมือง ไม่ใช่การชี้แจงตามปกติ

“สิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทำ คงต้องการฟ้องทั้งนานาชาติ และประชาชนในประเทศ ที่ไม่ได้ติดตามข่าวสาร รวมทั้งกลุ่มกลุ่มสาวกว่า ตัวเองถูกกลั่นแกล้ง เพื่อหวังผลชนะเกมทางการเมือง เพราะสุดท้าย แม้จะแพ้ทางข้อกฎหมาย แต่ถ้าชนะทางการเมืองได้ จะทำให้เขาชนะได้ทุกอย่าง เหมือนอดีตที่ นายทักษิณ ชินวัตร เคยใช้แผนนี้มาแล้ว" นพ.วรงค์ กล่าว

**ป.ป.ช.เจอหลักฐานเด็ด “จีทูเจี๊ยะ”

ขณะที่ นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวในระหว่างการแถลงผลงาน ป.ป.ช.ครบรอบ 9 ปีว่า สำหรับความคืบหน้าการไต่สวนกรณีการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) รอบใหม่กับบริษัทจีน 4 แห่งโดยมิชอบ ซึ่งมีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และนางปราณี ศิริพันธ์ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่า จากการไต่สวนเบื้องต้นทำให้เห็นข้อพิรุธหรือมูลของการกระทำผิดนั้นๆ เนื่องจากบริษัทจีน 4 แห่งดังกล่าวไม่ใช่ตัวแทนจากรัฐบาลจีนจริง แต่เป็นการแอบอ้างคล้ายมากกับกรณีระบายข้าวแบบจีทูจีที่ ป.ป.ช.เคยชี้มูลความผิดนายบุญทรงและพวกไปแล้ว ทั้งนี้ ได้ขอเอกสารจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) ในส่วนของการทำสัญญาซื้อขายข้าวของกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งป.ป.ช. ได้รับและมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อตรวจสอบรายละเอียดและความถูกต้องในการอนุมัติ การเจรจา สัญญาซื้อขายข้าวดังกล่าว

“ขณะนี้พบเอกสารที่เกี่ยวกับการชำระหนี้ที่ไม่ได้มีการขายข้าวส่งออกต่างประเทศจริง แต่กลับมีการซื้อขายข้าวภายในประเทศไทย โดยเป็นแคชเชียร์เช็ค 1,822 ใบ วงเงินกว่า 96,390 ล้านบาท” นายประสาท กล่าว

** ไล่เช็คขบวนการเดียวกันหรือไม่

นายประสาท กล่าวต่อว่า จากจำนวนหลักฐานที่ค่อนข้างมากทำให้ต้องดำเนินการสอบพยานบุคคลผู้แทนปลัดกระทรวงพาณิชย์ และผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่ยากคือ เราจะคัดแยกอย่างไร แคชเชียร์เช็ค 1,822 ใบที่ได้มา ซึ่งผู้ที่ประกอบอาชีพค้าข้าวได้ออกเช็คไว้ในนามของกรมการค้าต่างประเทศ เราจะแยกธนาคาร สาขา เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง เพื่อจะได้รู้ว่าใครเกี่ยวโยงกับแคชเชียร์เช็คอย่างไร มีที่มาที่ไปอย่างไร ต้องติดต่อธนาคารและผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความเกี่ยวข้องกับบริษัทจีนทั้ง 4 แห่ง ว่ามีการโยงใยกับกรณีระบายข้าวล็อตแรกหรือไม่อย่างไร แต่เราทราบพอสมควรว่า มันมีความโยงใยกันพอสมควร ตรงนี้เป็นหัวใจสำคัญที่จะทราบได้ว่า เป็นขบวนการเดียวกันทั้งหมดจริงหรือไม่

นายประสาท กล่าวด้วยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ประสานงานหารือมาว่า มีเงินค่าชำระข้าวในกรณีนี้อยู่ประมาณ 1.5 พันล้านบาท จะต้องทำอย่างไรกับเงินในส่วนนี้ เพราะมีการร้องขอมาว่า ให้คืนเงินกับบริษัทเอกชนไป หรือไม่ก็ต้องขายข้าวเขาไป ตรงนี้ถือเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่เรากำลังตรวจสอบว่าแคชเชียร์เช็คกับเงินจำนวน 1.5 พันล้านบาท เกี่ยวข้องหรือไม่กับบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง นี่คือ ที่สืบข้อมูลมาได้ระดับหนึ่ง ถ้าพบว่าเกี่ยวข้องจะได้ทำการยึดหรือายัดแคชเชียร์เช็คดังกล่าวต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น