รองนายกฯ เผยคดีจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์” ไม่ได้ดูผิดถูก ดูที่ประมาทร้ายแรงจนเสียหาย ปมแย้งคำสั่งปกครองต้องพูดในชั้นศาล แจงรัฐบาลไม่ดำเนินการก็เจอละเว้นหน้าที่ ย้ำต้องเป็นธรรมรัดกุม เหตุนี้คลังถึงช้าอยู่ ต้องรักษาผลประโยชน์ ปชช. ชี้นายกฯ เอี่ยวแค่ช่วงแรก กลับลำคำสั่งปกครองไม่ต้องเซ็นก็ได้ อ้าง กม.ให้ รมต.เกี่ยวข้องเซ็นแทน ปัดเซฟนายกฯ
วันนี้ (14 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายโครงการจำนำข้าวจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าเรื่องนี้ไม่ได้พูดว่านโยบายผิดหรือถูก แต่ดูที่การประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงจนเกิดความเสียหายหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอรายงานจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงการคลังรายงานมา หลังรายงานชุดของกระทรวงพาณิชย์ได้ส่งรายงานมาแล้ว ส่วนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ โต้แย้งว่าคำสั่งทางปกครองไม่สามารถใช้กับอดีตนายกฯ ได้ นายวิษณุกล่าวว่า ได้ปรึกษากับอัยการกับผู้เกี่ยวข้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ต้องพูดกันในชั้นศาล รัฐบาลจะไม่พูดตอบโต้ หากจะพูดจะเป็นเพียงการสร้างความเข้าใจประชาชนเท่านั้น และยืนยันว่าการใช้คำสั่งทางปกครองสามารถเอาผิดต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ และหากรัฐบาลไม่ดำเนินการอะไรจะกลายเป็นว่ารัฐบาลก็จะมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะเป็นผู้ฟ้องร้องรัฐบาล รัฐบาลจะเป็นผู้ชดใช้ความเสียหายตามตัวเลขค่าความเสียหายที่ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์
“ผมย้ำตลอดว่าต้องเป็นธรรมในการสืบพยาน หากมีจุดไม่รัดกุมก็ต้องให้เวลา ซึ่งก็พบว่ามีบางกรณีต้องให้เกิดความเป็นธรรม นี่คือเหตุผลที่กระทรวงการคลังยังช้าอยู่ แต่หากเชิญมาชี้แจงแล้วไม่มากก็ช่วยอะไรไม่ได้ และเรื่องนี้ไม่อยากตอบ แต่ที่ต้องพูดทั้งหมด เพราะนักข่าวถาม ผมไม่อยากพูดเอง หรือหากไม่ตอบจะเหมือนมีลับลมคมใน รัฐบาลเองก็ถูกทวงถามความคืบหน้าคดี ผมก็ต้องพูดเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชน รัฐบาลไม่ได้เพิกเฉยและซ้ำเติม บี้กันจนมีคู่บาดหมาง” นายวิษณุกล่าว
เมื่อถามว่า ขั้นตอนกระบวนการออกคำสั่งทางปกครองเอาผิดเป็นอย่างไร นายวิษณุตอบว่า นายกฯ ไม่ต้องเซ็นก็ได้ ตนได้แจ้งที่ประชุม ครม.แล้วว่านายกฯ เกี่ยวข้องแค่ช่วงต้นในส่วนของขั้นตอนสำนวนที่มาจากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและกำหนดค่าความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว จากนั้นคณะกรรมการว่าด้วยการรับผิดทางแพ่งจะมีส่งเรื่องกลับไปที่รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เป็นไปตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 5 บัญญัติไว้ว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดและไม่อยู่ในสังกัดหน่วยงานใดให้กระทรวงการคลังรับผิดชอบ เนื่องจากตำแหน่งนายกฯ ไม่มีสังกัด ส่วนที่นายกฯ ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องในช่วงแรก เพราะนายกฯ ต้องลงไปดูทุกระดับ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เคยระบุว่านายกฯ ต้องลงนามในคำสั่งทางปกครอง เหตุใดวันนี้จึงบอกว่า นายกฯ ไม่ต้องลงนามเองก็ได้ นายวิษณุไม่ได้ตอบคำถามทันที แต่ได้หยุดนิ่งระยะหนึ่ง ก่อนตอบว่า คณะกรรมการฯได้ประชุมร่วมกันเมื่อปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา และมีความเห็นชัดเจนว่านายกฯจะลงนามหรือไม่ลงนามเองก็ได้ เมื่อถามย้ำว่า เป็นความพยายามกันนายกฯ ออกจากคดีนี้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ใช่เป็นการพยายามกันนายกฯ ออกมา เพราะหากดูกฎหมายกำหนดให้รัฐมนตรีเจ้าของเรื่องเป็นคนเซ็น เพราะกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้สังกัดหน่วยงานใด ดังนั้นต้องให้ รมว.คลังลงนามคำสั่งทางปกครอง ไม่ได้เป็นการเซฟนายกฯ หากเปิดกฎหมายจะเห็นว่า คำสั่งอะไรที่ลงนามเกิน ย่อมดีกว่าลงนามขาด หรือไม่มีลงนามเลย ถ้าต้องลงนามและไม่มีการลงนามก็จะเป็นโมฆะ และนายกฯ เคยประกาศไว้ หากมีอะไรจะรับผิดชอบเพียงผู้เดียว และหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ฟ้องกลับ จะถึงตัว พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ ตนไม่ทราบ ถ้าทนายเก่งก็สามารถฟ้องถึงตัว พล.อ.ประยุทธ์ได้