xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กป้อม” อ้างทำตามขั้นตอนกฎหมาย หลัง “ยิ่งลักษณ์” ค้านนายกฯ ออกคำสั่งบี้จ่ายจำนำข้าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (แฟ้มภาพ)
แฟนเพจ “ยิ่งลักษณ์” โพสต์จดหมายเปิดผนึก จี้ “ประยุทธ์” ใช้วิธีให้ราชการฟ้องแพ่งค่าเสียหายคดีจำนำข้าว แทนออกคำสั่งทางปกครอง อ้างนายกฯ เป็นผู้มีส่วนได้เสีย เหตุเห็นต่างนโยบาย แถมใช้อำนาจฟันทั้งๆ ที่ศาลยังไม่ตัดสิน ส่งเด็กยื่นหนังสือพรุ่งนี้ ด้านรองนายกฯ และรมว.กลาโหมบอกทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย

วันนี้ (12 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เขียนจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรียกร้องให้ดำเนินการเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวด้วยการฟ้องศาลแทนการออกคำสั่งทางปกครองว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ยืนยันเราทำตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง

ทั้งนี้ เว็บไซต์เฟซบุ๊กแฟนเพจ Yingluck Shinawatra ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ระบุจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า ตนไม่มีโอกาสได้พบและติดต่อใดๆ กับ พล.อ.ประยุทธ์ มานับแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้เข้ามาเป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นเวลากว่า 1 ปีเศษแล้ว ในระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวตนได้ถูกดำเนินการในเรื่องต่างๆ ทั้งที่เป็นการดำเนินนโยบายสาธารณะที่คณะรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภา เกี่ยวกับ นโยบายรับจำนำข้าว ดังนี้ 1. สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ดำเนินการถอดถอนตนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่ ตำแหน่งดังกล่าวไม่มีอยู่และรัฐธรรมนูญได้สิ้นสุดลงแล้ว 2. มีการแถลงสั่งฟ้องคดีตนต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก่อนหน้าที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติจะมีมติถอดถอนตนเพียง 1 ชั่วโมง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า การดำเนินการให้มีการเรียกร้องค่าเสียหายทางคดีแพ่งต่อการดำเนินนโยบายรับจำนำข้าว ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ออกคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 448/2558 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ฉบับลงวันที่ 3 เมษายน 2558 และพล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก หากผิดก็มีกลไกอยู่แล้ว เรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายทางคดีแพ่ง และยืนยันใช้มาตรฐานเดียวกับทุกพวกทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ ตนคาดหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์คงต้องให้นโยบายต่อคณะกรรมการฯ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยไม่ละเลยประเด็นความยุติธรรม ตามกลไกของระเบียบที่มีอยู่อย่างไม่เร่งรีบและไม่รวบรัด ให้โอกาสผู้เกี่ยวข้องโต้แย้งแสดงพยานหลักฐานอย่างเพียงพอและเป็นธรรม ตามที่ปรากฏต่อสาธารณะโดยทั่วไปว่าฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ มีความหนักใจที่รัฐต้องฟ้องเรียกค่าเสียหายซึ่งต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมศาลเป็นจำนวนมาก แต่ในอดีตที่ผ่านมาถือได้ว่าศาลเป็นกลไกตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อการเรียกร้องค่าเสียหายในคดีแพ่ง ซึ่งต้องใช้สิทธิทางศาลโดยสุจริต

“แต่ฝ่ายกฎหมายของท่านกลับพลิกมุมกฎหมายและกลไกในการเรียกค่าเสียหายใหม่ โดยหากพบว่ามีความผิด รัฐจะไม่ฟ้อง แต่ใช้วิธีให้ท่านออกคำสั่งทางปกครอง (โดยไม่ต้องเข้าคณะรัฐมนตรี) สั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องชำระหนี้เหมือนคำสั่งยึดทรัพย์ เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมในการฟ้องเรียกค่าเสียหายที่จะต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมศาล เท่ากับว่าท่านได้ใช้อำนาจหน้าที่ของท่านเสมือนหนึ่งเป็นคำพิพากษาของศาล เป็นกลไกในการชี้ถูกผิดว่าจะให้ผู้ใดรับผิดชอบในค่าเสียหายต่อการดำเนินนโยบายรับจำนำข้าว ทั้งที่การพิจารณาคดีของศาลในคดีอาญายังไม่เสร็จสิ้น” น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า ตนเห็นว่าเรื่องที่ตนกล่าวมาทั้งหมดเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องระหว่างตนผู้เคยดูแลการแก้ปัญหาสินค้าข้าว มีกลไกบริหารนโยบาย คือ คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ซึ่งในปัจจุบัน คือ คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน อย่างไรก็ตาม ที่ตนเสนอว่าควรให้ศาลเป็นผู้พิจารณานั้น เพราะตนเห็นว่าทุกคนควรได้รับหลักประกันแห่งความยุติธรรมที่จำต้องมี เพราะการดำเนินนโยบายโครงการรับจำนำข้าวเป็นการกระทำทางการบริหารตามนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญที่มีผลผูกพันกับส่วนราชการหลายส่วนที่ต้องปฏิบัติงาน ดังนั้น เพื่อความโปร่งใสและคงไว้ซึ่งความเป็นกลาง พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว และในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่ต้องรับผิดชอบในการแก้ปัญหาในเรื่องข้าวในขณะนี้ซึ่งอาจเห็นแตกต่างกันในเชิงนโยบายและกลไกในการบริหารนโยบายในเรื่องข้าวในอดีต จึงมิใช่ ผู้ที่เป็นกลาง แต่เป็น ผู้มีส่วนได้เสีย เพราะเห็นต่างกันในนโยบายการแก้ปัญหาในเรื่องข้าว ดังนั้นการใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นผู้ตัดสินความถูกผิดโดยการใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีลงนามในคำสั่งทางปกครองเพื่อสั่งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดชำระค่าเสียหายทั้งๆ ที่ศาลยังไม่มีคำตัดสิน ถือเป็นการขัดต่อหลักนิติธรรมอย่างยิ่ง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุอีกว่า ตนจึงเห็นว่าเพื่อให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ควรจะได้มีการดำเนินการ ดังนี้ 1. พิจารณาทบทวน และยุติการดำเนินการใดๆ ที่ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลเสนอ และดำเนินการให้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจลงนามทำคำสั่งทางปกครองใดๆ อันขัดต่อหลักความเป็นกลาง และเป็นผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อมีคำสั่งให้บุคคลใดชำระหนี้ค่าเสียหาย อันเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายโครงการรับจำนำข้าว ที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา แทนการพิจารณาและพิพากษาคดีของศาล 2. ภายหลังการสอบสวนโดยกระบวนการสอบสวนที่ถูกต้องตามระเบียบ กฎหมาย และหลักนิติธรรมเสร็จสิ้น หากพบความเสียหาย รัฐเองควรให้หน่วยงานของรัฐฟ้องคดีต่อศาล เพื่อแสดงให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความยุติธรรมและเที่ยงธรรมต่อทุกคนที่ถูกกล่าวหา

3. การพิจารณาคดีอาญาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยังไม่เสร็จสิ้น และอายุความในคดียังเหลือเวลาอีกนาน ตามที่ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลแถลง จึงไม่ควรเร่งรีบ รวบรัด ในการทำสำนวนการตรวจสอบความรับผิดทางละเมิด ควรให้โอกาสผู้เกี่ยวข้องหรือผู้เสียหายได้ชี้แจงข้อเท็จจริง และโต้แย้งแสดงพยานหลักฐานของตนอย่างเพียงพอ และเป็นธรรมต่อตนซึ่งตนได้มีหนังสือหลายฉบับมายังท่านและคณะกรรมการฯ แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาและไม่แจ้งเหตุ โดย พล.อ.ประยุทธ์สามารถตรวจสอบความมีอยู่จริงของหนังสือนั้นได้ ทั้งนี้ตนได้มอบหมายให้ทนายความไปยื่นหนังสือถึงท่านในวันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2558 เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล และหวังว่าเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ได้รับหนังสือแล้วคงจะไม่เพิกเฉย และจะได้พิจารณาด้วยความเป็นธรรม เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ได้ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

จดหมายเปิดผนึกเรียน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรี ดิฉันขอใช้โอกาสนี้ ทำจด...

Posted by Yingluck Shinawatra on Sunday, October 11, 2015



กำลังโหลดความคิดเห็น