xs
xsm
sm
md
lg

แคชเชียร์เช็คกว่า 2 พันใบ 9.5 หมื่นล้าน มัดระบายข้าวจีทูจียุค “บุญทรง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวระหว่างแถลงผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ในโอกาสครบวาระดำรงตำแหน่ง 9 ปี ถึงความคืบหน้าต่อคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำนำข้าว
ป.ป.ช. พบหลักฐานเด็ด ปม “จีทูจีข้าวรอบสอง” เอาผิด “บุญทรง” อดีต รมว.พาณิชย์ - อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุ เป็นแคชเชียร์เช็คต้องสงสัย 1,822 ใบ วงเงิน 9.5 หมื่นล้าน พบเอกสารเกี่ยวกับการชำระหนี้ ไม่มีการขายข้าวส่งออกต่างประเทศจริง แต่กลับมีการซื้อขายข้าวภายในประเทศ มีเอกชนผิดชัวร์

วันนี้ (15 ต.ค.) มีรายงานว่า นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวระหว่างแถลงผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ในโอกาสครบวาระดำรงตำแหน่ง 9 ปี ถึงความคืบหน้าต่อคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำนำข้าว ว่า กรณีการตรวจสอบทั้ง โครงการรับจำนำข้าว และการระบายข้าวแบบจีทูจีรอบสอง กับบริษัทจากประเทศจีน 4 แห่ง โดยมิชอบ มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และนางปราณี ศิริพันธ์ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นผู้ถูกกล่าวหา

โดยล่าสุด คณะอนุกรรมการไต่สวนพบข้อพิรุธ เนื่องจากบริษัทจีน 4 แห่ง ที่เข้ามาซื้อข้าวนั้น ไม่ใช่ตัวแทนจากรัฐบาลจีนจริง แต่เป็นการแอบอ้าง ซึ่งคล้ายมากกับกรณีระบายข้าวแบบจีทูจีที่ ป.ป.ช. เคยชี้มูลความผิดไปแล้ว

และอนุกรรมการได้ขอเอกสารจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) ในส่วนของการทำสัญญาซื้อขายข้าวของกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่ง ป.ป.ช. ได้รับ และมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อตรวจสอบรายละเอียดและความถูกต้องในการอนุมัติ การเจรจาสัญญาซื้อขายข้าวดังกล่าว ทั้งนี้ พบเอกสารที่เกี่ยวกับการชำระหนี้ ที่ไม่ได้มีการขายข้าวส่งออกต่างประเทศจริง แต่กลับมีการซื้อขายข้าวภายในประเทศไทย โดยเป็นแคชเชียร์เช็ค 1,822 ใบ วงเงินกว่า 96,390 ล้านบาท ทำให้ต้องดำเนินการสอบพยานบุคคลผู้แทนปลัดกระทรวงพาณิชย์ และผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน

ที่ยากคือเราจะคัดแยกอย่างไร แคชเชียร์เช็ค 1,822 ใบ ที่ได้มา ที่ผู้ที่ประกอบอาชีพค้าข้าวได้ออกเช็คไว้ในนามของกรมการค้าต่างประเทศ เราจะแยกธนาคาร สาขา เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง เพื่อจะได้รู้ว่าใครเกี่ยวโยงกับแคชเชียร์เช็คอย่างไร มีที่มาที่ไปอย่างไร ต้องติดต่อธนาคารและผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความเกี่ยวข้องกับบริษัทจีนทั้ง 4 แห่ง ว่า มีการโยงใยกับกรณีระบายข้าวล็อตแรกหรือไม่ อย่างไร แต่เราทราบพอสมควรว่า มันมีความโยงใยกันพอสมควร ตรงนี้เป็นหัวใจสำคัญที่จะทราบได้ว่า เป็นขบวนการเดียวกันทั้งหมดจริงหรือไม่

นอกจากนี้ ที่น่าสังเกตคือ กระทรวงพาณิชย์ได้ประสานงานหารือมา ว่า มีเงินค่าชำระข้าวในกรณีนี้อยู่ประมาณ 1.5 พันล้านบาท จะต้องทำอย่างไรกับเงินในส่วนนี้ เพราะมีการร้องขอมาว่า ให้คืนเงินกับบริษัทเอกชนไป หรือไม่ก็ต้องขายข้าวเขาไป ตรงนี้ถือเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่เรากำลังตรวจสอบว่าแคชเชียร์เช็ค กับเงินจำนวน 1.5 พันล้านบาท เกี่ยวข้องหรือไม่กับบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง นี่คือ ที่สืบข้อมูลมาได้ระดับหนึ่ง ถ้าพบว่าเกี่ยวข้องจะได้ทำการยึดหรือายัดแคชเชียร์เช็คดังกล่าวต่อไป

มีรายงานว่า สำหรับ บริษัทจีน 4 แห่งที่เข้ามาซื้อข้าว และไม่ใช่ตัวแทนจากรัฐบาลจีนจริง แต่เป็นการแอบอ้าง ประกอบไปด้วย 1. บริษัท Haikou Liangmao Cereals and Oils Trading Co.,Ltd. ปริมาณ 3 ล้านตัน 2. บริษัท Haikou Liangyunlai Cereals and Oils Trading Co.,Ltd. ปริมาณ 2 ล้านตัน 3. บริษัท Hainan Province Land Reclamation Industrial Development ปริมาณ 4 ล้านตัน และ 4. บริษัท Hainan Land Reclamation Commerce and Trade Group Co.,Ltd. ปริมาณ 5 ล้านตัน

ทั้งนี้ เป็นการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตตามกฎหมายอื่น เห็นควรดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 โดยตั้งนายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนฯ และ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นอนุกรรมการไต่สวนฯ


กำลังโหลดความคิดเห็น