xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

บทเรียน “น้องตั๊น” สอยดาว เสียค่าโง่กันเป็นแถว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร
ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -เรื่องราวของ “น้องตั๊น” น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร อดีตแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กลายเป็นบทเรียนสอนผู้มีอำนาจอย่างสะใจจริงๆ วันนี้หลายฝ่ายที่สนับสนุนให้นักการเมืองสาว “สอยดาว” ทางลัด

อาจจะประเมินสถานการณ์แล้วว่า หากยังดึงดัน ฝืนกระแสสังคมต่อไปคนที่พังไม่ใช่ใคร ต้องไม่พ้นรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กปปส. และพรรคประชาธิปัตย์ เพราะ “น้องตั๊น” เธอมีสายสัมพันธ์โยงใยกับทุกฝ่ายที่เอ่ยมาทั้งหมด

ตลอดเวลา 1 สัปดาห์กรณี น.ส.จิตภัสร์ ตกเป็นประเด็นมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งในสังคมตำรวจ สังคมสีเสื้อ จนเกิดการปะทะทางความคิดอีกยกหนึ่ง ฝ่ายต่อต้านหยิบเอาเหตุการณ์มวลชนคนนกหวีด ขึ้นมาโจมตี ภาพเก่า คลิปเก่า ถูกนำออกมาเผยแพร่ซ้ำ ส่วนพวกสนับสนุนเปิดฉากด่าทอโดยยึดมุมมองของตัวเองเป็นที่ตั้ง
 
แต่ที่คนมีอำนาจอดรนทนไม่ไหวต่อไปกระทั่งเจ้าตัวคือ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ต้องออกมาไขก๊อกด้วยตัวเองยืนยันว่าไม่มีเจตนาสร้างความแตกแยกและขอยุติบทบาทเพียงเท่านี้

ย้อนบรรยากาศช่วงก่อนหน้าเพียงไม่กี่วัน กระแสต่อต้านจากตำรวจชั้นผู้น้อยปลิวว่อนในโลกโซเชียลฯ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. ออกมา “เตะตัด” ด้วยการบอกไปถึงเพื่อนข้าราชการตำรวจทำนองว่า เฉพาะคุณสมบัติของ “น้องตั๊น” ก็น่าจะมีปัญหาในการเข้าสมัครเป็นรองสารวัตรประจำ กองอำนวยการ กองบังคับการสายตรวจและหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.)

สอดรับกับคำสัมภาษณ์ของ “ผู้การหลวง” พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. ที่ออกมาบอกว่า น.ส.จิตภัสร์ จะไปถอนชื่อภายในวันที่ 21 ก.ย.นี้ เพื่อไม่เป็นการฝืนกระแสสังคมพร้อมกับแสดงความรู้สึกว่าน่าเสียดายเนื่องจากเห็นว่าอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองผู้นี้ มีความรู้ความสามารถโดยเฉพาะเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ

เกมตัดกระแสโดยตำรวจระดับสูงรีบออกมาอย่างทันทีทันควันคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากคลื่นความไม่พอใจ แรงบีบคั้นต่างๆที่ตำรวจได้รับมาตลอดหลังเกิดการเปลี่ยนแปลง กรณีของน.ส.จิตภัสร์ จึงเป็นฟางเส้นสุดท้าย ยากที่จะยอมรับกันอีกต่อไปการต่อต้านในเชิงสัญญาลักษณ์จึงเริ่มจากใช้โบว์ดำผูกตามเสาอากาศวิทยุ และอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้ทำงานและมองเห็นได้ชัด

พล.ต.อ.สมยศ ทราบถึงความรู้สึกของลูกน้องดี รีบโดดออกมาเคลียร์หวังให้สบายใจแต่พอรุ่งขึ้นพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ออกมาแสดงความเห็นกับสื่อ “สวน”ท่าทีของผู้นำตำรวจโดยระบุว่าน.ส.จิตภัสร์ มีสิทธิ์สมัครเข้าเป็นตำรวจได้ พร้อมกับยกกรณีพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ลาออกจากราชการไปสมัครเลือกตั้งผ้ว่าฯกทม. ยังสามารถกลับเข้ามารับราชการตำรวจได้อีกครั้งหนึ่ง
 
แม้จะข้างๆคูๆ ไปไหนมาสามวาสองศอกแต่ดูเหมือนว่าได้ผลกับความรู้สึกอันอ่อนไหวของ ผบ.ตร.ถัดมาอีกวันเดียวพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ออกมาฉะนักข่าว เหมือนแผ่นเสียงตกร่อง “พลิกลิ้น “ตัวเองอย่างหน้าตาเฉยบอกว่าไม่เคยพูดว่า น.ส.จิตภัสร์ ขาดคุณสมบัติ จนสื่อบางสำนักต้องนำคลิปภาพ-เสียงมาเทียบให้เห็นชัดๆ
 
นับเป็นความเลาะเทอะแบบนับไม่ถ้วนของผู้นำสีกากีคนนี้

และนี่เองอาจเป็นผลให้ น.ส.จิตภัสร์ เกิดเปลี่ยนใจไม่ยอมไปถอนสมัครดังที่เจ้าพ่อ 191 ลั่นปากไว้ ยิ่งไปกว่านั้นยังเดินหน้าเข้ารับตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมกับการออกข่าวของหน่วยงานต่างๆ เช่นพล.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ.เปิดแถลงว่า น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร แกนนำ กปปส.เป็นผู้ต้องหากลุ่มผ้ชุมนุมทางการเมือง ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันเป็นกบฎและอื่นๆอีก 8 ข้อหาแต่ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่แล้ว (เดือน มิ.ย.หลังยึดอำนาจ 1 เดือน) หมายจับจึงสิ้นผลตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 68

ส่วนการเคลื่อนไหวของตำรวจพล.ต..ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงสื่อมวลชนว่ากรณีของ น.ส.จิตภัสร์ นั้นเป็นตำแหน่งเปิดใหม่ไม่เคยมีผู้ใดเคยประจำมาก่อน จากนี้ต้องตรวจสอบก่อนว่า บก.สปพ.เปิดตำแหน่งเพื่ออะไร เท่าที่ทราบตำแหน่งนี้เป็นวุฒิที่ต้องการพิเศษเกี่ยวกับผู้ชำนาญทางเทคนิค เป็นตำแหน่งขาดแคลนจึงต้องรับเข้ามา ถือว่าไม่ใช่วุฒิตามปกติเพราะหากเป็นเช่นนั้นต้องมีการสอบเข้าแบบการรับสมัครทั่วไป

แปลไทยเป็นไทยหมายความว่า บก.สปพ. (191) ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กำลังชงเรื่องรับสมัครเป็นกรณีพิเศษโดยเฉพาะใช่หรือไม่ และคำว่า “วุฒิที่ต้องการพิเศษเกี่ยวกับผู้ชำนาญทางเทคนิค”มีความหมายอย่างไร น.ส.จิตภัสร์ เป็นที่ต้องการของ 191 - บช.น. และ สตช.ขนาดนั้นเชียวหรือ

พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิตพราหมกุล ผบช.น.เป็นนายตำรวจอีกผู้หนึ่งที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยระบุว่าความเห็นส่วนตัวคิดว่า “น้องตั๊น”คงลำบากที่จะเข้ามาเป็นตำรวจหญิงเนื่องจากมีคดีติดตัว อย่างไรก็ตมความเห็นของตนไม่เกี่ยวกับคณะกรรมการคัดเลือก เขาอาจจะพิจารณาไปอีกทางก็ได้

ขณะที่พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้ช่วยโฆษก บช.น.ระบุถึงเกณฑ์คุณสมบัติการเข้าเป็น รองสารวัตร ว่า1.ต้องเป็นคนดีมีศีลธรรม 2.เลื่อมใสการปกครองในระบอบประชาธิปไตย 3.ไม่ฝักไฝ่พรรคการเมือง

ทุกความคิดเห็นที่คัดมานำเสนอนั้นก็เพื่อดูลีลาของผู้มีอำนาจเท่านั้นเพราะเรื่องจริงตำรวจส่วนใหญ่ ประชาชน ส่วนมากต่างทราบกันดีว่าเรื่องนี้มันมีความไม่ชอบมาพากลตั้งแต่แรก หากไม่มีผู้ใหญ่เปิดไฟเขียวหรือผู้ใหญ่สั่งคงไม่มีรายการรับสมัครเดี่ยวๆแบบสุดยอดของการสอยดาวทางลัด

มาถึงวันนี้สังคมเชื่อ สังคมรู้อยู่แล้วว่าใครผิดใครถูก แต่ที่ไม่เข้าใจจริงๆก็คือเหตุไรคนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจ อย่าง น.ส.จิตภัสร์ มีกิจการใหญ่โตเป็นของครอบครัว แถมยังรวยล้นฟ้า เรียกว่ามีครบทุกอย่าง แถมยังมีความฝันอยากเป็นนักการเมืองหญิงที่ประสบความสำเร็จ จนว่ากันว่าถ้าวางตัวดีๆการก้าวไปถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนต่อไปก็ไม่ยากเกินเอื้อม
 
ทำไมถึงอยากเข้ามาเป็นตำรวจแค่ระดับ ร.ต.ต. หรือ ร.ต.ท.เท่านั้น

บางคนตั้งข้อสังเกตว่าหรือแอบชอบเครื่องแบบอยากแต่งตัวเท่ห์ๆโพสต์ลงในเฟสบุค อินตราแกรม ว่ากันไปตามกระแสแต่การถูกด่าทอ ต่อต้านจนอาจลุกลามบานปลายแม้กระนั้น “น้องตั๊น”ก็ยังคงเดินหน้าเหมือนไม่แคร์ ไม่ยี่หระต่อเสียงเรียกร้องของบรรดาตำรวจชั้นผู้น้อยที่เคยรู้สึกเจ็บปวดต่อการชุมนุมของ กปปส.ในอดีต แน่นอนว่าอีกกลุ่มที่พลอยผสมโรงไปด้วยก็คือกลุ่มคนเสื้อแดง กลายเป็นประเด็น ตอกย้ำแผลเก่าที่ตกสะเก็ดไปแล้วกลับมาอักเสบเป็นฝีกลางหัวใจกันอีก

ไหนๆก็มากันถึงขนาดนี้ ฝ่ายต้านคือตำรวจชั้นผู้น้อยแสดงจุดยืนให้สังคมและผู้บังคับบัญชาได้รับรู้แล้ว ส่วนภาคประชาชนนอกจากมวลชนคนเสื้อแดงยังอาจมีอีกบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย รวมทั้งยังข้องใจกับความอยาก “สอยดาว”ของสาวนักเคลื่อนไหวการเมืองคนดัง

เพื่อเป็นความสบายใจของทุกฝ่ายแทนที่จะเปิดรับแบบลับๆล่อๆเหมือนจะประเคนดาวให้กันง่ายๆก็ประกาศให้สาวๆ บุคลิกดี มีความรู้ความสามารถเรื่องภาษาอังกฤษมาสมัครให้เป็นเรื่องเป็นราวไปเลย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองจะได้ไม่โดนดูถูก

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร.ที่จวนเกษียณฯ เครดิตความน่าเชื่อถือขาดรุ่งริ่งจนไม่มีชิ้นดีแล้วจะได้หมดทุกข์หมดโศก รวมทั้งคนอื่นๆที่ต้องเข้ามาเกี่ยงดองหนองยุ่งไปด้วย

จริงอยู่ “น้องตั๊น”มีสิทธิ์เข้าสมัครเป็นตำรวจ แต่สิทธิ์ของเธอมันเป็นสิทธิ์พิเศษเกินกว่าลูกตาสี ตาสา ป้ามีลุงแม้นหรือเปล่า ปากท่านก็บอกยุคปฏิรูปไม่มีคอรัปชัน ยุคปรองดอง-สมานฉันท์

 แต่มันผิดทั้งหมดทั้งคอรัปชันอำนาจ เล่นพรรคเล่นพวกน่าเกลียดยิ่งกว่าน่าเกลียด และผลของการไม่แคร์ใคร ไม่มีความเท่าเทียม-เที่ยงธรรม แผลเก่าในใจตำรวจทั้งหลายจึงกำเริบ

อย่าไปพูดถึงเรื่องปรองดองสมานฉันท์ ท่านทำแบบนี้เหมือนอยากให้คนไทยทะเลาะกันไปเรื่อยมากกว่า แถมมีเรื่องกับตำรวจซะด้วย อย่าประมาทหรือดูหมิ่นน้ำใจกันนะ ตำรวจระดับนายพลที่ยืนกุมเป้าดีครับนาย สบายครับท่าน พวกนั้นเขานั่งทำงานในห้องแอร์ วันๆมีแต่สั่งๆๆๆส่วนคนทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อตก็คือชั้นผู้น้อย

แม้วันนี้ไฟในใจตำรวจไทยจะถูกดับไปแล้วก็ตาม แต่ไม่มีอะไรยืนยันว่าตำรวจจำนวนมากจะมีความไว้เนื้อเชื่อใจต้องเจ้านายทั้งหลายได้ต่อไปอีกหรือไม่....พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. ผู้นำสูงสุดกลายเป็นไม้เลื้อย ลู่ไหลไปตามลมจนหมดสภาพ...พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ว่าที่ผบ.ตร.ควรศึกษาดูความเป็นไปของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในห้วงปีที่ผ่านมา ความเละเทะมิได้อยู่เพียงระดับล่างแต่การสนองตัณหาผู้กุมอำนาจในทุกมิติทำให้ “ผู้นำ”สีกากีเป็นเพียงไอ้ตัวตลก ขาดความน่าเชื่อถือจากสังคม

สำคัญที่สุดบทเรียนจากกรณีสาวตั๊น “สอยดาว”น่าจะเป็นบรรทัดฐานให้กับบรรดาผู้มีอำนาจได้สำเนียกว่าต่อไปนี้ไม่มีใครยอมใครอีกต่อไปแล้ว ทุกเรื่อง ทุกพฤติกรรมที่เคยหมิ่นแคลนดูถูกนักการเมืองเลวๆไว้ ตอนนี้ท่านผู้เป็นความหวังของประเทศกลับทำเสียเอง.....
 
รัฐบาล คสช. กปปส. พรรคประชาธิปัตย์ งานนี้ยิ่งกว่าเสียค่าโง่ เพราะ “เข้าเนื้อ” ในเรื่องไม่เป็นเรื่อง เรียกว่าขาดทุนยับเยิน และตำรวจทั่วประเทศคงไม่หลงคารมพวกท่านอีกต่อไปแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น