รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอยุติข่าว “ตั๊น” สมัครตำรวจ บอกกระบวนการจบหลังเจ้าตัวไม่เอาแล้ว ชี้ออกระเบียบเป็นเรื่องภายใน ตนดูแค่นโยบาย ไม่รู้หลานจะไปสมัครทหาร ยันพ่อแม่ไม่ได้ฝาก เผยมีรายชื่อกรรมการร่างรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ยังไม่ชัด โยนนายกฯ เคาะ ยังไม่รู้ “วิษณุ” ทาบ “มีชัย” นั่งประธาน แย้มสมาชิกพรรคเพื่อไทยสมัครเป็น สปท.ด้วย ชี้ไม่มี ม.44 แล้วไร้ขัดแย้งก็ดีแต่ยาก
วันนี้ (24 ก.ย.) ที่สำนักงานนโยบายและแผนพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร แกนนำ กปปส. ออกแถลงข่าวถอนตัวจากการสมัครตำรวจ ว่าขอให้ยุติเพียงเท่านี้ เพราะจริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจและถือว่ากระบวนการในขณะนี้ได้จบลงแล้ว อีกทั้งผลการคัดเลือกยังไม่มีข้อสรุปว่าจะได้เป็นตำรวจหรือไม่ด้วยเพราะอยู่ในกระบวนการรอสอบสัมภาษณ์
เมื่อถามว่าจะออกกฎระเบียบในการกำหนดคุณสมบัติบุคคลที่จะเข้ามาเป็นข้าราชการตำรวจต้องไม่เป็นกลุ่มการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพราะตนมีหน้าที่ในการกำกับนโยบายเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับฝ่ายปฏิบัติ
เมื่อถามว่า หากไม่สมัครเป็นตำรวจแล้วจะไปสมัครเป็นทหารได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของนางสาวจิตภัสร์ ว่าต้องการจะมาสมัครเข้าเป็นทหารหรือไม่ พร้อมระบุว่าส่วนตัวไม่มีความสัมพันธ์เป็นพิเศษกับ น.ส.จิตภัสร์ แต่นับถือกันเป็นลุงหลานเท่านั้น เพราะตนสนิทกับทางพ่อแม่ โดยเฉพาะกับคุณปู่ของ น.ส.จิตภัสร์ และยืนยันว่าทางพ่อแม่ไม่มีใครฝากฝังให้ดูแล น.ส.จิตภัสร์เป็นพิเศษ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการสรรหากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่าขณะนี้มีรายชื่อแล้วแต่ยังไม่ชัดเจนต้องรอให้นายกรัฐมนตรีเป็นคนตัดสินใจ ซึ่งตนจะทราบรายชื่อพร้อมกับประชาชน อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบว่านายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้มีการทาบทามนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ปรึกษากฎหมาย คสช.มานั่งในตำแหน่งประธาน กรธ. แต่เท่าที่ทราบขณะนี้มีรายชื่อของสมาชิกพรรคเพื่อไทยเข้าสมัครเป็นสภาขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปประเทศ (สปท.) อยู่บ้างแต่ไม่ขอเปิดเผยรายรายชื่อดังกล่าว
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มเคลื่อนไหวออกมากดดันให้รัฐบาลยกเลิกการใช้มาตรา 44 ว่า หากไม่มีมาตรา 44 แล้วประเทศเดินหน้าได้ ไม่เกิดความขัดแย้งก็ดี แต่เป็นเรื่องยากที่จะขอความร่วมมือไม่ให้กลุ่มการเมืองออกมาเคลื่อนไหว ซึ่งก็ยืนยันว่ารัฐบาลและ คสช.เดินทางตามโรดแมป และมีแนวทางที่ชัดเจน