ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สำนักงานพัฒนาสังคมฯรุดช่วยเหลือเยียวยาญาติเหยื่อ "ระเบิดราชประสงค์" หลังเสาหลักครอบครัวถูกระเบิดได้รับบาดเจ็บ เผยลูกชายอาศัยอยู่กับยายฐานะยากจนต้องขาดรายได้ เบื้องต้นมอบเงิน 2,000 บาท ก่อนเสนออนุกรรมการระดับจังหวัดเยียวยาเพิ่มอีก
วานนี้ (15 ก.ย.) น.ส.บุญสม แช่มสวัสดิ์ หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากกเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้นายสุภาพ เภากุ่ม อายุ 37 ปี ชาว อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดฝังที่รักแร้ใกล้เส้นเลือดใหญ่ยังไม่สามารถผ่าตัดได้ แก้วหูขวาทะลุ ขณะนี้อาการดีขึ้นแต่ยังต้องรับการรักษาตามแพทย์นัดอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ นายสุภาพ ประกอบอาชีพตัวแทนขายประกันที่บริษัท BUPA มีรายได้เดือนละ 20,000 บาท ครอบครัวนายสุภาพฯ แยกทางกับภรรยามีบุตรชื่อ ด.ช.พีรภัทร เภากุ่ม อายุ 9 ขวบ อยู่ในการดูแลของยายที่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 6 ต.วังหิน อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา อดีตภรรยาแต่งงานใหม่ และมีบุตรกับสามีใหม่ นายสุภาพเป็นผู้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้ทุกเดือน
ปัจจุบันนายสุภาพได้รับการลงทะเบียนกรณีเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างให้การช่วยเหลือ ซึ่งนายสุภาพมีความสนใจผ่อนบ้านกับโครงการบ้านมั่นคงของการเคหะแห่งชาติ และต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือครอบครัวเกี่ยวกับรายได้ครอบครัว การศึกษาบุตร และอื่นๆตามความเหมาะสม
ล่าสุด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครราชสีมา ได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าเยี่ยมบ้านและให้ความช่วยเหลือครอบครัวนายสุภาพ โดยร่วมกับนายอำเภอโนนแดง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 2,000 บาทและผ้าห่ม ขณะที่ ด.ช.พีรภัทร เภากุ่ม กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดบ้านหินตั้ง อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา อาศัยอยู่กับตาและยายคือนางทองใบ สุพรรณนา อายุ 54 ปี สภาพครอบครัวมีฐานะยากจน บ้านชั้นเดียวสภาพทรุดโทรม นายสุภาพจะเป็นผู้ส่งเงินมาให้ครอบครัวไว้ใช้จ่ายเดือนละประมาณ 3,000 บาท แต่ก็ไม่เพียงพอ ยายประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปและปลูกหม่อนมีรายได้ไม่แน่นนอน
น.ส.บุญสมกล่าวต่อว่า ส่วนการให้ความช่วยเหลือ ด.ช.พีรภัทรเพิ่มเติมนั้น ทางสำนักงานฯ ได้เสนอให้พิจารณาช่วยเหลือด้วยการรับเป็นเด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์ตามประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนคุ้มครองเด็ก โดยให้ค่าเลี้ยงดูเด็กจำนวน 1,500 บาท ค่าใช้จ่ายทางการศึกษาสำหรับเด็กระดับประถมศึกษา 1 คนจำนวน 2,000 บาท และค่าเครื่องอุปโภคบริโภคสำรับเด็กจำนวน 1,500 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5,000 บาท
ทั้งนี้จะนำเข้าที่ปรุชมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนคุ้มครองเด็กจังหวัดนครราชสีมา ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน โดยจะประชุมในวันที่ 16 ก.ย.นี้ ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา หากคณะอนุกรรมการฯ อนุมัติก็จะให้การช่วยเหลือต่อไป
วานนี้ (15 ก.ย.) น.ส.บุญสม แช่มสวัสดิ์ หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากกเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้นายสุภาพ เภากุ่ม อายุ 37 ปี ชาว อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดฝังที่รักแร้ใกล้เส้นเลือดใหญ่ยังไม่สามารถผ่าตัดได้ แก้วหูขวาทะลุ ขณะนี้อาการดีขึ้นแต่ยังต้องรับการรักษาตามแพทย์นัดอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ นายสุภาพ ประกอบอาชีพตัวแทนขายประกันที่บริษัท BUPA มีรายได้เดือนละ 20,000 บาท ครอบครัวนายสุภาพฯ แยกทางกับภรรยามีบุตรชื่อ ด.ช.พีรภัทร เภากุ่ม อายุ 9 ขวบ อยู่ในการดูแลของยายที่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 6 ต.วังหิน อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา อดีตภรรยาแต่งงานใหม่ และมีบุตรกับสามีใหม่ นายสุภาพเป็นผู้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้ทุกเดือน
ปัจจุบันนายสุภาพได้รับการลงทะเบียนกรณีเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างให้การช่วยเหลือ ซึ่งนายสุภาพมีความสนใจผ่อนบ้านกับโครงการบ้านมั่นคงของการเคหะแห่งชาติ และต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือครอบครัวเกี่ยวกับรายได้ครอบครัว การศึกษาบุตร และอื่นๆตามความเหมาะสม
ล่าสุด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครราชสีมา ได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าเยี่ยมบ้านและให้ความช่วยเหลือครอบครัวนายสุภาพ โดยร่วมกับนายอำเภอโนนแดง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 2,000 บาทและผ้าห่ม ขณะที่ ด.ช.พีรภัทร เภากุ่ม กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดบ้านหินตั้ง อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา อาศัยอยู่กับตาและยายคือนางทองใบ สุพรรณนา อายุ 54 ปี สภาพครอบครัวมีฐานะยากจน บ้านชั้นเดียวสภาพทรุดโทรม นายสุภาพจะเป็นผู้ส่งเงินมาให้ครอบครัวไว้ใช้จ่ายเดือนละประมาณ 3,000 บาท แต่ก็ไม่เพียงพอ ยายประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปและปลูกหม่อนมีรายได้ไม่แน่นนอน
น.ส.บุญสมกล่าวต่อว่า ส่วนการให้ความช่วยเหลือ ด.ช.พีรภัทรเพิ่มเติมนั้น ทางสำนักงานฯ ได้เสนอให้พิจารณาช่วยเหลือด้วยการรับเป็นเด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์ตามประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนคุ้มครองเด็ก โดยให้ค่าเลี้ยงดูเด็กจำนวน 1,500 บาท ค่าใช้จ่ายทางการศึกษาสำหรับเด็กระดับประถมศึกษา 1 คนจำนวน 2,000 บาท และค่าเครื่องอุปโภคบริโภคสำรับเด็กจำนวน 1,500 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5,000 บาท
ทั้งนี้จะนำเข้าที่ปรุชมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนคุ้มครองเด็กจังหวัดนครราชสีมา ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน โดยจะประชุมในวันที่ 16 ก.ย.นี้ ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา หากคณะอนุกรรมการฯ อนุมัติก็จะให้การช่วยเหลือต่อไป