xs
xsm
sm
md
lg

บทความ

x

จากชาวสะมาเรียผู้เปี่ยมเมตตาสู่เซียนแพทย์หุบเขาผีเสื้อ “โอ้วแชงู้” ผู้เห็นคนตายไม่ช่วย

เผยแพร่:   โดย: อ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์

อาจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
สาขาวิชา Business analytics and intelligence
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
http://as.nida.ac.th/th/


พระคริสตธรรมคัมภีร์ลูกา 29: 37 มีเรื่องเล่าของชาวสะมาเรียผู้เปี่ยมเมตตาช่วยเหลือชีวิตคนที่ถูกโจรปล้นกลางทางอาการปางตายเท่าที่ตัวเองพอมีความสามารถตามมีตามเกิดเอาไว้ดังนี้

29: ชายคนนั้นต้องการจะพูดป้องกันตนเอง จึงทูลพระเยซูเจ้าว่า "แล้วใครเล่าเป็นเพื่อนมนุษย์ของข้าพเจ้า?"
30: พระเยซูเจ้าจึงตรัสต่อไปว่า "ชายคนหนึ่งกำลังเดินทางจากกรุงเยรูซาเล็มไปยังเมืองเยรีโคเขาถูกโจรปล้น พวกโจรได้ปล้นทุกสิ่ง ทุบตีเขาแล้วก็จากไป ทิ้งเขาไว้อาการสาหัสเกือบสิ้นชีวิต
31: สมณะผู้หนึ่งเดินผ่านมาทางนั้นโดยบังเอิญ เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่ง
32: ชาวเลวีคนหนึ่งผ่านมาทางนั้น เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่งเช่นเดียวกัน
33: แต่ชาวสะมาเรียผู้หนึ่งเดินทางผ่านมาใกล้ๆ เห็นเขาก็รู้สึกสงสาร
34: จึงเดินเข้าไปหา เทน้ำมันและเหล้าองุ่นลงบนบาดแผลแล้วพันผ้าให้ นำเขาขึ้นหลังสัตว์ของตนพาไปถึง โรงแรมแห่งหนึ่งและช่วยดูแลเขา
35: วันรุ่งขึ้นเขานำเงินสองเหรียญออกมอบให้เจ้าของโรงแรมไว้กล่าวว่า "ช่วยดูแลเขาด้วย เงินที่ท่านจะจ่าย เกินไปนั้น ฉันจะคืนให้เมื่อกลับมา"
36: ท่านคิดว่าในสามคนนี้ใครเป็นเพื่อนมนุษย์ของคนที่ถูกโจรปล้น?"
37: เขาทูลตอบว่า "คนที่ได้แสดงความเมตตาต่อเขา" พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า "ท่านจงไป และทำเช่น เดียวกันเถิด" พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “ ท่านจงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด”

ชาวสะมาเรียนี่เองที่เป็นที่มาของสำนวน Good Samaritans can do no wrong. หมายความว่าคนที่ช่วยชีวิตด้วยความปรารถนาดีอย่างจริงใจนั้นย่อมไม่ผิด และเรามีหลักกฎหมายสะมาริตันส์ที่ดี (Good Samaritans Law) เพื่อป้องกันผลจากการยืนดูคนตายเฉยๆ โดยไม่ช่วย (Bystander effects) เนื่องจากกลัวเปลืองตัวหรือกลัวได้รับความเสี่ยงที่จะทำให้คนเราเข้าไปช่วยนั้นอาการย่ำแย่ลงเจ็บมากขึ้นหรือตาย เพราะหากเข้าไปช่วยชีวิตแล้ว คนที่เข้าไปช่วยอาจจะตาย และเราก็ได้ทำเต็มที่แล้วแต่ไม่ได้ผล หากถูกลงโทษอย่างหนัก ต่อไปจะมีใครยอมช่วยชีวิตใคร ในเมื่อเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ยังเอากระดูกไปแขวนคอเสียอีก ดังนั้นหลักของกฎหมายการแพทย์เรื่อง Good Samaritans Law จึงมีการใช้กันแพร่หลายในประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ออสเตรเลีย แคนาดา ฟินแลนด์ เยอรมันนี อิสราเอล ไอร์แลนด์ หรือแม้แต่สหรัฐอเมริกา เป็นต้น

สำหรับในประเทศไทย ในภาวะขาดแคลนในถิ่นทุรกันดาร หมอเฉพาะทางมีไม่ครบ เช่น ไม่มีวิสัญญีแพทย์ ไม่มีศัลยแพทย์เฉพาะทาง แต่แพทย์ทั่วๆ ไปสมัยก่อน ก็สามารถผ่าตัดช่วยชีวิตคนไข้ยากไร้ในต่างอำเภอกันมาได้ แต่เมื่อมีประชาชนฟ้องร้องศาลเอาแพทย์เข้าคุก ด้วยคดีอาญา ที่ อำเภอ ร่อนพิบูลย์ เนื่องจากคนไข้เสียชีวิตเพราะอาการแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ ซึ่งก็เกิดได้เป็นปกติไม่ว่าจะผ่าตัดที่ไหนในโลก ทำให้โรงพยาบาลต่างอำเภอเลิกผ่าตัดกันไปหมด และส่ง refer คนไข้เข้าโรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์ ทำให้คิวผ่าตัดยาวเหยียดมาก แม้เคสเล็กๆ ไม่ซับซ้อนก็ส่งมาหมด ผลก็คือทำให้การรอคอยนานมากแม้กระทั่งการคลอดบุตร ก็เลิกผ่ากันในโรงพยาบาลต่างจังหวัด ส่งต่ออย่างเดียว ผลลัพธ์คือเด็กไทยมีอัตราการเสียชีวิต พิการ จากภาวะขาดอากาศหายใจระหว่างคลอด เพราะคลอดช้า คิวยาว หรือ ส่งต่อช้า เกิด Birth Asphyxia ทำให้เด็กสมองพิการ ไปชั่วชีวิต เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ตรีคูณ ส่วนอัตราการเกิดไส้ติ่งทะลุ (Ruptured Appendicitis) เพิ่มเป็นทวีคูณ ตรีคูณ เพราะรอคิวยาวมาก และไปทะลุกลางทางระหว่างส่งบ้างระหว่างรอบ้าง


มีแพทย์โรงพยาบาลชุมชนคนหนึ่งตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงพยายามฟื้นฟูให้มีการผ่าตัดในโรงพยาบาลชุมชนอีกครั้งหลังถูกทิ้งร้างไว้นานแสนนาน เขาได้โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

หมอตู๋ - Dr.Too Hoo
ห้องผ่าตัด (OR) โรงพยาบาลชุมชน ห้องร้างที่ถูกลืม...
หลายๆคน แม้แต่คนในวงการแพทย์ คงลืมบทบาทการผ่าตัด ในโรงพยาบาลชุมชนขนาดเล็กไปแล้ว บางคนไม่รู้แม้กระทั่งว่า ในอดีต รพ.เล็กๆ เคยเปิดห้องผ่าตัดช่วยชีวิตคนมาแล้วนับไม่ถ้วน เคยเป็นที่ฝากผีฝากไข้กับคนที่ยากลำบาก เป็นที่สร้างชีวิตใหม่ให้ใครบางคน
... นับตั้งแต่เกิดคดี ที่ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช คดีแพทย์ผ่าตัดไส้ติ่ง แล้วผู้ป่วยเสียชีวิตจากการให้ยาสลบทางสันหลัง การตัดสินคดีนี้นับเป็นคดีสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์การแพทย์ ที่เป็นจุดแตกหักของแพทย์หลายท่าน โดยเฉพาะโรงพยาบาลชุมชนขนาดเล็ก หลายโรงพยาบาลชุมชน ทยอยกันปิดห้องผ่าตัด ชนิด "ปิดตาย" บางที่เอาไปทำห้องประชุมบ้าง ห้องนวดแผนไทยบ้าง ห้องตรวจบ้าง นับเป็นการปิดฉากซุปเปอร์ฮีโรในอดีต ที่เคยมอบชีวิตใหม่ให้ใครหลายๆคน
ปิดแล้ว ก็ปิดเลยครับ โอกาสจะกลับมาเปิดใช้ใหม่นั้นยากเหลือเกิน
หมอที่ไหนจะอยากเดือดร้อนตัวเอง ปิดไปเลย ไม่ทำผ่าตัด ส่งผู้ป่วยไป รพ.ใหญ่ ผลเสียก็ตกกับชาวบ้านตาดำๆ นี่แหละครับ โดยเฉพาะคนยากคนจนที่เดือดร้อน ต้องลำบากเดินทางไป รพ.ใหญ่
...วันนี้ มีโอกาสที่ดี ได้พลิกฟื้นความรู้สึกบางอย่าง ได้มีโอกาสใช้บริการ ห้องในตำนานแห่งนี้
ห้องผ่าตัด รพ.บ้านเหลื่อม ถูกยกเลิกการใช้มาตั้งแต่ยุคนั้น คาดว่าเกือบ 10 ปีแล้ว ที่ไม่เคยนำมาใช้ผ่าตัดใดๆ แต่โชคดีที่ยังไม่ถึงกับปิดตาย อุปกรณ์ต่างๆ ยังคงใช้ได้ดี คนทำงานก็ยังพอรื้อฟื้น แม้จะตะกุกตะกักไปบ้าง แต่นี่เป็นสัญญาณที่ดีบางอย่าง วำหรับ อำเภอเล็กๆแห่งนี้
...หมอทำเป็น เพียงอย่างเดียว คงไม่อาจได้รื้อฟื้นห้องผ่าตัดขึ้นมาได้
ต้องขอบคุณ ผู้ป่วยและญาติที่ได้มอบความไว้วางใจ
ทีมพยาบาล ใจยังพร้อมสู้ เสมอ แม้จะร้างรามานับปีไม่ถูกแล้ว
หมอ, พยาบาล, คนงาน, คนไข้, ญาติ, ห้อง, อุปกรณ์, ยา ฯลฯ ทุกอย่างมาพร้อมกัน จึงจะมีวันนี้ แม้วันนี้จะเป็นเพียง "การทำหมันหลังคลอด" หัตถการผ่าตัดใหญ่ที่เล็กที่สุด แต่นี่คือจุดเริ่มต้นที่ดี
ผลประโยชน์สุดท้าย รพ.ชุมชน ทำงานเพื่อชุมชน หมอไม่ได้อะไร แต่สังคมต่างหากที่จะได้รับประโยชน์
...ช่วยกันแชร์ หากท่านคิดว่าเป็นสิ่งดี หลายที่พร้อม ขาดเพียงอย่างเดียวคือ "การมอบความไว้วางใจ" จากผู้มีอำนาจเบื้องบน หลายๆหน่วยงาน


ในขณะที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบนเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแพทย์ชนบทได้โพสต์แสดงความเห็นคัดค้านเอาไว้ว่า

จ่าพิชิต ขจัดพาลชน
ทุกวันนี้ถ้าใครไป รพ ชุมชนเล็กๆ เวลาเข้าไปในห้องบางห้อง จะเห็นไฟกลมๆแบบในภาพนี้ติดอยู่บนเพดาน ก็คงสงสัยว่ามันเอาไว้ใช้ทำอะไร อันนี้เป็นมรดกตกทอกมาจากสมัยก่อน ที่หมอในเมืองไทย ยังผ่าตัดที่ รพ ชุมชน อยู่ครับ น่าจะราวๆสิบปีกว่าๆได้แล้วมั้ง สมัยนั้น มีเคสไส้ติ่ง เคสคลอด ทำหมัน ก็ทำกันที่ รพ ชุมชนนั่นล่ะ ไม่ต้องส่งต่อ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ ผ่าไส้ติ่งแล้วมีคนเสียชีวิต เรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล รพ ชุมชนทุกแห่งจึงเลิกผ่าตัดนับแต่นั้นเป็นต้นมา ถ้ามีเคสที่จำเป็นต้องผ่าตัดก็ส่งตัวคนไข้ไป รพ ศูนย์ รพ จังหวัดให้จัดการต่อ
แต่ประมาณปีสองปีที่ผ่านมานี้ มีนโยบายจากกระทรวงสั่งมา ร่ำๆว่าจะให้เปิดห้องผ่าตัดใน รพ ชุมชน ผ่าตัดไส้ติ่ง ผ่าคลอด บลาๆเหมือนในอดีตอีกหน
สมัยเรียนมหาลัย ประเด็นนี้จ่าก็เคยถามอาจารย์เหมือนกันว่า จารย์ครับ ถ้าจบไปอยู่ รพ ชุมชน ควรผ่าที่ รพ มั้ย อาจารย์วิสัญญี (ดมยา) ก็ถามว่า แล้วถ้าเกิดเธอบล๊อคหลังคนไข้แล้วเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เธอรับมือไหวเหรอ ขนาดในมหาลัยเวลาเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น high block จากการบล๊อคหลัง ยังแทบแย่เลยนะ
พอจบออกมา ช่วงใช้ทุน เวลาเข้าเคสศัยกรรมนี่ ไอ้พวกไส้ติ่งเนี่ยอย่าคิดว่าเป็นเรื่องง่ายๆนะครับ ถ้าเป็นเคสไส้ติ่งธรรมดาๆ โอเค อันนี้ไม่ค่อยยาก แต่ถ้าเจอพวกที่ไม่ตรงไปตรงมา เช่น ไส้ติ่งเน่าแตกไปถึงลำไส้ใหญ่ อันนี้ถามจริงๆ ให้หมอทั่วไปผ่าที่ รพช น่ะ ไหวเหรอครับ
ไอ้เคสที่สยดสยองที่สุดนี่เพื่อนจ่าเจอมากับตัวเคสนึง คนไข้มาแบบปวดตำแหน่งไส้ติ่งเลยนะ พอผ่าออกไป เลือดพุ่งออกมาเป็นน้ำพุเลย จนต้องตามหมอศัลย์มาเข้าเคสด่วนสุดๆ สุดท้าย คนไข้เป็นมะเร็งตับแล้วเส้นเลือดแตก เลือดไหลเรื่อยๆลงไปกองตรงตำแหน่งไส้ติ่ง ทำให้มีอาการปวดแบบไส้ติ่ง เจอเคสพวกนี้ ถ้าผ่าที่ รพ ชุมชน พูดได้คำเดียวครับ ฉิบหายแน่นอน
การที่กระทรวงมีนโยบายจะให้กลับมาผ่าที่ รพ ชุมชนอีกครั้ง ผมว่ามันเป็นอะไรที่อันตรายมาก
การจะทำผ่าตัดเพื่อแสดงให้โลกรู้ว่า เฮ้ ชั้นทำได้นะ ชั้นผ่าตัดที่ รพ ชุมชนได้นะ กับทำแล้วคนไข้ปลอดภัยหลังการผ่าตัดมากที่สุด ก็เป็นคนละเรื่องกัน
ยุคนี้แล้ว การคมนาคมเจริญกว่าสิบปีก่อนเยอะ อย่าห้าวผ่าที่ รพ ชุมชนเลยครับ ส่งไปผ่าที่จังหวัดเถอะ คนไข้เป็นอะไรขึ้นมา มันไม่คุ้ม


อันที่จริงที่ จ่าพิชิต พูดก็มีเหตุผลคือตรงตามหลักการแพทย์ที่เรียกว่า First, Do no harm. ประการแรกต้องไม่ทำให้ใครเป็นอันตราย แต่ในหลายกรณีความล่าช้า ไม่ยอมรักษาหรือผ่าตัดในเวลาที่จำเป็นจริงๆ หรือฉุกเฉิน อาจจะทำให้เสียเกิดการเสียชีวิตหรือพิการได้ สังคมไทยเราเรียกร้องสิทธิมากมาย มากจนลืมคำนึงถืงความเป็นจริงว่า ศักยภาพของสังคมนั้นช่วยเหลือเกื้อกูลให้สิทธิคนไทยได้มากน้อยแค่ไหน พรบ คุ้มครองผู้เสียหาย อาจจะเป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ทำให้ คนไทยต้องตายไปอีกมากมาย ทำให้สาธารณสุขไทยยิ่งแย่ลง เพราะทุกคนจะปกป้องตัวเองกันทั้งหมด และจะไม่มีใครคิดช่วยใคร ดังนั้นใครที่มีเงินก็ต้องออกเงินไปโรงพยาบาลเอกชนกันเอาเอง ถ้าไม่อยากตายหรือไม่อยากให้ลูกพิการ

ถ้าพรบ คุ้มครองผู้เสียหาย ฉบับนี้ผ่านสนช มาได้จริง จะเป็นการทำลาย Good Samaritans Law ลงไป เราไม่อยากจะฝ่าฝืนหลัก First, Do no harm ก็จริง แต่เราก็คงจะไม่อยากให้มีคนอย่างเซียนแพทย์หุบเขาผีเสื้อ “โอ้วแชงู้” เจ้าของฉายา ผู้เห็นคนตายไม่ช่วย หากผู้ที่กำลังจะตายต่อหน้าต่อตาไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเม้งก่าเหมือนกับ โอ้วแชงู้ เอง เรื่องเช่นนี้ละเอียดอ่อน และคงต้องคิดกันให้มากๆ เพราะจะส่งผลต่อชีวิตคนไทยอย่างมาก โดยเฉพาะเด็กไทยที่อาจจะสมองพิการ ปัญญาอ่อน จากการคลอดที่ทำให้ขาดออกซิเจนได้
กำลังโหลดความคิดเห็น