ASTVผู้จัดการรายวัน - ธปท.เผยภาคธุรกิจส่วนใหญ่คาดการบริโภคกลับมาฟื้นตัวลากยาวไปถึงปี 59 ลุ้นนโยบายรัฐ การท่องเที่ยวจะดีขึ้นหลังเห็นสัญญาณจองห้องพักล่วงหน้าไปถึงไตรมาส 4 ส่วนการลงทุนขนาดใหญ่หันไปกลุ่ม CLMV และเริ่มเห็นสัญญาณการเก็งกำไรในคอนโดบางจุด ด้านต้นทุนแรงงานภาคบริการมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น แต่บางกลุ่มธุรกิจจะมีการลดการใช้แรงงานชั่วคราว
นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกรายงานแนวโน้มธุรกิจล่าสุดไตรมาส 3 ของปี 58 ซึ่งสำรวจความคิดเห็นภาคธุรกิจ 1,600 รายทั่วประเทศต่อภาวะเศรษฐกิจไทย พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่คาดว่าการบริโภคกลับมาฟื้นตัวได้ปกติในปี 59 จากเดิมมองว่าอาจฟื้นตัวได้ทันภายในปีนี้ เนื่องจากความกังวลเศรษฐกิจโดยรวมและสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจรุนแรงกว่าปกติ และคาดหวังการขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐจะเป็นเครื่องยนต์หลักที่จะนำพาการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป
ทั้งนี้ เหตุผลสำคัญผู้ประกอบการเห็นว่าการฟื้นตัวภาคบริโภคเลื่อนออกไป คือ ขณะนี้ยังไม่มีปัจจัยบวกที่สำคัญ โดยยอดขายสินค้ายังไม่ปรับดีขึ้นชัดเจน ราคาสินค้าเกษตรที่สะท้อนรายได้ภาคเกษตรก็ยังไม่ปรับดีขึ้น ประกอบกับปัจจัยลบมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นภัยแล้งคาดว่ารุนแรงกว่าปกติซ้ำเติมกำลังซื้อเกษตรกร การชะลอตัวส่งออกกระทบกำลังซื้อผู้บริโภคเพิ่มเติม สอดคล้องผลสำรวจความคิดเห็นสถาบันการเงินเห็นว่าความต้องการสินเชื่อเพื่อการบริโภคน้อยลง และอุปสงค์ต่อสินเชื่อที่คาดว่าจะสูงกว่าอุปสงค์ต่อสินเชื่อจริงมากตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ สะท้อนภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด
ผลการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ พบว่า ธุรกิจส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่องตามคำสั่งซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวในไตรมาส 3 นี้และการลงทุนส่วนใหญ่เป็นเพียงปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เพื่อซ่อมแซม ทดแทนเครื่องจักรเดิม อย่างไรก็ตาม สัญญาณการขยายตัวการลงทุนบ้างในบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ พลังงานทดแทน และ Modern trade และมีแนวโน้มผู้ประกอบการบางส่วนอาจจะลงทุนขนาดใหญ่นอกประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม)
ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์บางส่วนเห็นสัญญาณการเก็งกำไรในอาคารชุดบางจุด อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่มองว่าความต้องการของอาคารชุดในกลุ่มตลาดบนยังขยายตัวค่อนข้างดี โดยเฉพาะทำเลตามแนวรถไฟฟ้าของผู้ประกอบการรายใหญ่และความต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบยังคงมีอยู่ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯ คาดว่าราคาที่ดินจะปรับเพิ่มขึ้นตามสัญญาณการฟื้นตัวของภาคก่อสร้าง
“ในบางกลุ่มธุรกิจจะมีการลดการใช้แรงงานชั่วคราวลงบ้างจากอุปสงค์ที่ยังคงอ่อนแอและสายป่านสั้นลงเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีกที่มีการขยายสาขาและธุรกิจบริการท่องเที่ยวยังมีความต้องการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนต้นทุนแรงงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นบ้างในภาคบริการจากปัญหาขาดแคลนแรงงานทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ และความต้องการแรงงานในธุรกิจนี้ที่เพิ่มขึ้น”ในรายงานแนวโน้มธุรกิจระบุ
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังมองว่าภาวะส่งออกตลอดทั้งปี 58 ยังคงซบเซา แต่ธุรกิจส่งออกบางส่วนได้รับผลดีจากเงินบาทอ่อนค่าในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ อาทิ ผู้ส่งออกข้าว ซึ่งสามารถปรับลดราคาสินค้าได้บ้าง ทำให้สามารถแข่งขันด้านราคาสูงขึ้น แต่ธุรกิจอาหารสำเร็จรูปคาดว่าปริมาณคำสั่งซื้อจะเริ่มชัดเจนขึ้นในไตรมาส 3 ขณะที่ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกคาดว่าคำสั่งซื้อจากต่างประเทศน่าจะฟื้นตัวเล็กน้อยจากไตรมาส 2 ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกตัดสิทธิ GSP
ธุรกิจท่องเที่ยวจะปรับตัวดีขึ้นจากแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ซึ่งแรงขับเคลื่อนหลักจากจีนเป็นสำคัญ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในภาคเหนือเห็นสัญญาณการจองห้องพักล่วงหน้าเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มยุโรปที่มีการจองในจังหวัดเชียงใหม่ไปถึงไตรมาส 4 ภาคใต้เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งจากการส่งเสริมท่องเที่ยวและการทำตลาดท่องเที่ยวใหม่ๆ มากขึ้น.
นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกรายงานแนวโน้มธุรกิจล่าสุดไตรมาส 3 ของปี 58 ซึ่งสำรวจความคิดเห็นภาคธุรกิจ 1,600 รายทั่วประเทศต่อภาวะเศรษฐกิจไทย พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่คาดว่าการบริโภคกลับมาฟื้นตัวได้ปกติในปี 59 จากเดิมมองว่าอาจฟื้นตัวได้ทันภายในปีนี้ เนื่องจากความกังวลเศรษฐกิจโดยรวมและสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจรุนแรงกว่าปกติ และคาดหวังการขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐจะเป็นเครื่องยนต์หลักที่จะนำพาการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป
ทั้งนี้ เหตุผลสำคัญผู้ประกอบการเห็นว่าการฟื้นตัวภาคบริโภคเลื่อนออกไป คือ ขณะนี้ยังไม่มีปัจจัยบวกที่สำคัญ โดยยอดขายสินค้ายังไม่ปรับดีขึ้นชัดเจน ราคาสินค้าเกษตรที่สะท้อนรายได้ภาคเกษตรก็ยังไม่ปรับดีขึ้น ประกอบกับปัจจัยลบมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นภัยแล้งคาดว่ารุนแรงกว่าปกติซ้ำเติมกำลังซื้อเกษตรกร การชะลอตัวส่งออกกระทบกำลังซื้อผู้บริโภคเพิ่มเติม สอดคล้องผลสำรวจความคิดเห็นสถาบันการเงินเห็นว่าความต้องการสินเชื่อเพื่อการบริโภคน้อยลง และอุปสงค์ต่อสินเชื่อที่คาดว่าจะสูงกว่าอุปสงค์ต่อสินเชื่อจริงมากตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ สะท้อนภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด
ผลการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ พบว่า ธุรกิจส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่องตามคำสั่งซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวในไตรมาส 3 นี้และการลงทุนส่วนใหญ่เป็นเพียงปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เพื่อซ่อมแซม ทดแทนเครื่องจักรเดิม อย่างไรก็ตาม สัญญาณการขยายตัวการลงทุนบ้างในบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ พลังงานทดแทน และ Modern trade และมีแนวโน้มผู้ประกอบการบางส่วนอาจจะลงทุนขนาดใหญ่นอกประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม)
ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์บางส่วนเห็นสัญญาณการเก็งกำไรในอาคารชุดบางจุด อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่มองว่าความต้องการของอาคารชุดในกลุ่มตลาดบนยังขยายตัวค่อนข้างดี โดยเฉพาะทำเลตามแนวรถไฟฟ้าของผู้ประกอบการรายใหญ่และความต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบยังคงมีอยู่ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯ คาดว่าราคาที่ดินจะปรับเพิ่มขึ้นตามสัญญาณการฟื้นตัวของภาคก่อสร้าง
“ในบางกลุ่มธุรกิจจะมีการลดการใช้แรงงานชั่วคราวลงบ้างจากอุปสงค์ที่ยังคงอ่อนแอและสายป่านสั้นลงเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีกที่มีการขยายสาขาและธุรกิจบริการท่องเที่ยวยังมีความต้องการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนต้นทุนแรงงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นบ้างในภาคบริการจากปัญหาขาดแคลนแรงงานทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ และความต้องการแรงงานในธุรกิจนี้ที่เพิ่มขึ้น”ในรายงานแนวโน้มธุรกิจระบุ
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังมองว่าภาวะส่งออกตลอดทั้งปี 58 ยังคงซบเซา แต่ธุรกิจส่งออกบางส่วนได้รับผลดีจากเงินบาทอ่อนค่าในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ อาทิ ผู้ส่งออกข้าว ซึ่งสามารถปรับลดราคาสินค้าได้บ้าง ทำให้สามารถแข่งขันด้านราคาสูงขึ้น แต่ธุรกิจอาหารสำเร็จรูปคาดว่าปริมาณคำสั่งซื้อจะเริ่มชัดเจนขึ้นในไตรมาส 3 ขณะที่ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกคาดว่าคำสั่งซื้อจากต่างประเทศน่าจะฟื้นตัวเล็กน้อยจากไตรมาส 2 ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกตัดสิทธิ GSP
ธุรกิจท่องเที่ยวจะปรับตัวดีขึ้นจากแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ซึ่งแรงขับเคลื่อนหลักจากจีนเป็นสำคัญ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในภาคเหนือเห็นสัญญาณการจองห้องพักล่วงหน้าเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มยุโรปที่มีการจองในจังหวัดเชียงใหม่ไปถึงไตรมาส 4 ภาคใต้เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งจากการส่งเสริมท่องเที่ยวและการทำตลาดท่องเที่ยวใหม่ๆ มากขึ้น.
