วานนี้ (22ก.ค.) นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สลค.) ร่วมแถลงข่าว วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี 2558 พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ แก่บุคคลและองค์กรที่ดำเนินการดีเด่นด้านป้องกันควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 39 รางวัล
นายยงยุทธ กล่าวว่า ครม.ได้กำหนดให้วันเข้าพรรษาของทุกปี เป็นวันงดดื่มสุราชาติ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 31 ก.ค. 58 จึงเชิญชวนประชาชนงดดื่มสุราตลอดเทศกาลเข้าพรรษาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเข้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.มอบคำขัวญวันงดสุราฯในปีนี้ว่า “พัฒนาเยาวชนและทรัพยากรมนุษย์ต้องหยุดเป็นทาสสุรา” เพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักและร่วมมือกันปกป้องอนาคตของชาติ ไม่ให้ถูกมอมเมาด้วยสิ่งเสพติดโดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่หาซื้อได้ง่าย
รองนายกฯ กล่าวด้วยว่า จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 57 พบว่าเยาวชนไทยอายุ 19-24 ปี ประมาณ 6 ล้านคน ดื่มแอลกอฮอล์1.5 ล้านคน ในภาพรวมพบว่าประชาชนมีค่าใช้จ่ายในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 41.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 56 ร้อยละ 2.1
ด้าน นพ.รัชตะ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข เชิญชวนประชาชนทั่วประเทศ ร่วมลงนามปฏิญาณตนงดดื่มสุรา ทำความดีถวายในหลวง ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล วัดทุกแห่ง หรือที่ www.thaiantialcohol.com ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ได้ตั้งเป้าหมายควบคุมจำนวนเยาวชนไม่ให้เป็นนักดื่มหน้าใหม่ โดยออกเป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัศมี 300 เมตร รอบสถานศึกษาระดับอุดมศึกษา และอาชีวศึกษาทั่วประเทศ เ พื่อลดการเข้าถึงแอลกอฮอล์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ลงนามและจะมีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 30 วัน และได้ประสานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยให้กำหนดเรื่องนี้เป็นนโยบายในสถานศึกษาทุกแห่ง ให้สร้างจิตสำนึก และสร้างค่านิยมการไม่ดื่มเพื่อเป็นค่านิยมกับนักศึกษาต่อไป
อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังมีสถิติการดื่มสุราที่สูงมากโดยเฉพาะกับเยาวชนซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลมีความกังวล ดังนั้นจึงต้องวางเป้าหมายไว้ว่าจะลดลงซึ่งจะต้องใช้หลายกลยุทธ์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นทางกฎหมาย การปลูกฝังจิตสำนึกโดยต้องทำควบคู่กันไป
นายยงยุทธ กล่าวว่า ครม.ได้กำหนดให้วันเข้าพรรษาของทุกปี เป็นวันงดดื่มสุราชาติ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 31 ก.ค. 58 จึงเชิญชวนประชาชนงดดื่มสุราตลอดเทศกาลเข้าพรรษาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเข้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.มอบคำขัวญวันงดสุราฯในปีนี้ว่า “พัฒนาเยาวชนและทรัพยากรมนุษย์ต้องหยุดเป็นทาสสุรา” เพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักและร่วมมือกันปกป้องอนาคตของชาติ ไม่ให้ถูกมอมเมาด้วยสิ่งเสพติดโดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่หาซื้อได้ง่าย
รองนายกฯ กล่าวด้วยว่า จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 57 พบว่าเยาวชนไทยอายุ 19-24 ปี ประมาณ 6 ล้านคน ดื่มแอลกอฮอล์1.5 ล้านคน ในภาพรวมพบว่าประชาชนมีค่าใช้จ่ายในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 41.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 56 ร้อยละ 2.1
ด้าน นพ.รัชตะ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข เชิญชวนประชาชนทั่วประเทศ ร่วมลงนามปฏิญาณตนงดดื่มสุรา ทำความดีถวายในหลวง ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล วัดทุกแห่ง หรือที่ www.thaiantialcohol.com ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ได้ตั้งเป้าหมายควบคุมจำนวนเยาวชนไม่ให้เป็นนักดื่มหน้าใหม่ โดยออกเป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัศมี 300 เมตร รอบสถานศึกษาระดับอุดมศึกษา และอาชีวศึกษาทั่วประเทศ เ พื่อลดการเข้าถึงแอลกอฮอล์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ลงนามและจะมีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 30 วัน และได้ประสานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยให้กำหนดเรื่องนี้เป็นนโยบายในสถานศึกษาทุกแห่ง ให้สร้างจิตสำนึก และสร้างค่านิยมการไม่ดื่มเพื่อเป็นค่านิยมกับนักศึกษาต่อไป
อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังมีสถิติการดื่มสุราที่สูงมากโดยเฉพาะกับเยาวชนซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลมีความกังวล ดังนั้นจึงต้องวางเป้าหมายไว้ว่าจะลดลงซึ่งจะต้องใช้หลายกลยุทธ์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นทางกฎหมาย การปลูกฝังจิตสำนึกโดยต้องทำควบคู่กันไป