นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมแถลงข่าวกิจกรรมรณรงค์วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี 2558 โดยนายยงยุทธ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้วันเข้าพรรษาของทุกปี เป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม จึงเชิญชวนประชาชนงดดื่มสุราตลอดเทศกาลเข้าพรรษา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบคำขวัญวันงดดื่มสุราแห่งชาติปีนี้ว่า "พัฒนาเยาวชนและทรัพยากรมนุษย์ต้องหยุดเป็นทาสสุรา" เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักและร่วมมือกันปกป้องอนาคตของชาติไม่ให้ถูกมอมเมาด้วยสิ่งเสพติด โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสิ่งเสพติดหาซื้อง่าย
นายยงยุทธ เปิดเผยว่า จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติประจำปี 2557 พบว่า เยาวชนไทยอายุระหว่าง 19-24 ปี มีประมาณ 6 ล้านคน ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1.5 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 25 และในจำนวนนี้กว่าร้อยละ 54 จะเป็นผู้ดื่มหนักจนเมาเป็นประจำ
ขณะที่นายแพทย์รัชตะ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งเป้าหมายในการควบคุมจำนวนเยาวชนไม่ให้กลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่ โดยผลักดันการออกกฏหมายควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัศมี 300 เมตรรอบสถานศึกษา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ลงนาม เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และจะมีผลบังคับใช้หลังประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา 30 วัน รวมถึงประสานที่ประชุมอธิการบดี ให้กำหนดเรื่องนี้เป็นนโยบายในสถานศึกษาทุกแห่ง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนในการไม่ดื่มให้เกิดเป็นค่านิยมใหม่ให้กับนักเรียนนักศึกษา
ทั้งนี้ ภายหลังการแถลงข่าว ได้มีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่บุคคลและองค์กร ที่ดำเนินการดีเด่นด้านการป้องกันและควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ จำนวน 39 รางวัลด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบคำขวัญวันงดดื่มสุราแห่งชาติปีนี้ว่า "พัฒนาเยาวชนและทรัพยากรมนุษย์ต้องหยุดเป็นทาสสุรา" เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักและร่วมมือกันปกป้องอนาคตของชาติไม่ให้ถูกมอมเมาด้วยสิ่งเสพติด โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสิ่งเสพติดหาซื้อง่าย
นายยงยุทธ เปิดเผยว่า จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติประจำปี 2557 พบว่า เยาวชนไทยอายุระหว่าง 19-24 ปี มีประมาณ 6 ล้านคน ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1.5 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 25 และในจำนวนนี้กว่าร้อยละ 54 จะเป็นผู้ดื่มหนักจนเมาเป็นประจำ
ขณะที่นายแพทย์รัชตะ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งเป้าหมายในการควบคุมจำนวนเยาวชนไม่ให้กลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่ โดยผลักดันการออกกฏหมายควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัศมี 300 เมตรรอบสถานศึกษา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ลงนาม เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และจะมีผลบังคับใช้หลังประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา 30 วัน รวมถึงประสานที่ประชุมอธิการบดี ให้กำหนดเรื่องนี้เป็นนโยบายในสถานศึกษาทุกแห่ง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนในการไม่ดื่มให้เกิดเป็นค่านิยมใหม่ให้กับนักเรียนนักศึกษา
ทั้งนี้ ภายหลังการแถลงข่าว ได้มีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่บุคคลและองค์กร ที่ดำเนินการดีเด่นด้านการป้องกันและควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ จำนวน 39 รางวัลด้วย
