นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง แถลงว่า กกต. มีมติจะเสนอความเห็นเกี่ยวกับการให้อำนาจในการสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือใบแดง กลับมาอยู่ในอำนาจของ กกต. ไปยังกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 5 ประเด็น ดังนี้
1. ก่อนถึงวันเลือกตั้ง ถ้าพบผู้สมัครคนใดทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ขอให้กกต. มีอำนาจแจกใบแดงให้ผู้สมัครที่ทุจริตออกจากสนาม โดยให้ กกต.เสนอขอความเห็นชอบไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการจัดเลือกตั้งใหม่
2. ภายหลังจากการลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว แต่อยู่ในช่วงก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง ถ้าพบการทุจริตเลือกตั้ง แต่ไม่เชื่อมโยงถึงผู้สมัครขอให้กกต. มีอำนาจให้ใบเหลือง หรือสั่งเลือกตั้งใหม่ ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนด
3. กรณีที่ให้ใบเหลืองแก่ผู้สมัครไปแล้ว แต่ยังพบว่ามีการทุจริตโดยกลุ่มเดิม แม้ไม่เชื่อมโยงกับผู้สมัคร ขอให้กกต.มีอำนาจให้ใบเหลืองเป็นใบที่สอง ซึ่งจะเท่ากับเป็น ใบส้ม เพื่อให้บุคคลนั้นไม่มีสิทธิลงสมัครเลือกตั้งในครั้งนั้น
4. ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง ถ้าพบว่ามีการทุจริตและเชื่อมโยงไปยังผู้สมัครขอให้ กกต.มีอำนาจแจกใบแดง เพื่อตัดสิทธิผู้สมัครเป็นเวลา 1 ปี
5. ภายหลังการประกาศผลการเลือกตั้ง แล้วพบทุจริตการเลือกตั้งจะเชื่อมโยงหรือไม่เชื่อมโยงกับผู้สมัคร ก็ขอส่งเรื่องไปที่ศาลอุทธรณ์หากศาลฯ ยืนตามมติ กกต. ถ้าเป็นใบเหลือง ก็ให้จัดเลือกตั้งใหม่ ถ้าเป็นใบแดง ก็ให้ตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต
ทั้งนี้ ถ้ากกต. มีอำนาจให้ใบเหลืองเพียงอย่างเดียว จากสถิติการเลือกตั้ง 10 ปีที่ผ่านมา กกต.ให้ใบเหลืองไปแล้ว 82 ใบ แต่พบว่าผู้สมัครกลับมาได้ถึง 78 คน คิดเป็นร้อยละ 95 ที่กลับมาได้เกือบทั้งหมด จึงเห็นว่าการให้อำนาจ กกต.ให้แค่ใบเหลือง ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาทางการเมือง แม้เลือกตั้งก็จะกลับมาได้ ส่งผลเสียต่อ กกต. ประชาชน และรัฐบาลที่ต้องเสียงบประมาณในการจัดเลือกตั้ง แต่นักการเมืองไม่ได้เสียเงินในส่วนนี้
อย่างไรก็ตาม กกต.เห็นด้วยที่จะให้ศาลพิจารณาโทษตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต เพราะศาลมีความรอบคอบ อีกทั้งการให้ใบแดง ของกกต. และศาลมีความแตกต่างกัน โดยจะส่ง 5 ประเด็นดังกล่าวให้ กมธ.ยกร่างฯ ภายในวันที่ 14 ก.ค.
"วันนี้กมธ.ยกร่างฯเปรียบเสมือนคนขับเรือ ซึ่งไม่ใช่เรือของแป๊ะ แต่เป็นเรือของประชาชน ที่จะนำประเทศไปสู่ประชาธิปไตย จึงขอให้ขับเรือให้ดี ข้อเสนอของ กกต.ไม่ได้ขอให้มีอำนาจเพิ่ม แต่อยากให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ และเที่ยงธรรม อย่ามาพูดว่าข้อเสนอนี้ไม่ได้เป็นไปตามหลักสากล เพราะที่กำลังพูดถึงคือ ลักษณะของการเมืองไทย เมื่อเราไปรับฟังจากประเทศที่เจริญแล้ว เขาไม่รู้จักการทุจริตการเลือกตั้ง ซื้อสิทธิเลือกตั้ง แต่ประเทศเรามีมายาวนาน" นายสมชัย กล่าว
ผู้สื่อรายงานว่า นอกจากข้อเสนอเรื่องอำนาจการให้ใบแดงแล้ว กกต. ยังจะเสนอเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าของ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน ที่ขอให้อำนาจ กกต. สามารถเรียกเอกสารหลักฐาน เรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำ ตลอดจนขอให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน อีกกรณีหนึ่ง คือ เรื่องการสรรหากกต. ที่ร่างรัฐธรรมนูญห้ามไม่ให้สรรหาจากผู้พิพากษา หรือตุลาการนั้น เห็นว่าจะทำให้เกิดปัญหา เพราะการทำหน้าที่ของกกต. ที่ต้องมีการสืบสวนสอบสวน และวินิจฉัยชี้ขาด กรณีที่มีการคัดค้านการเลือกตั้ง ต้องอาศศัยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในอรรถคดี
ส่วนวาระการดำรงตำแหน่งของ กกต. ที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดว่า หากมี กกต.คนใดลาออกแล้วคนที่มาแทนที่ จะมีวาระเทียบเท่ากับกกต. ที่ออกจากตำแหน่งไปนั้น เห็นว่าอาจส่งผลให้คนที่เข้ามาแทนมีระยะเวลาทำงานน้อยเกินไป และอาจทำให้บุคคลที่มีความสามารถ ไม่สมัครใจเข้ามารับการสรรหาแทน
1. ก่อนถึงวันเลือกตั้ง ถ้าพบผู้สมัครคนใดทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ขอให้กกต. มีอำนาจแจกใบแดงให้ผู้สมัครที่ทุจริตออกจากสนาม โดยให้ กกต.เสนอขอความเห็นชอบไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการจัดเลือกตั้งใหม่
2. ภายหลังจากการลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว แต่อยู่ในช่วงก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง ถ้าพบการทุจริตเลือกตั้ง แต่ไม่เชื่อมโยงถึงผู้สมัครขอให้กกต. มีอำนาจให้ใบเหลือง หรือสั่งเลือกตั้งใหม่ ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนด
3. กรณีที่ให้ใบเหลืองแก่ผู้สมัครไปแล้ว แต่ยังพบว่ามีการทุจริตโดยกลุ่มเดิม แม้ไม่เชื่อมโยงกับผู้สมัคร ขอให้กกต.มีอำนาจให้ใบเหลืองเป็นใบที่สอง ซึ่งจะเท่ากับเป็น ใบส้ม เพื่อให้บุคคลนั้นไม่มีสิทธิลงสมัครเลือกตั้งในครั้งนั้น
4. ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง ถ้าพบว่ามีการทุจริตและเชื่อมโยงไปยังผู้สมัครขอให้ กกต.มีอำนาจแจกใบแดง เพื่อตัดสิทธิผู้สมัครเป็นเวลา 1 ปี
5. ภายหลังการประกาศผลการเลือกตั้ง แล้วพบทุจริตการเลือกตั้งจะเชื่อมโยงหรือไม่เชื่อมโยงกับผู้สมัคร ก็ขอส่งเรื่องไปที่ศาลอุทธรณ์หากศาลฯ ยืนตามมติ กกต. ถ้าเป็นใบเหลือง ก็ให้จัดเลือกตั้งใหม่ ถ้าเป็นใบแดง ก็ให้ตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต
ทั้งนี้ ถ้ากกต. มีอำนาจให้ใบเหลืองเพียงอย่างเดียว จากสถิติการเลือกตั้ง 10 ปีที่ผ่านมา กกต.ให้ใบเหลืองไปแล้ว 82 ใบ แต่พบว่าผู้สมัครกลับมาได้ถึง 78 คน คิดเป็นร้อยละ 95 ที่กลับมาได้เกือบทั้งหมด จึงเห็นว่าการให้อำนาจ กกต.ให้แค่ใบเหลือง ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาทางการเมือง แม้เลือกตั้งก็จะกลับมาได้ ส่งผลเสียต่อ กกต. ประชาชน และรัฐบาลที่ต้องเสียงบประมาณในการจัดเลือกตั้ง แต่นักการเมืองไม่ได้เสียเงินในส่วนนี้
อย่างไรก็ตาม กกต.เห็นด้วยที่จะให้ศาลพิจารณาโทษตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต เพราะศาลมีความรอบคอบ อีกทั้งการให้ใบแดง ของกกต. และศาลมีความแตกต่างกัน โดยจะส่ง 5 ประเด็นดังกล่าวให้ กมธ.ยกร่างฯ ภายในวันที่ 14 ก.ค.
"วันนี้กมธ.ยกร่างฯเปรียบเสมือนคนขับเรือ ซึ่งไม่ใช่เรือของแป๊ะ แต่เป็นเรือของประชาชน ที่จะนำประเทศไปสู่ประชาธิปไตย จึงขอให้ขับเรือให้ดี ข้อเสนอของ กกต.ไม่ได้ขอให้มีอำนาจเพิ่ม แต่อยากให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ และเที่ยงธรรม อย่ามาพูดว่าข้อเสนอนี้ไม่ได้เป็นไปตามหลักสากล เพราะที่กำลังพูดถึงคือ ลักษณะของการเมืองไทย เมื่อเราไปรับฟังจากประเทศที่เจริญแล้ว เขาไม่รู้จักการทุจริตการเลือกตั้ง ซื้อสิทธิเลือกตั้ง แต่ประเทศเรามีมายาวนาน" นายสมชัย กล่าว
ผู้สื่อรายงานว่า นอกจากข้อเสนอเรื่องอำนาจการให้ใบแดงแล้ว กกต. ยังจะเสนอเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าของ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน ที่ขอให้อำนาจ กกต. สามารถเรียกเอกสารหลักฐาน เรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำ ตลอดจนขอให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน อีกกรณีหนึ่ง คือ เรื่องการสรรหากกต. ที่ร่างรัฐธรรมนูญห้ามไม่ให้สรรหาจากผู้พิพากษา หรือตุลาการนั้น เห็นว่าจะทำให้เกิดปัญหา เพราะการทำหน้าที่ของกกต. ที่ต้องมีการสืบสวนสอบสวน และวินิจฉัยชี้ขาด กรณีที่มีการคัดค้านการเลือกตั้ง ต้องอาศศัยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในอรรถคดี
ส่วนวาระการดำรงตำแหน่งของ กกต. ที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดว่า หากมี กกต.คนใดลาออกแล้วคนที่มาแทนที่ จะมีวาระเทียบเท่ากับกกต. ที่ออกจากตำแหน่งไปนั้น เห็นว่าอาจส่งผลให้คนที่เข้ามาแทนมีระยะเวลาทำงานน้อยเกินไป และอาจทำให้บุคคลที่มีความสามารถ ไม่สมัครใจเข้ามารับการสรรหาแทน