“สมชัย” แถลงมติ กกต.เสนอ กมธ.ยกร่างฯ 5 ประเด็น ขออำนาจแจกใบแดงกลับมา พร้อมแจกได้ก่อนวันเลือกตั้งถ้าพบผิด, มีสิทธิแจกใบเหลืองหรือสั่งโหวตใหม่หากพบทุจริตแต่ไม่เชื่อมโยงผู้สมัคร, ถ้าหัวคะแนนชุดเดิมยังโกงอีกให้แจกใบส้มตัดสิทธิผู้สมัครในงวดนั้น, ใครได้ใบแดงก่อนประกาศผลจะถูกแบน 1 ปี และหากหลังประกาศสืบพบโกงให้ส่งมติ กกต.ไปยังศาลอุทธรณ์ ถ้าศาลยืนตาม ถูกโทษใบเหลืองเจอเลือกใหม่ แต่ถ้าแดงก็แบนตลอดชีวิต พร้อมชงขออำนาจเรียกหลักฐาน-พยานสอบสวน และการสรรหากรรมการ
วันนี้ (14 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง แถลงว่า กกต.มีมติจะเสนอความเห็นเกี่ยวกับการให้อำนาจในการสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือใบแดง กลับมาอยู่ในอำนาจของ กกต.ไปยังกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 5 ประเด็น ดังนี้ 1. ก่อนถึงวันเลือกตั้ง หากพบผู้สมัครคนใดทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ขอให้ กกต.มีอำนาจแจกใบแดงให้ผู้สมัครที่ทุจริตออกจากสนาม โดยให้ กกต.เสนอขอความเห็นชอบไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการจัดเลือกตั้งใหม่ 2. ภายหลังจากการลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว แต่อยู่ในช่วงก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง หากพบการทุจริตเลือกตั้ง แต่ไม่เชื่อมโยงถึงผู้สมัคร ขอให้ กกต.มีอำนาจให้ใบเหลือง หรือสั่งเลือกตั้งใหม่ ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนด 3. กรณีที่ให้ใบเหลืองแก่ผู้สมัครไปแล้ว 2 ซึ่งจะเท่ากับเป็นใบส้ม เพื่อให้บุคคลนั้นไม่มีสิทธิลงสมัครเลือกตั้งในครั้งนั้น 4. ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง หากพบว่ามีการทุจริตและเชื่อมโยงไปยังผู้สมัคร ขอให้ กกต.มีอำนาจแจกใบแดง เพื่อตัดสิทธิผู้สมัครเป็นเวลา 1 ปี และ 5. ภายหลังการประกาศผลการเลือกตั้งแล้วพบทุจริตการเลือกตั้ง จะเชื่อมโยงหรือไม่เชื่อมโยงกับผู้สมัคร ก็ขอส่งเรื่องไปที่ศาลอุทธรณ์ หากศาลฯ ยืนตามมติ กกต. ถ้าเป็นใบเหลืองก็ให้จัดเลือกตั้งใหม่ ถ้าเป็นใบแดงก็ให้ตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต
นายสมชัยกล่าวว่า ทั้งนี้ หากว่า กกต.มีอำนาจให้ใบเหลืองเพียงอย่างเดียวนั้น จากสถิติการเลือกตั้ง 10 ปีที่ผ่านมา กกต.ให้ใบเหลืองไปแล้ว 82 ใบ แต่พบว่าผู้สมัครกลับมาได้ถึง 78 คน คิดเป็นร้อยละ 95 ที่กลับมาได้เกือบทั้งหมด จึงเห็นว่าการให้อำนาจ กกต.ให้แค่ใบเหลืองไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาทางการเมือง แม้เลือกตั้งก็จะกลับมาได้ ส่งผลเสียต่อ กกต.ประชาชนและรัฐบาลที่ต้องเสียงบประมาณในการจัดเลือกตั้ง แต่นักการเมืองไม่ได้เสียเงินในส่วนนี้ อย่างไรก็ตาม กกต.เห็นด้วยที่จะให้ศาลพิจารณาโทษตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต เพราะศาลมีความรอบคอบ อีกทั้งการให้ใบแดงของ กกต.และศาลมีความแตกต่างกัน โดยจะส่ง 5 ประเด็นดังกล่าวให้ กมธ.ยกร่างฯ ภายในวันที่ 14 ก.ค.
“วันนี้ กมธ.ยกร่างฯ เปรียบเสมือนคนขับเรือ ซึ่งไม่ใช่เรือของแป๊ะ แต่เป็นเรือของประชาชนที่จะนำประเทศไปสู่ประชาธิปไตย จึงขอให้ขับเรือให้ดี ข้อเสนอของ กกต.ไม่ได้ขอให้มีอำนาจเพิ่ม แต่อยากให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์และเที่ยงธรรม อย่ามาพูดว่าข้อเสนอนี้ไม่ได้เป็นไปตามหลักสากล เพราะที่กำลังพูดถึงคือลักษณะของการเมืองไทย เมื่อเราไปรับฟังจากประเทศที่เจริญแล้วเขาไม่รู้จักการทุจริตการเลือกตั้ง ซื้อสิทธิเลือกตั้ง แต่ประเทศเรามีมายาวนาน” นายสมชัยกล่าว
ผู้สื่อรายงานว่า นอกจากข้อเสนอเรื่องอำนาจการให้ใบแดงแล้ว กกต.ยังจะเสนอเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน ที่ขอให้อำนาจ กกต.สามารถเรียกเอกสารหลักฐาน เรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำ ตลอดจนขอให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน อีกกรณีหนึ่งคือเรื่องการสรรหา กกต.ที่ร่างรัฐธรรมนูญ ห้ามไม่ให้สรรหาจากผู้พิพากษาหรือตุลาการนั้น เห็นว่าจะทำให้เกิดปัญหาเพราะการทำหน้าที่ของ กกต.ที่ต้องมีการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยชี้ขาด กรณีที่มีการคัดค้านการเลือกตั้ง ต้องอาศศัยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในอรรถคดี ส่วนวาระการดำรงตำแหน่งของ กกต.ที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดว่าหากมี กกต.คนใดลาออกแล้วคนที่มาแทนที่จะมีวาระเทียบเท่ากับ กกต.ที่ออกจากตำแหน่งไปนั้นเห็นว่าอาจส่งผลให้คนที่เข้ามาแทนมีระยะเวลาทำงานน้อยเกินไปและอาจทำให้บุคคลที่มีความสามารถสมัครใจเข้ามารับการสรรหาแทน