xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เบื้องหลัง“บิ๊กปู”แก้เผ็ด เด็ด“อดุลย์”จอมไอเดีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ช่วงเดือนพฤษภาฯ ข้ามมิถุนาฯ แวดวงตำรวจมีเรื่องราวน่าติดตามมากมาย เรื่องแรกก็คือ การเสนอถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนต่างๆ เรียบร้อยหมดแล้ว เหลือเพียงต่อมความกล้าของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำงานเสียก่อนจึงจะมีความคืบหน้า ก็ต้องคอยดูกันต่อไปว่า ท่านจะแถไปทางไหนอีก เพราะเวลาเหลืออีกไม่มากนัก เห็นว่าบ่อนกาสิโนเพื่อนบ้านให้ราคา 100 บาท เอาขี้หมากองเดียว “สมเยส”(แปลว่า ใช่แล้วครับ ) คงเลือกให้มันคาอยู่อย่างนี้จนเกษียณอายุราชการ อย่างแน่นอน

เรื่องต่อมาที่ท่าน ผบ.ตร. ทุ่มทุนสร้างจนหมดตัวก็คือ ออกมาผลักดันบ่อนการพนันเสรี

ปรากฏว่ากระแสไม่ตอบรับ แถมยังเข้าเนื้อรัฐบาลจน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องออกมาดีดปาก ไม่ทราบว่าท่าน ผบ.ตร. จะยังคงเดินหน้าสั่งให้กระพรวนหน้าเหี่ยว เปิดเว็บ “สมยศ บาย กาสิโน” ต่อไปอีกหรือไม่ และก่อนจบชีวิตราชการ ท่านจะออกมาตั้งโต๊ะแถลงตามที่คุยไว้หรือเปล่า

ไหนๆ ก็พูดกันมาเยอะ เฉพาะในเครือข่าย ASTVผู้จัดการ เห็นทั้งข่าวการเมือง ข่าวอาชญากรรม รวมไปถึงนักวิจารณ์ ต่างพากันออกมาสรรเสริญ “บิ๊กอ๊อด”อย่างทั่วถึง คอลัมน์ “สังเวียนตำรวจ”ของเติมอีกนิด เป็นการปิดท้ายชั่วคราว....บทเรียนที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ควรจดจำก็คือ อย่าประมาทความคิด ความรู้สึกของผู้คนในสังคม อย่าไปมองว่าถ้าเขาไม่เอากับเรา ถ้าเขาไม่เห็นด้วย จะต้องรับจ้างคนนั้น คนนี้ มาเขย่าท่านเพราะสังคมไทยหลากหลาย อาจจะมี”อีแอบ”ฉวยโอกาสถล่มท่านบ้าง แต่กลุ่มที่เขาค้านจริงๆไม่เชื่อ “หนังหน้า”พวกท่าน รวมทั้งบ่อนพนันเสรี จะมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย ท่าน ผบ.ตร. ต้องเคารพความนึกคิดของเขา ไม่ใช่หยิบไปดูหมิ่น เลยเถิดขนาดใส่ร้าย ป้ายสี

ที่โชว์แผนที่ เปิดลายแทงบ่อน 75 แห่งล้อมรอบประเทศนั้น ถือว่าเป็นวิธีที่ดี และถูกต้องที่สุด เชื่อว่าหลายคนคงไม่ทราบ อย่างน้อยก็กระตุกความคิดฝ่ายสนับสนุนได้บ้างว่า อะไรกำลังเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจไทย 

ส่วนวิธีอื่นๆ ที่ยืมกระบอกเสียงของตัวเอง และถือโอกาสเอาตำแหน่งหน้าที่ของตัวเองมาเป็นกระบอกเสียงให้กับกลุ่มบ่อนถูกกฎหมาย ในฐานะวิญญูชนคงไม่ต้องอธิบายถึงความเหมาะสม ยังไม่รวมกริยา คำพูด บอกพวกเอ็นจีโอ.ไม่ใช่พ่อบ้าง ยก 2 ศาสนา มาเทียบเคียงกันบ้าง การพูดเอามันของท่านมันเสียหายต่อตัวท่าน และองค์กรอย่างยับเยิน

แก๊งเชียร์บ่อนเสรี ถูกน็อกยก 1 ปุ๊บ ก็มีข่าว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น. โดนตำรวจญี่ปุ่นจับคาสนามบินนาริตะ ขณะเดินทางกลับพร้อมอาวุธปืนพกขนาด .22 แม็กนั่ม กระสุนอีก 5 นัด

เท่าที่ติดตามรายละเอียด มีความเชื่อส่วนตัวว่านายตำรวจคนดังหลงลืมจริง เพราะคงไม่มีไอ้โง่คนไหนแอบเอาอาวุธปืนสิ่งต้องห้ามเด็ดขาดขึ้นเครื่องบินติดตัวไปต่างประเทศ รายละเอียดต่างๆ ท่านที่ติดตาม ASTVผู้จัดการ คงทราบถึงกึ๋นกันแล้วว่า เพราะอะไร ทำไมประเทศไทยจึงฉาวโฉ่เป็นแชมป์เรื่องเน่าระดับโลก อยู่บ่อยครั้ง 

แต่ไม่ว่า “บิ๊กแจ๊ด”จะเผอเรอ ไม่ตั้งใจหรือไรก็ตาม กฎหมายญี่ปุ่นเขาก็มีมาตรฐาน และอธิปไตยของเขา ปัญหาทางคดีมิใช่แค่พบปืนแต่มันมีกระสุนบรรจุพร้อมใช้งาน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะเข้าคุกก็ตรงนี้ 3 ปี 5 ปี ขึ้นอยู่กับแนวทางต่อสู้คดี แต่ยังไงเชื่อว่า ต้องคุกแน่ๆ

ชะตากรรมของนายตำรวจคนดังเป็นเรื่องปกติ แม้จะมีเพื่อนพ้องน้องพี่ มีฐานการมืองในอดีตสนับสนุน แต่ไม่มีอะไรในกอไผ่ เพราะสุดวิสัยสุดปัญญาจะหาทางออกให้ ว่าไปแล้วระหว่างรับโทษแค่บินไปเยี่ยมกัน ก็ขอทำให้ได้เถอะ

แต่ที่รับไม่ได้จริงๆ ก็คือระบบอภิสิทธิ์ชนของสังคมไทย ที่ทีมข่าวอาชญากรรม ASTVผู้จัดการ ตีแผ่ออกมานั่นแหละ ตกลงว่าที่ ICAO หรือ องค์การบินพลเรือนระหว่างประเทศ เขาให้ใบแดงประเทศไทย โดยระบุว่า ระบบการทำงาน และการจัดการของกรมการบินของไทยที่ดูแลเกี่ยวกับการให้บริการทั้งหมด ระบบยังไม่เป็นสากลนั้น แก่นของมันจริงๆ ก็คือ“ระบบอภิสิทธิ์ชน”อย่างนั้นหรือ

ขออย่าปล่อยเหตุการณ์นี้ผ่านไป สิ่งที่รัฐบาลทหารติดขัด และหาคำตอบดีๆ แก่ประชาชนไม่ได้ยังมีอีกหลายเรื่อง ทั้งการปฏิรูปตำรวจ การถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อลูกมาเข้าขาแบบนี้ ท่านยังไม่ทำอะไรก็ขอให้มั่นใจว่า ความเชื่อถือจะต้องเหือดหายไปจากประชาชนอย่างแน่นอน

ตบท้ายด้วยข่าวเล็กๆ ชิ้นหนึ่ง เมื่อ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีคำสั่ง 227/2558 ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2558 เรื่องแก้ไขกำหนดลักษณะงาน และการมอบหมายอำนาจหน้าที่รับผิดชอบให้รอง ผบช.น. และผู้บังคับการ ประจำกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยระบุว่า ให้แก้คำสั่ง บช.น.ที่ 623/2557 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2557 ข้อ 2.10.3 (งานอำนวยการจัดการวางแผนควบคุมกำกับดูแลบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับการจราจร และงานอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการจราจร งานเกี่ยวกับการอนุญาต และดำเนินการอื่นใดตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการจราจรในอำนาจของผู้บังคับการตำรวจจราจร ) และ ข้อ 2.10.9 (งานพิจารณาปัญหากฎหมาย และพิจารณาเสนอแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศและคำสั่งที่เกี่ยวกับงานในหน้าที่ ) โดยให้เป็นหน้าที่ของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้พิจารณาสั่งการโดยตรง และให้ผู้บังคับการตำรวจจราจร ประมวลเรื่อง ความพร้อม ความเห็น เสนอรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ควบคุมกำกับดูแลงานจราจร เพื่อนำเรียนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้พิจารณาสั่งการต่อไป 

ข่าวเล็กๆที่ว่านี้ ฮือฮาในแวดวงตำรวจอยู่พอสมควร แปลไทยเป็นไทยก็คือ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ซึ่งเคยได้รับมอบหมายให้ดูแลงานจราจร ต่อไปนี้ไม่สามารถออกกฎ หรือประกาศต่างๆได้อีกต่อไป นอกจากคอยประสานเรื่องอำนวยการจราจร หรือ ที่นักข่าวนครบาลบอกว่า น.1 มอบหมายให้ออกมาโบกรถเพียงอย่างเดียว

ย้อนหลังผลงานของ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. คนดัง คงไม่ลืมโครงการต่างๆ ที่ถูกกระแสต่อต้านอย่างมากมายจากประชาชนที่ใช้รถ ใช้ถนนในกรุงเทพมหานคร เช่น ห้ามรถยนต์อายุเกิน 7-10 ปี เข้ามาวิ่งในพื้นที่ กทม. หากนำมาใช้ต้องเสียภาษีเทียบเท่ารถใหม่อันเป็นแนวคิดมาจากประเทศญี่ปุ่น เมื่อถูกนำเสนอปรากฏว่า มีเสียงก่นด่าจากชาวบ้านอย่างอื้ออึง จนต้องถอยทัพไป

อีกโครงการ ที่รับก้อนหินไปเต็มๆ ก็คือ “สินบนใบสั่ง” เพื่อแก้เผ็ดบรรดาประชาชนที่รู้เห็นเป็นใจกับตำรวจจราจร โดยให้เงินส่วนน้อยเป็นค่าปรับผี แต่บางรายแอบถ่ายคลิปนำไปเปิดโปง ทำให้องค์กรตำรวจเสียหาย

นโยบายเกลือจิ้มเกลือ โดยให้สินบนนำจับ จำนวน 10,000 บาท แก่สายตรวจจราจร อีกทั้งดำเนินคดีอาญาแก่ประชาชนผู้ให้สินบนเจ้าพนักงานนั้น กลายเป็นข้อถกเถียง ผู้เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ลุกลามบานปลายใก้ลเคียงกับกรณีเปิดบ่อนเสรี

ฝ่ายไม่เอาด้วยไม่ใช่คนไกลที่ไหน แต่เป็น น.1 ในฐานะผู้บังคับบัญชาของ รองฯอดุลย์ แต่อีกด้านหนึ่งคือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กลับมองตรงข้าม และหนุนโครงการสินบนนำจับส่วยจราจรอย่างเต็มที่ แม้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ จะแย้งว่า มีงบประมาณเพื่อการนี้เพียง 1 แสนบาท หรือจับได้ 10 รายเท่านั้น แต่ ผบ.ตร. ก็ยังคงสนันสนุนให้เดินหน้าต่อไป โดยรับปากว่า จะจัดหางบประมาณให้ แต่ที่สุดปฏิบัติการเกลือจิ้มเกลือ ด้วยมาตรการสุดโต่งนี้ มีเสียงสะท้อนในเชิงลบมากกว่า ปรากฏการณ์ที่เป็นข่าวฮือฮานี้ จึงค่อยเงียบหายไป

นั่นคือ ผลงานของ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. นายตำรวจที่สังคมยกฉายาจอมไอเดียให้

แต่เมื่อพลิกดูประวัติความเป็นมา ต้องถือว่าเป็นนายตำรวจที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับขั้วอำนาจเก่าเป็นอย่างยิ่ง จะด้วยพื้นเพเป็นคนเชียงใหม่ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จนเข้าเป็นสมาชิก“เชียงใหม่คอนเน็กชั่น” หากไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองป่านนี้คงได้เห็นเป็นผู้บัญชาการฯ ที่ใดที่หนึ่ง

การตัดสินใจของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ในครั้งนี้ แม้ทุกฝ่ายจะยืนยันไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่ต้องไม่ลืมว่า การมอบหมายอำนาจหน้าที่ และดึงกลับคืนแบบที่ปรากฏอยู่นี้ แทบไม่เคยเกิดขึ้นในวงการตำรวจ เว้นแต่ว่ามีเหตุต้องแตกหักกันไปข้าง ซึ่งบุคลิก และวิธีคิดของ “บิ๊กปู” ยัง“ยืนพื้น”วนอยู่ในสังเวียนนักสู้มาโดยตลอด
 
ด้วยเหตุผลทางการเมือง และความขัดข้องทางใจ งานจราจรของ พล.ต.ต.อดุลย์ จึงเหลือเพียงโบกรถ หมดสิทธิ์ขายไอเดียในยุคนี้อีกต่อไป ส่วนพล.ต.ท.ศรีวราห์ ไม่ทราบว่าท่านจะรู้หรือไม่ว่า ตำรวจนครบาลส่วนใหญ่สนับสนุนให้ท่านเจริญก้าวหน้า พ้นๆไปจากนครบบาลเสียที รวมถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เจ้าของวลี “ใหญ่แค่ไหนยุคผมต้องจับ” หากทำโพลสำรวจตำรวจด้วยกันเอง คงมีคะแนนอยากให้ท่านเกษียณฯ วันเกษียณฯคืน เพราะท่านได้สร้างคุณงามความดี มีคุณูปการกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างที่สุด อย่างไม่เคยพบพานจาก ผบ.ตร. ท่านใดมาก่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น