ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -งึกๆ งักๆ มาสักพัก ที่สุดรัฐบาล“บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ตัดสินใจจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมระหว่างปี 2556-2557
หลังก่อนหน้านี้หวาดระแวงว่า ไม่กล้าจ่าย กลัวจะเป็นการไม่ดูตาม้าตาเรือ จนไปเดินซ้ำรอยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จ่ายเงินเยียวยากลุ่มคนเสื้อแดงรวมกันเป็นพันๆ ล้านบาท จนอนุกรรมการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เงื้อดาบ แจ้งข้อกล่าวหากันไปกราวรูด ยกคณะรัฐมนตรี 34 คน ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากันอยู่
แต่น่าตกใจไม่น้อย เพราะจำนวนเงินที่รัฐบาลประยุทธ์ กับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จ่ายให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมต่างกันลิบลับ สมัยรัฐบาลที่แล้ว ผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่ตาย ยิ่งลักษณ์ควักเงินหลวงไปให้มโหฬาร รายละ 7.5 ล้านบาท แต่มาสมัยนี้ ผู้ชุมนุมที่ตายให้แค่หัวละ 4 แสนบาท งานนี้ “เนติบริกร” วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานวางหลักเกณฑ์ ชี้แจงว่า เป็นเพราะยึดตามหลักกฎหมาย 4 ฉบับ คือ พ.ร.บ. ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 พ.ร.บ.สงเคราะห์ผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 พ.ร.บ.สงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ. 2543 พร้อมกับหลักเกณฑ์การเยียวยาเหยื่อภาคใต้
ซึ่งกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่รัฐบาลชุดนี้เอามาเป็นยันต์กันผีไม่ให้มีใครไปฟ้องร้องในภายหลัง ล้วนอ้างอิงมาจากข้อกล่าวหาที่ อนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาครม.ยิ่งลักษณ์ ว่า ไม่มีกฎหมายใดรองรับเลย จ่ายเกินจริง หรือแม้แต่กฎเกณฑ์ที่เยียวยาเหยื่อใต้ เรียกว่า ป.ป.ช. จวกครม.ยิ่งลักษณ์ ว่าไม่ได้ทำอะไร รัฐบาลชุดนี้เอามาใส่ประทับตราหมดเกลี้ยง เพราะถือว่าทำตามคำแนะนำ ป.ป.ช.
กระนั้น เรื่องตัวบทกฎหมายคงไม่น่าหนักใจเท่าไหร่ แต่ประเด็นเรื่องความรู้สึกของผู้ชุมนุม กปปส. รัฐบาลจะเคลียร์อย่างไร เพราะจำนวน 4 แสนบาท ถือว่าน้อยมากๆ หากเทียบกับรัฐบาลชุดก่อน หรือหากจะน้อยกว่าครั้งที่แล้ว ก็น่าจะให้แบบสมน้ำสมเนื้อ ไม่ต้องได้เท่ากันเพราะมันผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่ควรจะน่าเกลียดเกินไปแบบนี้ มันทำให้เกิดความรู้สึกไม่น้อย จับตาดูแกนนำ กปปส.ได้เลย โวยวายแน่นอน
โดยเฉพาะจะต้องมีการเปรียบเปรยว่า ม็อบกปปส. ถือเป็นม็อบที่ออกมาขับไล่รัฐบาลทรราช บาดเจ็บล้มตายไปจำนวนไม่น้อย เป็นคนโค่นยิ่งลักษณ์ และลิ่วล้อระบอบทักษิณให้หล่นร่วงจากอำนาจแท้ๆ แต่กลับได้รับการดูแลที่พิลึกชอบกล เตรียมได้เห็นคิวคนกันเองจวกเละเทะ หากไม่ปรับเปลี่ยนให้ดูดีกว่านี้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเคาะหลักเกณฑ์เยียวยาโดยยึดกฎหมายนู่น กฎหมายนี้ เต็มพรืดไปหมด เพื่อไม่ให้โดนตลบหลังเที่ยวนี้ มีผลทางตรงกับกรณีที่อนุกรรมการไต่สวนป.ป.ช. เพิ่งแจ้งข้อกล่าวหา ครม.ยิ่งลักษณ์ รวม 34 คน หรือ “ครม.ปู 2”ที่นั่งอยู่ห้องประชุมวันมีมติดังกล่าวไปก่อนหน้านี้แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมันเปรียบเสมือนการถางทางให้ ป.ป.ช. เอามีดมาสับคอลิ่วล้อนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เหล่านี้ได้แบบสะดวกโยธิน ไม่ต้องมาพะวงว่า รัฐบาลจะทำผิดซ้ำกัน เพราะออกหลักเกณฑ์กันคนละอย่างแล้ว
หนำซ้ำยังเป็นการตอกลิ่มว่า ที่ครม.ยิ่งลักษณ์แจกจ่ายไปก่อนหน้านี้มันผิดมหันต์ มโนตัวเลขกันมาเยียวยาพวกตัวเอง ถึงตรงนี้ ทางโล่ง ป.ป.ช. ประเคนอีโต้เฉาะกบาลยิ่งลักษณ์ และอดีตเสนาบดีรวม 34 คน ที่ร่วมลงมติในวันนั้นได้เลย ไม่ต้องห่วงหน้าห่วงหลัง
แง้มดูรายชื่อทั้ง 34 คน กรณีถ้าโดน ป.ป.ช.ฟัน จะเขย่าพรรคเพื่อไทยได้ไม่น้อย เพราะต้องสูญเสียแกนนำคนสำคัญไปเพียบ พวกที่คิดว่าจะเอามาเป็นนอมินีไว้เล่นในเลือกตั้งงวดหน้าสูญพันธุ์ไปเยอะ ทั้ง “เป็ดเหลิม”ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กิตติรัตน์ ณ ระนอง นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ยงยุทธ วิชัยดิษฐ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ปลอดประสพ สุรัสวดี ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ วรวัจน์ เอื้ออภิญญูกุล หรือแม้แต่ ยิ่งลักษณ์ ที่ตายแล้วตายอีกด้วย
เกมนี้ถ้าฝ่ายกุมอำนาจในปัจจุบันนึกคึก อยากจะล้างบางขึ้นมา เข่งนี้ป.ป.ช. ล่อทีเดียวกำจัดพวกแถวสอง แถวสาม ได้เป็นโขยง ดังนั้น จะเก็บไว้เป็นลูกไก่ในกำมือ กดพวกนี้ไว้ไม่ให้เที่ยว ทำเปรี้ยวยังได้ โดยเฉพาะในช่วงที่นักโทษชายทักษิณ เริ่มจะขยับออกมาฮึดฮัดกับ“รัฐบาลบิ๊กตู่”
กรณีนี้ ในแง่กฎหมายเอง มัดทั้งหน้ามัดทั้งหลัง โดยเฉพาะการเทียบเคียงกับกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ เคยวินิจฉัยให้ ยิ่งลักษณ์ และครม.พ้นสภาพอันเนื่องมาจากการมีมติโยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปตบยุงที่ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการโดยมิชอบ ซึ่งทุกคนที่อยู่ในที่ประชุมวันที่ครม.มีมติ คอขาดกันหมด เพราะมติครม. ถือเป็นเรื่องที่ ครม.ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน จะไปเอาผิดคนใดคนหนึ่งให้รับผิดชอบมันก็ดูไม่แฟร์ เพราะมันไม่ใช่เรื่องโกง หรือไม่โกง แต่เมื่อต้นธารอย่างมติครม.ไม่ชอบเสียแล้ว ครม.นั่นแหละต้องตายตกไปตามกัน คือโดนทั้งหมด เรียกว่า ทั้งในแง่กฎหมาย และความเป็นไปได้ คดีนี้น่าจะมีจุดจบไม่สวยแน่
คดีนี้ ถ้าป.ป.ช.ปล่อยลอยนวล ไม่เอาผิด ก็จะเกิดผลในทางอ้อมเช่นเดียวกันว่า“รัฐบาลบิ๊กตู่”ปฏิบัติหน้าที่สองมาตรฐาน เพราะการที่ป.ป.ช.ไม่สับคอ ครม. 34 คน เท่ากับว่า เป็นการล้างมลทินให้การจ่ายเงินครั้งนั้นชอบธรรม ที่เบิกงบกันไปเป็นพันๆ ล้านบาท เพื่อเยียวยาพวกเดียวกันเองนั้น ชอบโดยกฎหมาย ก็ต้องเกิดคำถามตามมาอีกว่า แล้ว กปปส. ที่ได้ไปศพละ 4 แสนบาท จะต้องได้เพิ่มเติม เพื่อให้ได้เท่ากันกับกลุ่มคนเสื้อแดงหรือเปล่า อีนุงตุงนังเข้าไปอีก
เรื่องนี้คนที่รับเงินอย่างคนเสื้อแดงนั้นไม่ผิด ให้ไปแล้วก็ให้ไปเลย เพราะไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แต่ต้นทางอย่างครม. ที่ร่วมหอลงโรงกันเคาะหลักเกณฑ์ดังกล่าวต้องรับผิดชอบสถานเดียว ที่ผ่านมาเที่ยวไปอ้างว่า เอาหลักเกณฑ์มาจาก คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) มาติ๊ต่างอ้างอิง ทั้งที่เจ้าของอย่าง คณิต ณ นคร ประธานใหญ่ ออกมาสวนยกใหญ่ว่าไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย
ถ้าคิดจะล้างบางทรราชกังฉิน ช็อตนี้ช็อตสำคัญ จะมาวิน-วิน หยวนๆกัน ปล่อยผี “รัฐบาลบิ๊กตู่”นั่นแหละที่จะแย่เสียเอง จะโดน กปปส. ด่าเอา เยียวยาเขาน้อยทั้งที่ล้มหายตายจากเพื่อไล่รัฐบาลเผด็จการรัฐสภา แล้วยังมีหน้าไปปล่อยคนโกงลอยชายหน้าตาเฉย โดนด่าจนตลาดวายยังไม่เลิกแน่
