xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯกล่อม-สนช.เอาด้วย งบ59วงเงิน2.72ล้านล้านฉลุย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน-"ประยุทธ์" ร่ายยาว 2 ชม.กว่า แจงงบปี 59 วงเงิน 2.72 ล้านล้านบาท ต่อ สนช. ย้ำวิสัยทัศน์ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ประเมินเศรษฐกิจปีหน้าฟื้น จีพีดีพุ่ง 3.7-4.7% หลังแนวโน้มเศรษฐกิจโลกดีขึ้น ระบุงบเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.45 แสนล้านบาท เป็นงบลงทุนถึง 5.43 แสนล้าน กระทรวงศึกษาฯ ยังครองแชมป์ กวาด 5.2 แสนล้าน มหาดไทย 3.4 แสนล้าน เทกว่า 2 แสนล้านลงแผนป้องกันประเทศ เตรียมงบเกือบ 500 ล้านสร้างความปรองดองด้วย เผยที่ประชุม สนช.อภิปรายอวยตลอดวัน ก่อนลงมติ 186 เสียงรับหลักการ พร้อมตั้ง 50 กมธ.ตรวจงบ ช่วงท้าย “พรเพชร” ขอที่ประชุมปรบมือเป็นเกียรติแก่นายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (21 พ.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2559 วงเงิน 2.72 ล้านล้านบาท ในวาระที่ 1 เพื่อรับหลักการ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เดินทางมาร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง

พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชี้แจงหลักการและเหตุผลในการจัดทำงบประมาณตอนหนึ่งว่า การจัดทำงบประมาณ มีเป้าหมายหลักเพื่อให้ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่งอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ประเทศไทย พ.ศ.2558-2563 โดยในปีงบประมาณ 2559 ตั้งงบประมาณรายจ่ายไว้ไม่เกิน 2.72 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้สุทธิ 2.33 ล้านล้านบาท ขณะที่งบขาดดุลประเมินไว้ที่ 3.9 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 เพิ่มขึ้นจากงบประมาณปี 2558 จำนวน 1.45 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 โดยวงเงินงบประมาณดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20.4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี)

** คาด GDP ปี 59 พุ่ง 3.7-4.7%

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ได้รายงานถึงภาวะเศรษฐกิจทั่วไป ฐานะและนโยบายการเงินการคลังของประเทศว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2559 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราร้อยละ 3.7-4.7 ใกล้เคียงกับการขยายตัวในปี 2558 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มการปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจโลก ซึ่งคาดว่าจะทำให้การส่งออกสามารถกลับมาขยายตัวได้มากขึ้น ในขณะที่ราคาสินค้าส่งออกและราคาสินค้าเกษตรสำคัญมีแนวโน้มจะมีเสถียรภาพและเริ่มปรับราคาสูงขึ้น รวมทั้งการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ มีแนวโน้มที่จะขยายตัวในเกณฑ์สูงต่อเนื่อง ตามกรอบการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น และการดำเนินโครงการลงทุนที่สำคัญของภาครัฐมีความคืบหน้าและชัดเจนตามลำดับ รวมทั้งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ

อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2559 ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ประกอบด้วย แนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของตลาดการเงินสหรัฐฯ และตลาดการเงินโลก การปรับตัวของผู้ผลิตน้ำมันสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศโอเปกที่อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเร็วกว่าการคาดการณ์ รวมทั้งการใช้นโยบายขยายปริมาณเงินในประเทศ ยังเป็นปัจจัยกดดันด้านค่าเงินและเป็นข้อจำกัดต่อการขยายตัวภาคส่งออก

สำหรับเสถียรภาพในปี 2559 คาดว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์ต่ำร้อยละ 1.1-2.1 แต่ปรับตัวจากปี 2558 ตามแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลก

** ร่ายยาว 2.15 ชม.-พูดรัวจนโดนเบรก

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 มีการจัดสรรเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จึงได้เพิ่มสัดส่วนงบลงทุนคิดเป็นร้อยละ 20 ของวงเงินงบประมาณ โดยรายจ่ายลงทุนของประเทศมีจำนวน 5.43 แสนล้านบาทเศษ ถือว่าสูงกว่าของปีงบประมาณที่ผ่านมา รวมทั้งใช้ 8 ยุทธศาสตร์ในการจัดสรรงบประมาณ โดยทุกกระทรวง ทบวง กรม จะต้องทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ ต้องเปิดเผย และโปร่งใส โดยหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิก สนช. และหากใครมีอะไรสงสัยก็พร้อมที่จะตอบ ที่ผ่านมา 1 ปีนั้น เป็นแค่หนังตัวอย่าง ส่วนหนังจริงนั้นจะเริ่มหลังจากนี้

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ใช้เวลาชี้แจงเป็นเวลา 2 ชั่วโมง 15 นาที โดยตลอดการชี้แจง พล.อ.ประยุทธ์ได้อ่านเอกสารประกอบด้วยความรวดเร็ว ประกอบกับเอกสารต่างๆ มีตัวเลขเป็นจำนวนมาก จนมีผู้ส่งโน้ตแจ้งให้ทราบว่า ประชาชนขอให้พูดช้าลง เนื่องจากฟังไม่ทัน ขณะที่บางช่วง พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับแสดงอาการเหนื่อยและถอนหายใจอยู่หลายครั้ง

โดยพล.อ.ประยุทธ์ยังพูดขึ้นช่วงหนึ่งในระหว่างการชี้แจงด้วยว่า ขอพักเหนื่อยหน่อยนะ หายใจไม่ทัน รวมทั้งอยากขออนุญาตนั่งและดื่มน้ำก่อนด้วย นอกจากนี้ยังได้กล่าวขอโทษสมาชิก สนช.อีกว่า ต้องขอโทษพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ด้วย ที่บางครั้งตนอาจจะพูดไม่สุภาพไปบ้าง
จากนั้นได้เปิดโอกาสให้ที่ประชุม สนช.อภิปรายตลอดทั้งวัน โดยสมาชิกเกือบทั้งหมดเห็นด้วยกับยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณของรัฐบาล

** พ้อไม่ภูมิใจเป็น นายกฯแบบไม่ถูกต้อง

หลังจากสมาชิกอภิปรายเสร็จสิ้น รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงได้ชี้แจงในประเด็นต่างๆ จากนั้น เวลา 18.25 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณสมาชิกที่ให้ความสนใจการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ อยากให้ช่วยกันสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ หากใครมีข้อสงสัย ติติง หรือต้องการปรับลดส่วนไหนก็ให้ไปแปรญัตติชั้นกรรมาธิการ โดยวันนี้การทำงานอยู่ในโรดแม็ประยะที่ 2 วันนี้ทำได้แค่นี้ถือว่าเก่งแล้วสำหรับรัฐบาล อย่ามาติติงตนมากนัก ทุกคนลืมว่าสถานการณ์ก่อนวันที่ 22 พ.ค.57 เกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่มีเหตุการณ์นั้น ตนคงไม่มาเสียงดังแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีเสียงด่า เสียงชม ตนไม่เคยปลื้ม เพราะยังทำงานไม่เสร็จ และไม่ได้ภูมิใจที่มายืนตรงนี้ เพราะตนมาไม่ถูกต้อง แต่ทำด้วยความจำเป็น

“แค่พี่ๆเข้าใจรัฐบาลผม ผมก็ภูมิใจแบบเงียบๆ ผมมาตรงนี้ไม่สามารถแสดงความภูมิใจได้ เพราะผมมาแบบไม่ถูกต้อง วันนี้ผมก็ปฏิรูปไปได้แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ อีก 90 เปอร์เซ็นต์ ให้เป็นหน้าที่รัฐบาลหน้า” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

** สนช.ปรบมือกระหึ่มห้องประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรี ชี้แจงร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ได้พูดถึงการวางแผนผังเมืองของ 77 จังหวัดในประเทศไทย พร้อมกับทำกฎหมายได้ 19 ฉบับ มากกว่ารัฐบาลอื่นๆที่ผ่านมา เมื่อถึงจังหวะนี้นายกฯ ได้ถามสมาชิกสนช.ว่า “เก่งมั้ยล่ะ ถ้าเก่งก็ปรบมือหน่อย” ทำให้สมาชิกทั้งห้องประชุมปรบมือกันอย่างพร้อมเพรียง

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ขึ้นมาตรวจสอบการพิจารณางบประมาณ ให้รอบคอบ เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติ และได้กล่าวขอบคุณสมาชิก สนช. พร้อมทั้งยกมือไหว้ขอบคุณสมาชิก

ต่อมาที่ประชุม สนช.ได้รับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2559 ด้วยมติเห็นชอบ 186 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 50 คน แบ่งเป็นสัดส่วน ครม. 10 คน สนช. 40 คน โดยแปรญัตติ 15 วัน และดำเนินการพิจารณาวาระแรกภายใน 90 วัน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม นายพรเพชร กล่าวว่า ในนาม สนช. ขอให้สมาชิกปรบมือเพื่อเป็นเกียรติ และแสดงความขอบคุณนายกฯ ซึ่งทำให้สมาชิกในห้องต่างปรบมือกันดังกึกก้อง ก่อนสั่งปิดการประชุมในเวลา 19.15 น.

** ศธ.ยึดแชมป์กวาดงบ 5.2 แสนล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 วงเงิน 2.72 ล้านล้านบาทนั้น ได้จัดสรรงบประมาณให้กับกระทรวงศึกษาธิการมากที่สุด จำนวนกว่า 5.2 แสนล้านบาท กระทรวงมหาดไทย จำนวน 3.4 แสนล้านบาท กระทรวงกลาโหม 2.07 แสนล้านบาท กระทรวงการคลัง 1.9 แสนล้านบาท และกองทุนและเงินหมุนเวียน 1.4 แสนล้านบาทตามลำดับ

ขณะที่ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณที่น่าสนใจ ได้แก่ แผนงานเสริมสร้างระบบป้องกันประเทศ 2.03 แสนล้านบาทเศษ แผนงานรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ 1.8 หมื่นล้านบาทเศษ แผนงานพัฒนาระบบประกันสุขภาพ 2.78 แสนล้านบาทเศษ แผนงานจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ 1.09 พันล้านบาท แผนงานส่งเสริมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1.51 แสนล้านบาทเศษ แผนงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 8.1 หมื่นล้านบาทเศษ การเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 6 พันล้านบาทเศษ แผนงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ 1.44 แสนล้านบาทเศษ การบูรณาการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 6.4 พันล้านบาทเศษ การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 หมื่นล้านบาทเศษ และการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ งบประมาณ 467 ล้านบาทเศษ เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น