xs
xsm
sm
md
lg

ครม.เผยงบ 59 ขาดดุล 3.9 แสนล้าน - มหาดไทยสั่ง อปท. รีดภาษีที่ดินอุดรูรั่ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ครม. เคาะ 2.72 ล้านล้าน กรอบงบปี 59 ขาดดุล 3.9 แสนล้าน ศึกษาธิการครองแชมป์งบมากสุด 5.2 แสนล้าน มหาดไทยขันนอต อปท. รีดภาษีที่ดิน คาดอุดรูรั่วได้หมื่นล้าน

วันนี้ (28 เม.ย.) นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติกรอบงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2559 ที่ 2.72 ล้านล้านบาท ขาดดุลงบประมาณที่ 3.9 แสนล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2.33 ล้านล้านบาท โดยในงบประมาณรายจ่ายนี้เป็นงบรายจ่ายประจำมากสุดที่ 2.1 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 77.2% ของงบประมาณรายจ่ายรวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.6%

นายสมศักดิ์ เปิดเผยด้วยว่า กระทรวงศึกษาธิการ ได้รับงบประมาณสูงสุดที่ 5.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อน 3.8% รองลงมา คือ งบกลาง 4.02 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อน 7% พร้อมกันนี้ ที่ประชุม ครม.ได้มอบหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกา กลับไปตรวจสอบร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 59 ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 12 พ.ค. 58

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในส่วนของการจัดทำงบประมาณประจำปี 2559 ขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นั้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รายงานในที่ประชุม ครม. ถึงการสั่งการให้ อปท. ให้ความสำคัญกับการจัดเก็บภาษีไม่ให้เกิดความรั่วไหล โดยเฉพาะในการเก็บภาษีที่ดิน ที่ปัจจุบันสามารถเก็บภาษีได้ปีละ 6 หมื่นล้านบาท โดยให้มีการปรับเปลี่ยนให้มีการจัดเก็บภาษีให้มีสัดส่วนรายได้สูงกว่าปี 2558 และได้มีการสั่งการให้ อปท. มีการปรับฐานการคิดราคาประเมินที่ดินในฐานใหม่ที่ได้มีการปรับปรุงตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย ปี 2558 ซึ่งประกาศฉบับเดิมออกมาตั้งแต่ปี 2520 - 2524 ซึ่งไม่ได้เป็นการเพิ่มอัตราภาษีแต่อย่างใด คาดว่า เมื่อมีการปรับฐานการคิดราคาประเมินใหม่แล้ว จะทำให้ อปท. มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 7 หมื่นล้านบาทต่อปี และมีส่วนช่วยให้รัฐลดการส่งเงินสนับสนุน อปท.ได้ปีละ 8,540 ล้านบาท ซึ่งจะนำเงินดังกล่าวไปรวมไว้ในงบกลางต่อไป

“เดิมสำนักงบประมาณได้กำหนดให้กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแล อปท. ให้เร่งรัดเพิ่มการจัดเก็บรายได้ให้ครบถ้วน และทบทวนฐานจัดเก็บภาษี แต่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ให้จัดเก็บภาษีให้มีสัดส่วนรายได้สูงกว่าปี 2558 จึงไม่เป็นภาระของรัฐบาล และสามารถนำเงินไปดูแลอย่างอื่นได้ แต่ในอดีตที่ไม่ทำเพราะกลัวจะเสียฐานเสียง แต่รัฐบาลนี้คำนึงผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก” แหล่งข่าวทำเนียบรัฐบาล ระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น