xs
xsm
sm
md
lg

เปิดบัญชีวัดบ้านไร่70ล. ยังอุบเงินวิหารกลางน้ำ พระนุชฉาวส้วมทองคำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศิษยานุศิษย์หลั่งไหลกราบสรีรสังขาร “หลวงพ่อคูณ”แน่นศูนย์ประชุม มข. คณบดีคณะแพทยศาสตร์ห่วงกรณีดองในอ่างแก้ว หวั่นสังคมมองหาผลประโยชน์ ศิษย์ยันแต่งตั้ง “หลวงนุช” รักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ไม่ชอบมาพากล เผยเป็นพระเจ้าของ “โถส้วมทองคำ” อันเลื่องลือเมื่อหลายปีก่อน ด้านอดีตไวยาวัจกรวัดบ้านไร่เผยมีเงินฝาก 5 บัญชีหลักรวมกว่า 70 ล้าน ส่วนบัญชีที่มีผู้ดูแลคนเดียวยังไม่ทราบตัวเลข

เช้าวานนี้ (18 พ.ค.) ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) สถานที่บำเพ็ญกุศลศพพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ นักบุญแห่งที่ราบสูง อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ศิษยานุศิษย์ทยอยมากราบไหว้สรีรสังขารที่บรรจุไว้ในโลงแก้ว ทำให้การจราจรบนถนนมลิวัลย์ เส้นทางไปยังศูนย์ประชุมค่อนข้างติดขัด เพราะนอกจากพาหนะของศิษยานุศิษย์จากทั่วประเทศแล้ว ยังเป็นวันเปิดเรียนวันแรกอีกด้วย โดบคาดว่าตลอดการจัดงานพิธี จะมีประชาชนเข้าร่วมสักการะกว่า 1 แสนคน

**ยังหวั่นดองสรีรสังขารในอ่างแก้วถูกครหา

รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. กล่าวว่า สำหรับการจัดการสรีรสังขารหลวงพ่อคูณหลังทำพิธีมอบให้ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ มข. ตามขั้นตอนหากเป็นครูใหญ่ทั่วไปจะนำร่างไปแช่น้ำยาดองในอ่างรวมกับร่างอื่นประมาณ 1 ปี แต่กรณีของหลวงพ่อคูณซึ่งเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ มีลูกศิษย์เคารพนับถือทั่วประเทศ คณะแพทยศาสตร์ได้สั่งทำอ่างแก้วชนิดพิเศษมูลค่า 1 ล้านบาท เพื่อดองสรีรสังขารหลวงพ่อ เพียงรูปเดียว และเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนมากราบไหว้ที่คณะแพทยศาสตร์ได้ คาดว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือนอ่างแก้วจะแล้วเสร็จ ช่วงนี้จะเก็บสรีรสังขารท่านไว้ภายในโลงแก้ว

อย่างไรก็ตามประเด็นที่น่าห่วง คือ การเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้หลวงพ่อตลอดระยะเวลา 1 ปี อาจจะถูกสังคมตั้งข้อสังเกตได้ว่า นำสรีรสังขารหลวงพ่อคูณมาหาผลประโยชน์หรือไม่ ประเด็นต่อมา คือ การดองสรีรสังขารหลวงพ่อคูณในอ่างแก้วใส จะทำให้ร่างของหลวงพ่อเปิดเผยต่อสาธารณะชน ซึ่งอาจจะต้องดองน้ำยาในสภาพห่มจีวรด้วย โดยคณะแพทยศาสตร์ จะหารือกันอีกครั้ง

“เมื่อครบ 1 ปีแล้วจะนำสรีรสังขารหลวงพ่อคูณไปใช้เพื่อการศึกษาในคณะแพทยศาสตร์ ตามพินัยกรรมของหลวงพ่อเป็นระยะเวลา 2 ปี ช่วงนี้จะไม่ให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้ โดยจะทำพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือประมาณเดือนมิ.ย. 2561 ซึ่งลูกศิษย์และผู้ที่เคารพหลวงพ่อคูณสามารถร่วมพิธีได้ หลังจากนั้นจะนำอัฐิไปลอยอังคารที่แม่น้ำโขงตามเจตนารมณ์ของท่านต่อไป”

**ศิษย์แฉ"พระนุช"ส้วมทองคำเคยด่าหลวงพ่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณคนหนึ่งกล่าวว่า การแต่งตั้งพระครูภาวนาประชานารถ หรือพระนุช รตนวิชโย เจ้าอาวาสวัดหนองบัวทุ่ง ต.ตาจั่น อ.คง จ.นครราชสีมา อดีตเลขานุการหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ขึ้นรักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา เชื่อว่ามีการวางแผนกันมาอย่างดี เห็นได้ว่าได้มีคำสั่งแต่งตั้งทันทีในวันที่ 16 พ.ค. ซึ่งเป็นวันที่หลวงพ่อคูณมรภาพ โดยก่อนหน้านี้มีความพยายามวิ่งเต้นพบพระผู้ใหญ่หลายรูปด้วย การที่ลูกศิษย์ออกมาบอกก็เพื่อให้สังคมรับรู้ว่า หลวงพ่อเคยสั่งเสียไว้เช่นนี้ แม้จะไม่ได้เขียนลงในพินัยกรรม แต่ท่านเคยบอกไว้ว่าอย่าให้คนนี้ (ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้อุปสมบท)เข้ามาในวัดบ้านไร่เด็ดขาด และจากวันนั้นจนถึงวันนี้นานเกือบ 20 ปีแล้ว ที่ผ่านมาพยายามขอเข้ามาในวัด แต่หลวงพ่อปฏิเสธและไล่ไปทุกครั้ง

"เมื่อครั้งยังไม่บวชเป็นพระเคยมาช่วยงานหลวงพ่อที่วัดบ้านไร่ และเคยด่าทอต่อว่าหลวงพ่อเรื่องการรับเงินบริจาค เท่าที่เคยทราบ คือ ต่อว่าหลวงพ่อคูณว่าทำไมโง่ ไม่ยอมรับเงินบริจาคทั้งหมด แต่กลับเอามาแค่ครึ่งเดียว ซึ่งทุกคนต่างรู้ดีเรื่องนี้"

ข่าวแจ้งว่า สำหรับพระภาวนาประชานาถเคยสร้างความฮือฮา เมื่อครั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองบัวทุ่ง เมื่อปี 2549 โดยสร้างส้วมทองคำ 6 ห้อง อยู่ในกุฏิรับรองพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ บุคคลสำคัญ รวมถึงพระ-เณร และประชาชนทั่วไป ซึ่งกุฏิดังกล่าวมี 2 ชั้น ด้านล่างมีห้องส้วมทองคำ 2 ห้อง และชั้นบนอีก 4 ห้อง แต่ละห้องอยู่แต่ละมุมของกุฏิ โดยเป็นโถส้วมแบบนั่งยอง ราดน้ำ เคลือบด้วยทองคำ 18 เค กระเบื้องปูพื้นมีลวดลายสวยงาม เมื่อเปิดไฟแสงจะตกกระทบโถส้วมและพื้นทำให้เหลืองอร่ามไปทั่วห้องน้ำ โดยราคาส้วมแต่ละห้องประมาณ 5 หมื่นบาท ซึ่งปรากฏเป็นข่าวไปทั่วประเทศ

**เผยเคยทาบเจ้าคณะอำเภอเป็นเจ้าอาวาส

ลูกศิษย์คนเดิมกล่าวว่า หลวงพ่อคูณเคยทาบทามเจ้าคณะอำเภอด่านขุนทดรูปปัจจุบันให้มารับตำแหน่งเจ้าอาวาส แต่เนื่องจากเจ้าคณะอำเภอเห็นว่าหลวงพ่อคูณยังดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสอยู่ จึงไม่มา นอกจากนี้ยังมีพระมหาสุริยา อภิวฑฺฒโน หรือพระมหาโอเล่ ที่หลวงพ่อคูณส่งเสียให้เรียนทางธรรมจนจบดอกเตอร์ ก็มีความเหมาะสม แต่กลับไม่ได้รับการแต่งตั้ง กลับไปเอาพระที่หลวงพ่อไม่ยอมให้เข้าวัดมารักษาการเจ้าอาวาส ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกันวัดบ้านไร่

**เจ้าคณะตำบลสวน“พระนุช”ร่วมสร้างวัดบ้าน

ที่ศาลาการเปรียญวัดบ้านไร่ พระครูพีรเดชธำรง เจ้าคณะตำบลกุดพิมาน กล่าวถึงกระแสการคัดค้านการแต่งตั้งพระภาวนาประชานาถว่า ไม่ทราบว่ามีใครคัดค้าน สำหรับพระภาวนาประชานาถหรือพระปลัดนุช เป็นพระนักพัฒนาเหมือนหลวงพ่อคูณ ร่วมสร้างวัดบ้านไร่กับหลวงพ่อคูณมาตั้งแต่ต้น แต่เพื่อความสะดวกในการประสานสร้างวัด จึงได้ลาสิกขาบทไประยะหนึ่ง และเมื่อสร้างศาสนสถาน โดยเฉพาะอุโบสถ 2 ชั้น จึงกลับมาอุปสมบทใหม่อีกรอบ และอยู่ช่วยงานหลวงพ่อคูณเหมือนกับเป็นเลขานุการประจำตัวอีกหลายพรรษา ก่อนจะย้ายไปจำพรรษาที่วัดหนองบัวทุ่ง และสร้างวัดจนมีชื่อเสียงโด่งดัง โดยเฉพาะเรื่องห้องน้ำทองคำ ต่อมาได้ย้ายไปเป็นที่ปรึกษาวิหารหลวงปู่โต อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา จนถึงปัจจุบัน

**กำนันกุดพิมานโต้เดือดคนค้านเสียประโยชน์

นายธวัฒน์ชัย แสนประสิทธิ์ หรือกำนันป่อง กำนันตำบลกุดพิมาน กรรมการวัดบ้านไร่ กล่าวว่า อยากถามว่าคนคัดค้านรู้ข้อเท็จจริงแค่ไหน ที่ผ่านมาชาวบ้านไร่คับแค้นแค่ไหน เข้าใจว่าคนที่คัดค้านกลัวเสียตำแหน่งหรือกลัวเสียผลประโยชน์หรือไม่ตรงนี้ไม่ทราบ การแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสเป็นไปตามกฎของมหาเถรสมาคม เพื่อให้สงฆ์ได้ทำกิจของสงฆ์ต่อไป

**พศ.แจงเป็นตามกระบวนการปกครองสงฆ์

นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าว ว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจทางการปกครองของคณะสงฆ์จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้สอบถามเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาแล้ว ได้รับการยืนยันว่าเป็นไปตามกระบวนการแต่งตั้งพระสังฆาธิการตามลำดับการปกครองคณะสงฆ์ โดยเจ้าคณะตำบลพิจารณาแล้วเห็นว่าพระภาวนาประชานาถ เคยรับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณ และอยู่วัดบ้านไร่ จึงเห็นว่าเหมาะสมที่จะแต่งตั้งให้เป็นรักษาการเจ้าอาวาส ส่วนเรื่องที่จะชอบหรือไม่ชอบเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน

***เปิดทรัพย์สิน5บัญชีหลักมีเงินฝากกว่า70ล้าน

ด้านนายธวัช เรืองหร่าย อดีตไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพอคูณ กล่าวถึงทรัพย์สินของวัดบ้านไร่ว่า ปัจจุบันมีบัญชีเงินฝากธนาคาร 3 บัญชีหลัก คือ บัญชีส่วนตัวของหลวงพ่อคูณ ซึ่งเป็นเงินในตู้บริจาคภายในวัดบ้านไร่ทั้งหมด หลวงพ่อคูณเป็นผู้ลงนามเบิกจ่ายเงินในบัญชีเพียงคนเดียว นำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายประจำในการบริหารจัดการ ของวัด ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเจ้าหน้าที่พยาบาล เป็นต้น ส่วนที่เหลือจะถูกนำฝากเข้าบัญชีของหลวงพ่อคูณ ซึ่งหลวงพ่อก็จะบริจาคให้สาธารณประโยชน์ไปเกือบทั้งหมด ทราบว่าล่าสุดมีเงินในบัญชี 2-3 แสนบาท

บัญชีที่ 2 คือ บัญชี 90 ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากที่หลวงพ่อตั้งใจจะทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อได้ครบ 100 ล้านบาท ซึ่งเงินส่วนนี้ได้มาจากการสร้างวัตถุมงคล เปิดมาได้ 2-3 ปีเท่านั้น ล่าสุดมีเงินในบัญชีประมาณ 17 ล้านบาท ผู้มีอำนาจเบิกจ่าย มี 3 คน คือ พล.ต.ต.มหัคฆพันธุ์ สุรคุปต์ ประธานกรรมการวัดบ้านไร่ นายธวัช เรืองหร่าย ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ และนายสมบูรณ์ โสตถิอนันต์ หรือไก่โต้ง เลขานุการคณะกรรมการวัดบ้านไร่

บัญชีที่ 3 คือ บัญชีเงินฝากธนาคารของพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ที่ตั้งอยู่ภายในวัดบ้านไร่ รายได้จากการบริจาคในพิพิธภัณฑ์ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่าย จะนำเข้าบัญชีนี้ มีเงินอยู่ 6-7 ล้านบาท ผู้มีอำนาจลงนามเบิกจ่าย 3 คน คือ นายธวัช เรืองหร่าย ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ นายธวัฒน์ชัย แสนประสิทธิ์ กำนันตำบลกุดพิมาน และนายสมบูรณ์ โสตถิอนันต์ หรือไก่โต้ง เลขานุการคณะกรรมการวัดบ้านไร่

**บัญชีวิหารกลางน้ำดูแลคนเดียว-ยังไม่รู้ตัวเลข

นายธวัช กล่าวว่า สำหรับวิหารเทพวิยาคม ซึ่งเป็นวิหารกลางน้ำ มีบัญชีเงินฝากธนาคารชื่อบัญชีมูลนิธิหลวงพ่อคูณ ที่มีนายเกรียงไกร จารุทวี ผู้บริหารกิจการวิหารเทพวิทยาคม ดูแลเงินรายได้จากวิหาร ทั้งเงินบริจาค เงินทำบุญจากบัตรเติมบุญเพียงคนเดียว ซึ่งไม่ทราบว่ามีเงินอยู่ในบัญชีไหร่

นอกจากนั้น ยังมีบัญชีเงินฝากของมูลนิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่ทางจังหวัดนครราชสีมาเป็นผู้ดูแล มีผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานมูลนิธิโดยตำแหน่ง นายอำเภอด่านขุนทดเป็นเลขาธิการมูลนิธิ และนางปทุม กุลกำจร เป็นเหรัญญิก ซึ่งทางมูลนิธิได้นำดอกผลมาใช้บริจาคเพื่อการสาธารณกุศล มอบทุนการศึกษา ทุนอาหารกลางวัน ให้กับเด็กนักเรียนนักศึกษายากจนทุกปี ทราบว่าปัจจุบันมีเงินกองทุนประมาณ 47 ล้านบาท

“หลังเสร็จสิ้นภารกิจบำเพ็ญกุศลหลวงพ่อคูณที่จ.ขอนแก่น ทางลูกศิษย์และอดีตกรรมการวัดบ้านไร่ จะประชุมผู้เกี่ยวข้อง พร้อมนิมนต์เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมามาเป็นประธานการประชุม เพื่อจัดการทรัพย์สินวัดบ้านไร่ทั้งหมด รวมถึงเรื่องการแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ด้วย ส่วนคณะกรรมการวัดบ้านไร่และตำแหน่งต่างๆ ในวัด ถือว่าสิ้นสุดลงเมื่อหลวงพ่อคูณมรณภาพด้วยเช่นกัน”

**"สุวัจน์"ทำตามคำสอน-เหรียญ3ปีฮิตราคาพุ่ง

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณ กล่าวว่า สิ่งที่ศิษยานุศิษย์และลูกหลานจะได้ช่วยกันทำให้หลวงพ่อคูณ คือ ช่วยกันดูแลและรักษาสาธารณประโยชน์ที่หลวงพ่อคูณได้สร้างไว้

ขณะเดียวกันหลังการมรณภาพ พระเครื่องของหลวงพ่อคูณกลับมาได้รับการถามจากเซียนพระอีกครั้ง โดยเฉพาะเหรียญรุ่นเก่า เช่น รุ่นปี 2512 , 2517 และ 2519 ราคาพุ่งสูงขึ้น ตั้งแต่หลักแสนถึงหลักหลายแสนบาท.
กำลังโหลดความคิดเห็น