ปปง. ยึดทรัพย์ขบวนการค้ามนุษย์เครือข่าย อ.หัวไทร แล้ว 190 รายการ มูลค่า 75 ล้านบาท จ่อยึดเพิ่มกว่า 100 ล้าน เตรียมริบทรัพย์ ขรก. พัวพันกับขบวนการการค้ามนุษย์โรฮีนจาอีก ออกหมายจับแล้ว 50 ราย
วันนี้ (12 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 7/2558 ซึ่งมีมติยึดและอายัดทรัพย์สินของขบวนการค้ามนุษย์เพิ่มเติมอีก 53 รายการ มูลค่า 36 ล้านบาท ร่วมทั้งสิ้นขณะนี้ ปปง. ยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดค้ามนุษย์แล้ว 75 ล้านบาท
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า จากการบูรณาการทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ได้ทำการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมข้อมูลหลักฐาน เพื่อดำเนินการกับขบวนการค้ามนุษย์ทั้งใน จ.ระนอง และ จ.สตูล จนสามารถดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 50 คน ซึ่งขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 17 ราย และอยู่ระหว่างการหลบหนีอีก 33 คน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการทำธุรกรรมทางการเงินพบว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานฟอกเงินในคดีการค้ามนุษย์โดยเมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา ปปง. ได้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้จากการกระทำความผิดจำนวน 16 รายการ มูลค่ากว่า 7,000,000 บาท
ล่าสุด วันนี้ (12 พ.ค. 58) ปปง. ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมอีก 53 รายการ มูลค่าประมาร 36 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย 1. บัญชีเงินฝากธนาคาร ของ จ.ส.ต.นราทร สมพันธ์ จำนวน 3 รายการ 2. บัญชีเงินฝากธนาคารของ นายอรัญ หนูอินทร์ จำนวน 2 รายการ 3. บัญชีเงินฝากธนาคาร ของ นางสุรีย์ สุขขาว จำนวน 3 รายการ 4. บัญชีเงินฝากธนาคาร ของ นายธนาคาร โมฬี จำนวน 1 รายการ
5. บัญชีเงินฝากธนาคาร ของ น.ส.เสาวลักษณ์ วิรุฬห์รักษ์สกุล จำนวน 2 รายการ 6. บัญชีเงินฝากธนาคาร ของ นางจันทรา ปั้งซวด จำนวน 10 รายการ 7. บัญชีเงินฝากธนาคาร ของ น.ส.นัยนา ปั้งซวด จำนวน 11 รายการ 8. บัญชีเงินฝากธนาคาร ของ นายถิระพล ซูคุปติวงศ์ จำนวน 7 รายการ 9. บัญชีเงินฝากธนาคาร ของ นายจันทร์ตรี แซ่เตีย จำนวน 1 รายการ 10. บัญชีเงินฝากธนาคาร ของ นายกวีวัฒน์ หนูอินทร์ จำนวน 2 รายการ 11. บัญชีเงินฝากธนาคาร ของ นางดารา สัมพันธ์ จำนวน 1 รายการ 12. บัญชีเงินฝากธนาคาร ของ นายอนันต์ ปั้งซวด จำนวน 3 รายการ 13. รถยนต์ เมอร์เซเดสเบนซ์ จำนวน 4 รายการ 14. รถยนต์ ฮอนด้า จำนวน 1 รายการ 15. เรือกลเดินทะเล ชื่อ อับบอเราะห์ จำนวน 1 รายการ และ 16. เรือกลประมงทะเลลึก ชั้น 2 ชื่อ หงส์ทอง 2000 จำนวน 1 รายการ
“จากการยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวรวมกับทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ในครั้งแรก จำนวน 121 รายการ มูลค่า 32 ล้านบาท ปัจจุบัน ปปง. ได้ยึดและอายัดทรัพย์สินในคดีการค้ามนุษย์แล้ว 190 รายการ มูลค่ากว่า 74 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีทรัพย์สินบางส่วน ที่ทางตำรวจได้ยึดอายัดและกำลังจะนำส่งให้กับทาง ปปง. จำนวนกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้หลังพบว่าผู้ต้องหาเริ่มมีการถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากธนาคารอย่างต่อเนื่อง เกรงว่า จะมีการยักย้ายถ่ายเท หรือปกปิดทรัพย์ โดย ปปง. จะเร่งดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์กับผู้เกี่ยวข้อง อีกทั้ง ปปง. ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของข้าราชและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีรายชื่อพัวพันกับขบวนการการค้ามนุษย์โรฮีนจาอีกด้วย ซึ่งหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็สามารถดำเนินคดีได้เลยโดยไม่มีมีการพิสูจน์ใดๆ” พ.ต.อ.สีหนาท กล่าว
เลขาธิการ ปปง. กล่าวอีกว่า ขั้นตอนการยึดและอายัดทรัพย์นั้น ปปง. ได้แบ่งเป็นการติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้ 2 ทาง คือ 1. ทรัพย์สินที่ทางตำรวจยึดไปแล้ว และ 2. ปปง. ตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติมในส่วนที่ตำรวจยังไม่ได้ดำเนินการ โดยการแบ่งแนวทางการติดตามเช่นนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการทำงาน ซึ่งในส่วนทรัพย์สินที่ทางตำรวจได้ยึดไปแล้ว ก็จะจัดทำบัญชีทรัพย์สินและส่งกลับมายัง ปปง. ในภายหลัง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีการยึดและอายัดบัญชีเงินฝากธนาคาร ของ นางจันทรา ปั้งซวด ซึ่งพบว่าเจ้าของบัญชีนี้ได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทำไมถึงมีความเคลื่อนไหวทางการเงินอยู่ พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าว ยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ โดยพบว่าเริ่มมีการถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารเมื่อวานนี้ (11 พ.ค.) จำนวน 100,000 บาท ซึ่ง ปปง. จะประสานทางธนาคารอีกครั้งเพื่อสอบถามว่ากรณีเจ้าของบัญชีเสียชีวิตไปแล้ว เพราะเหตุใดจึงมีการเคลื่อนไหวทางการเงินอยู่ นอกจากนี้ ปปง. ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของข้าราชที่เข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันกับคดีการค้ามนุษย์อีกด้วย เพราะคดีการค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นนั้น หากไม่มีนักการเมืองหรือผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นก็คงไม่สามารถทำได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา ปปง. ได้ร่วมตรวจสอบคดีค้ามนุษย์กับ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 ตั้งแต่มีคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายค้ามนุษย์โกโต้ง หรือ นายปัจจุบัน อังโชติพันธ์ อดีตนายก อบจ. จ.สตูล และเครือข่ายโกมิก หรือ นายสุนันท์ แสงทอง ซึ่งเป็นเครือข่ายอยู่ที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช สามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้จำนวนกว่า 100 ล้านบาท
