ผ่าประเด็นร้อน
ทำท่าเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา สำหรับ ธาริต เพ็งดิษฐ์ ตอนแรกนึกว่าเรื่องราวของเขากำลังจะเงียบไปกับสายลมเสียแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ มีเรื่องถูกสอบสวน กรณีถูกกล่าวหาเรื่องรุกป่าสงวนฯ มีการสร้างรีสอร์ตรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนฯ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนนัก เพราะมีการรีบทุบทิ้ง ทำลายรีสอร์ตที่มีปัญหาออกไปเสียก่อน ก่อนที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติจะเข้าไปรื้อถอน แม้ว่าหลายคนจะแย้งว่าการทุบทิ้งดังกล่าวไม่มีผลเพราะถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว และการรื้อถอนอีกด้านหนึ่งก็เหมือนกับการยอมรับความผิดไปโดยปริยายแล้ว แต่ต่อมาเรื่องก็เงียบหายไป
ต่อมาก็มีข่าวเฉียดไปเฉียดมาเรื่องการครอบครองที่ดินในจังหวัดนครราชสีมา แต่ก็กลายเป็นว่าเป็นชื่อของน้องชาย ส่วนตัวเองก็มีเรื่องการจดแจ้งขอใช้ที่ดิน ส.ป.ก.ผิดประเภทอะไรประมาณนี้ แล้วเรื่องก็เงียบหายอีก
จนกระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 19 เมษายน เลขาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สรรเสริญ พลเจียก ได้แถลงว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติอายัดทรัพย์สินของ ธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และภรรยา คือ นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ เนื่องจากเห็นว่า “ส่อไปในทางร่ำรวยผิดปกติ” ขณะเดียวกัน ให้มาชี้แจงบัญชีทรัพย์สินใหม่ภายใน 30 วัน
ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่ถูกอายัดังกล่าวทั้งของ ธาริต และภรรยา ที่มีทั้งเงินฝาก ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะ มีมูลค่ารวม 40,954720.58 บาท
โดยมีรายการทรัพย์สินของนายธาริต มูลค่ารวม 1,706,441.63 บาท ประกอบด้วย เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี, เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) 4 บัญชี, เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี, ที่ดินใน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท 1 แปลง เนื้อที่ 2 ไร่ 38 ตารางวา, ทรัพย์สินในตู้นิรภัยของธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) สาขาสำนักธุรกิจรัชดาภิเษก ตู้นิรภัยเลขที่ 047 ตามสัญญาเช่าตู้นิรภัยลงวันที่ 20 ธันวาคม 2555
รายการทรัพย์สินของนางวรรษมล มูลค่ารวม 39,248,278.95 บาท ประกอบด้วย เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี, เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี, เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) 4 บัญชี, เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี, ที่ดิน อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี 1 แปลง เนื้อที่ 3 งาน 84 ตารางวา, ที่ดิน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 3 แปลง เนื้อที่ 4 ไร่ 50 ตารางวา, บ้านเลขที่ 414 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี 1 หลัง, บ้านคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น เลขที่ 444 และสิ่งปลูกสร้างไม่มีเลขที่ 5 หลัง หมู่ที่ 11 ต.หนองน้าแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา, รถยนต์ MERCEDES BENZ รุ่น E 250 เลขทะเบียน ญฉ 414 กรุงเทพมหานคร, รถยนต์ TOYOTA รุ่น ALPHARD เลขทะเบียน ฆฐ 515 กรุงเทพมหานคร
ขณะเดียวกัน กรรมการ ป.ป.ช.อีกคนหนึ่ง คือ วิชา มหาคุณ กล่าวถึงการสอบสวนนายธาริตว่าร่ำรวยผิดปกติจากตำแหน่งหน้าที่ และบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ว่านายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นผู้รับผิดชอบสำนวนคดี โดยล่าสุดที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช. มีมติส่งหนังสือแจ้งนายธาริตให้มายื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเพิ่มเติมตามระบบ โดยเป็นการกำหนดให้ยื่นย้อนหลังระหว่างช่วงนั้นถึงช่วงนี้ซึ่งเป็นรายละเอียดในหนังสือเพื่อนำมาพิจารณาเปรียบเทียบกับกรณีที่นายธาริตเคยยื่นไปแล้วว่ามีความผิดปกติบกพร่องหรือไม่
อย่างไรก็ดี ล่าสุด ธาริต เพ็งดิษฐ์ ก็ยืนยันว่าเขาพร้อมที่จะไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช. โดยเตรียมหลักฐานต่างๆ ตามที่มีข้อสงสัยตามที่ ป.ป.ช.กำหนด
แน่นอนว่า ไม่ว่าใครก็ตามเมื่อถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ อายัดทรัพย์สิน และเรียกให้ไปยื่นบัญชีทรัพย์สินย้อนหลัง ต้องถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เครียด และนอนไม่หลับเป็นแน่ สำหรับ ธาริต เพ็งดิษฐ์ ก็ไม่มีข้อยกเว้น และยิ่งเมื่อเขาเคยเป็นถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำคดีสำคัญมากมาย โดยเฉพาะที่ผ่านมา ถูกมองว่าเป็น “คดีการเมือง” รับใช้ฝ่ายการเมืองเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม และหลังจากมีการยึดอำนาจ โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เขาก็โดนย้ายพ้นตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นคนแรกๆ ซึ่งไม่ได้ผิดไปจากความคาดหมาย พร้อมกับคดีที่ผุดตามมามากมาย ทั้งคดีอาญา และแพ่ง จนทำให้ก่อนหน้านี้เจ้าตัวถึงกับโอดครวญว่า “โดนหนัก” และต้องเดินขึ้นศาลถูกดำเนินคดีอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้น หากกล่าวว่ากรณีของ ธาริต เพ็งดิษฐ์ ย่อมเป็นกระจกสะท้อนข้าราชการที่รับใช้การเมืองกันแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ขณะเดียวกัน อาจเป็นเพราะประเมินสถานการณ์ผิดพลาด หรืออยู่ภายใต้ข้อตกลงลับอะไรบางอย่างหรือไม่ ทำให้ถึงต้องทำงานสนองกันถึงขนาดนั้น อีกทั้งเมื่อประเมินทุกอย่างในตอนนั้นก็ยังมั่นใจว่าจะอยู่ได้อย่างมั่นคง ไม่คาดคิดว่าจะพลิกผันจนเป็นแบบนี้ไปได้
แต่ก็อย่างว่านี่คือวิบากกรรม ที่ต้องทำใจว่า “ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกรรม” นี่อาจเป็นแค่เริ่มต้น ข้างหน้ายังอีกยาว!