xs
xsm
sm
md
lg

เปิดทรัพย์สินกองทุน-มูลนิธิหลวงพ่อคูณ 9 บัญชี พบเงินอื้อร่วม 200 ล้าน-กก.พร้อมลุยตรวจสอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พระราชสีมาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ของพระเทพวิทยาคม  (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) และวัดบ้านไร่
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- กก.ตรวจสอบทรัพย์สินหลวงพ่อคูณและวัดบ้านไร่ พร้อมลงพื้นที่วัดบ้านไร่ลุยสอบ 25 พ.ค. เบื้องต้นพบมีเงินฝากธนาคารอย่างน้อย 5 บัญชีหลายสิบล้าน ด้านรักษาการไวยาวัจกรวัด ลูกศิษย์ใกล้ชิดชี้เป็นเรื่องที่ดี กรรมการวัดพร้อมชี้แจงทรัพย์สินในส่วนที่รับผิดชอบทั้งหมด เผยทรัพย์สิน 9 กองทุน-มูลนิธิหลวงพ่อคูณ พบเงินในบัญชีอื้อร่วม 200 ล้านบาท

วันนี้ (21 พ.ค.) พระราชสีมาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) และวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งแต่งตั้งโดย พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยความคืบหน้าของการดำเนินการตรวจสอบว่า อาตมาได้หารือกับคณะกรรมการฯ ที่เกี่ยวข้องแล้ว และตกลงกันว่าคณะกรรมการฯ ทั้งหมดจะเดินทางไปที่วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดในวันจันทร์ที่ 25 พ.ค.นี้ โดยทางคณะกรรมการฯ ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีทรัพย์สินต่างๆ ให้เตรียมเอกสารหลักฐานไว้ชี้แจงต่อคณะกรรมการฯ ด้วย

ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นทราบว่า ทรัพย์สินของวัดบ้านไร่มีบัญชีเงินฝากธนาคารอย่างน้อย 5 บัญชี มียอดเงินรวมกันจำนวนหลายสิบล้านบาท โดยคณะกรรมการฯ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 วันในการตรวจสอบทรัพย์สินของหลวงพ่อคูณ และวัดบ้านไร่

นายธวัช เรืองหร่าย รักษาการไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการวัดบ้านไร่ และเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจลงนามเบิกเงินของวัดบ้านไร่หลายบัญชี เปิดเผยว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินวัดบ้านไร่และหลวงพ่อคูณเป็นเรื่องที่ดี ตนและกรรมการวัดบ้านไร่พร้อมชี้แจงบัญชีทรัพย์สินในส่วนที่ตนรับผิดชอบทั้งหมดในวันที่ 25 พ.ค.นี้ ส่วนเรื่องข่าวมีการตั้งกรรมการวัดบ้านไร่ชุดใหม่แล้วนั้น ตนยังไม่ทราบเรื่องนี้ และไม่รู้รายละเอียดตรงนั้น

ต่อข้อถามถึงอนาคตวัดบ้านไร่จากนี้ไปจะเป็นอย่างไร นายธวัชกล่าวว่า วัดบ้านไร่หลวงปู่สร้างมาทุกอย่างมันก็ต้องดีต่อไป ตนคิดว่าไม่มีอะไร หากมีเรื่องอะไรก็หันหน้ามาคุยปรึกษาหารือกัน และเรื่องในวัดตนคิดว่าไม่มีอะไรมากมาย การแต่งตั้งเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ทางคณะสงฆ์เป็นผู้จัดการ ซึ่งตอนนี้ตนยังไม่รู้ในรายละเอียดมากนัก คงต้องให้งานพิธีบำเพ็ญกุศลต่างๆ ของทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้วเสร็จก่อน นายธวัชกล่าว

เปิดทรัพย์สิน 9 กองทุน-มูลนิธิหลวงพ่อคูณ พบเงินอื้อ 200 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า สำหรับทรัพย์สินวัดบ้านไร่และหลวงพ่อคูณ ในส่วนที่มีการดำเนินการจัดตั้งเป็นกองทุนและมูลนิธิต่างๆ นั้น เบื้องต้นจากข้อมูลในหนังสือรวบรวมประวัติ ศาสนกิจ และการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” ที่ศิษยานุศิษย์ได้จัดทำขึ้นในโอกาสครบรอบวันเกิด 77 ปี จัดพิมพ์เมื่อ ต.ค. 2543 พบ ว่าหลวงพ่อคูณมีเมตตาจัดตั้งกองทุนและมูลนิธิขึ้นเป็นจำนวนมาก และดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือทุกด้าน ทั้งการศึกษา สาธารณสุข ศาสนา สังคมและชุมชน รวมทั้งนักเรียนที่ยากจนทั่วไป จำนวน 9 กองทุน/มูลนิธิ รวมเงินในบัญชีร่วม 200 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. “กองทุนการศึกษาหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” ตั้งเมื่อปี 2536 เริ่มตั้งมีเงิน 2 ล้านบาท ปัจจุบัน (ปี 2543) มีเงินกองทุน 16.4 ล้านบาท และมีวัตถุมงคลมูลค่า 7.5 ล้านบาท มีบัญชีเงินฝากที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) วัตถุประสงค์เพื่อนำดอกผลเป็นทุนการศึกษา สำหรับนักศึกษา มทส.ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ สถานที่ตั้ง ส่วนการเงินและบัญชี สำนักงานอธิการบดี มทส.

2. “มูลนิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” ตั้งเมื่อ 10 ก.ย. 2536 เงินทุนเริ่มก่อตั้ง 4 ล้านบาท ปัจจุบัน (ปี 2543) มีเงิน 16.8 ล้านบาท มีบัญชีเงินฝากที่ ธนาคารกรุงไทย สาขา อ.ด่านขุนทด วัตถุประสงค์ เพื่อบูรณะซ่อมแซม ปฏิสังขรณ์วัดบ้านไร่ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เป็นประธานมูลนิธิ ที่ตั้ง วัดบ้านไร่ เลขที่ 111 ม.6 ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

3. “มูลนิธิปริสุทโธเพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลด่านขุนทด” ตั้งเมื่อปี 2536 เริ่มก่อตั้งมูลนิธิมีเงิน 1 ล้านบาท ปัจจุบัน (ปี 2543) มีเงิน 1.5 ล้านบาท มีบัญชีเงินฝากที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาด่านขุนทด วัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือการบริการด้านสาธารณสุขอนามัยแก่ประชาชนในชนบท ที่ตั้ง เลขที่ 4/9 ม.2 ต.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด

4. “กองทุนเพื่อการศึกษาและกีฬาหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” ตั้งเมื่อปี 2538 เริ่มก่อตั้งกองทุนมีเงิน 4.2 ล้านบาท มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารทหารไทย สาขา อ.ด่านขุนทด วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา และส่งเสริมการกีฬา ที่ตั้ง สำนักงานศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด ต.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด

5. “กองทุนวัดบ้านไร่ (เพื่อการศึกษาพระภิกษุ-สามเณร)” ตั้งเมื่อปี 2538 เริ่มก่อตั้งมีเงิน 2.5 ล้านบาท ปัจจุบัน (ปี 2543) มีเงิน 2.8 ล้านบาท มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารกรุงไทย สาขาด่านขุนทด มี หลวงพ่อคูณ เป็นประธาน วัตถุประสงค์เพื่อเป็นกองทุนการศึกษาสำหรับพระภิกษุ-สามเณร สถานที่ตั้ง สำนักงานศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด ต.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด

6. “มูลนิธิทวีคูณพัฒนา” ตั้งเมื่อปี 2538 เริ่มก่อตั้งมีเงิน 8 ล้านบาท มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา มทส. วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษา สนับสนุนการวิจัย การคิดค้นสั่งประดิษฐ์ มีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นประธาน สถานที่ตั้ง สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา

7. “มูลนิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ (ชื่อย่อ “พคปธ”)” ตั้งเมื่อ 10 ก.ค. 2540 เริ่มก่อตั้งมีเงิน 30 ล้านบาท ปัจจุบันมีเงิน 46 ล้านบาท มีบัญชีเงินฝากที่ ธนาคารทหารไทย สาขาอำเภอด่านขุนทด วัตถุประสงค์เพื่อปฏิสังขรณ์วัดบ้านไร่ เพื่อดำเนินการหรือร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่น เพื่อสาธารณประโยชน์ มีผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธาน ที่ตั้ง วัดบ้านไร่

8. “มูลนิธิอาหารกลางวันหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” ตั้งเมื่อ ปี 2542 เริ่มก่อตั้งมีเงิน 60 ล้านบาท ชื่อบัญชีเงินฝาก มูลนิธิอาหารกลางวันหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้รับประทานอาหารกลางวันอย่างเพียงพอ ถูกต้องตามหลักโภชนาการ พัฒนาพื้นที่โรงเรียนเป็นแหล่งผลิตอาหาร ฝึกนักเรียนมีความรู้ด้านการเกษตร ปศุสัตว์ การประมง และทักษะด้านการจัดการ สนับสนุนส่งเสริมการศึกษาและอุปกรณ์การศึกษาเพื่อการสาธารณประโยชน์

การดำเนินงาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเงินซึ่งได้จากการถวายของหลวงพ่อคูณ จำนวน 100 ล้านบาท ให้แก่คณะกรรมการบริหารโครงฯ เพื่อไปดำเนินการตามโครงการอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนเช่นเดียวกับโครงการอาหารกลางวัน อันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยนำดอกผลมอบให้โรงเรียนทุกโรงเรียนในเขต อ.ด่านขุนทด และ อ.เทพารักษ์

มีแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานกรรมการ ที่ตั้ง กองบัญชาการ กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา

9. “กองทุนอาหารกลางวันหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” ตั้งเมื่อปี 2542 เริ่มก่อตั้งมีเงิน 40 ล้านบาท วัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้รับประทานอาหารกลางวันอย่างเพียงพอ ถูกต้องตามหลักโภชนาการ

การดำเนินงาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเงินซึ่งได้จากการถวายของหลวงพ่อคูณ จำนวน 100 ล้านบาท ให้แก่คณะกรรมการบริหารโครงการฯ เพื่อไปดำเนินการตามโครงการอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนเช่นเดียวกับโครงการอาหารกลางวัน อันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยนำดอกผลมอบให้โรงเรียนทุกโรงเรียนในเขต อ.ด่านขุนทด และ อ.เทพารักษ์ นำไปส่งเสริมโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้รับประทานอาหารกลางวันและได้รับทุนการศึกษา รวมทั้งอุปกรณ์การเรียนการศึกษา

มีแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธาน ที่ตั้ง กองบัญชาการ กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา
พระราชสีมาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ของพระเทพวิทยาคม  (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) และวัดบ้านไร่

กำลังโหลดความคิดเห็น