xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ใครคือ “มนุษย์ขยะ”? ตัวการทำ “หวย” แพง 5 เสือ VS นักการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -เรียบร้อยโรงเรียนจีนไปแล้ว สำหรับเก้าอี้ประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หลัง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ตัดสินใจใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 แต่งตั้ง พล.ต. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ให้เข้ามารั้งตำแหน่งนี้ พร้อมกับบอร์ดอีก 3 คนคือ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พ.ท.หนุน ศันสนาคม อดีตผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ภารกิจสำคัญของ พล.ต.อภิรัชต์ก็คือ การกำราบ “มาเฟีย” ที่ส่งผลทำให้มีการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคามาเป็นเวลาหลายปีดีดัก และนับเป็นโอกาสอันดีที่จะสะสางปัญหานี้ เพราะตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2558 ไปจนถึงสิ้นปีนี้ เป็นช่วงที่สัญญาการจัดจำหน่ายสลากทุกประเภทกำลังจะสิ้นสุดลง

นั่นคือโจทย์มหาหินซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายในการจัดการ เพราะเป็นที่รับรู้ว่า งานนี้มีผลประโยชน์กองมหึมาอยู่เบื้องหลัง

หลังรับตำแหน่งประธานบอร์ด “เสธ.แดง-พล.ต.อภิรัชต์” ได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า “ปัญหานี้เกิดขึ้นมา 30 ปีแล้ว ไม่ใช่จะแก้ง่ายหรือยาก แต่ขึ้นอยู่กับความโลภของมนุษย์เป็นตัวตั้ง ถ้ากำจัดขยะมนุษย์อย่างที่นายกรัฐมนตรีพูดได้ ก็จะทำให้ผู้ซื้อ ซึ่งอยู่ปลายทาง ไม่ต้องได้รับความเดือดร้อน เพราะสลากกินแบ่งรัฐบาลถือเป็นสมบัติของรัฐ มีการกำหนดราคาชัดเจน ทั้งต้นทุนและราคาขาย หากมีการขายเกินราคาก็ต้องถูกลงโทษตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่นำประมวลรัษฎากร และกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมาใช้ หากผู้ใดพบพ่อค้าคนกลาง หรือผู้ที่ได้รับโควตา ไปบิดเบือนราคา ก็มาแจ้งได้ ถึงเวลาที่ต้องเอาจริงเอาจังแล้ว จะไม่ยอมให้ความตั้งใจจริงของนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาต้องสูญเปล่า จึงต้องการให้ทุกคนเข้าใจถึงความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหา และว่า ราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 มิถุนายน ที่หน้าแผง จะต้องอยู่ในราคา 80 บาท ระหว่างนี้จะต้องพูดคุยกับคณะทำงานและชุดเฉพาะกิจ เพื่อเตรียมความพร้อม และให้โอกาสกับพ่อค้าคนกลาง หรือผู้จำหน่ายรายย่อยได้ปรับตัว ก่อนถึงเวลาที่กำหนด”

คำถามมีอยู่ว่า “มนุษย์ขยะ” ที่ทำให้สลากกินแบ่งรัฐบาลนั้นคือใคร

ใช่ “กลุ่ม 5 เสือกองสลาก” ได้แก่ บริษัท สลากมหาลาภ จำกัด, บริษัท ปลื้มวัธนา จำกัด (ชื่อใหม่ แอดวานซ์ เทคโนโลยี ซิสเต็มส์), บริษัท ไดมอนด์ ล็อตโต้ จำกัด บริษัท หยาดน้ำเพชร จำกัด และบริษัทบีบี เมอร์ชานท์ จำกัด
ซึ่งเป็นที่กล่าวขานกันมาโดยตลอดหรือไม่

เพราะมีตัวเลขออกมาแล้วว่า เพียงแค่ บริษัท สลากมหาลาภ จำกัด ของ น.ส.สะเรียง อัศววุฒิพงษ์ หนึ่งในตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในปัจจุบัน จำนวน 1.6 ล้านฉบับ/งวด บริษัทเดียวก็พบว่า นับตั้งแต่ ปี 2540 -2556 รวมระยะเวลา 17 ปี มีตัวเลขรายได้อยู่ที่ 14,389,315,734.95 บาท

และที่สำคัญที่สุดก็คือ ณ ปัจจุบัน โควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลและสลากการกุศลทั้งหมด 74 ล้านฉบับ แม้ที่จริงแล้วอยู่ในครอบครองของหน่วยงานใดหรือองค์กรไหนเป็นจำนวนเท่าไหร่กันแน่

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลของ “ไทยพับลิก้า” ที่ได้ยื่นคำร้องตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ 2540 ขอให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเปิดเผยรายชื่อตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล สลากการกุศล ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค พร้อมกับจำนวนโควตาที่ได้รับการจัดสรรพบว่า ตัวแทนจำหน่ายที่ครอบครองโควตาสลากมากที่สุด ชื่อที่ปรากฏไม่ใช่ “เจ๊แดง” และ “เจ๊สะเรียง” หรือ “กลุ่ม 5 เสือ” ตามที่สาธารณชนเคยรับรู้กัน ทว่า คือ มูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ครอบครองโควตาสลากกว่า 14 ล้านฉบับต่องวด

ส่วนอันดับที่ 2 คือสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ 2.7 ล้านฉบับ อันดับที่ 3 องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก 2.35 ล้านฉบับ อันดับที่ 4 สมาคมพนักงานผู้เกษียณอายุสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 2 ล้านฉบับ อันดับที่ 5 ห้างหุ้นส่วนจำกัดขวัญฤดี ของร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า, บริษัท สลากมหาลาภ จำกัด ของ น.ส.สะเรียง อัศววุฒิพงษ์ และบริษัทหยาดน้ำเพชร ของนางปลื้มจิตต์ กนิษฐสุต มีโควตาสลากรวมกัน 4.8 ล้านฉบับ รวม 10 อันดับแรก ครอบครองโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลและสลากการกุศลทั้งหมด 27.75 ล้านฉบับ คิดเป็นสัดส่วน 37.50% ของปริมาณสลากทั้งหมด 74 ล้านฉบับ

ทั้งนี้ ปัจจุบันสำนักงานสลากฯ มีผลิตภัณฑ์สลากอยู่ 2 ประเภท คือ สลากกินแบ่งรัฐบาล พิมพ์ออกขายงวดละ 52 ล้านฉบับ และสลากการกุศลงวดละ 22 ล้านฉบับ ส่วนโครงสร้างการจัดจำหน่ายสลาก 74 ล้านฉบับ แบ่งออกได้ 3 ช่องทาง ดังนี้

1. จัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลประมาณ 23 ล้านฉบับ ให้กับตัวแทนจำหน่ายส่วนกลาง 8,376 ราย

2. จัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลประมาณ 28 ล้านฉบับ โดยผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดและสำนักงานคลังจังหวัด เพื่อนำไปจัดสรรต่อให้กับตัวแทนจำหน่ายส่วนภูมิภาค 25,633 ราย

3. จัดสรรโควตาสลากการกุศลประมาณ 22 ล้านฉบับ ผ่านมูลนิธิ สมาคม องค์กร และนิติบุคคล 3,551 ราย

คำถามที่ตามมาก็คือ มูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลกำเนิดเกิดขึ้นมาอย่างไร และใครคือผู้บริหารงานมูลนิธิแห่งนี้

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ตรวจสอบและพบว่า “มูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล” จัดตั้งเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2545 ปรากฏชื่อ “นายชัยวัฒน์ พสกภักดี” (อดีต ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล) เป็นผู้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ และปัจจุบันนายชัยวัฒน์ก็ยังคงดำรงตำแหน่งดังกล่าว

ส่วนคณะกรรมการที่เหลืออีก 5 คนประกอบด้วย 1.นายเจริญ ชุมแสงศรี เป็นรองประธานฯ 2.นายธงชัย เล็กบำรุง รองประธานฯ (อดีต ผอ.สำนักงานสลากฯ) 3.นายเจริญชัย งามกิจไพบูลย์ (อดีตหัวหน้าสำนักสลากรูปแบบใหม่ สำนักงานสลากฯ) กรรมการและเหรัญญิก และ 4.นายอนุพร กล่อมเกลา (อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสลากกินแบ่งรัฐบาล) กรรมการและเลขานุการ

ด้านนายชัยวัฒน์ซึ่งตกเป็นจำเลยของสังคมได้ให้สัมภาษณ์ “ไทยพับลิก้า” เพิ่มเติมถึงเรื่องราวทั้งหมดและเป็นข้อมูลที่ทำให้รับรู้ความจริงในอีกด้านหนึ่งอย่างน่าสนใจ

“มันเป็นเรื่องการเมือง (หัวเราะ) แม้แต่ผมเป็นผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ จะเอาสลากฯ เพียง 1 เล่ม ยังไม่ได้เลย สมัยก่อนการเมืองเน้นเรื่องเงิน คนที่จะได้โควตาสลากฯ คือคนจ่าย มูลนิธิจึงเสมือนเป็นทางผ่าน มูลนิธิได้ส่วนลด 9% แต่ผมหักไว้ 2% ของส่วนลดที่ได้ 9% หมายความว่าสลากราคาคู่ละ 80 บาท ได้ส่วนลด 7.2 บาท ผมหักไว้ 1.6 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายมูลนิธิสำนักงานสลากฯ ที่เหลือ 5.6 บาท เป็นส่วนลดให้ตัวแทนจำหน่ายที่มารับโควตาจากมูลนิธิสำนักงานสลากฯ ไปขาย มูลนิธิสำนักงานสลากฯ มีหน้าที่รับสลากจากสำนักงานสลากฯ จากนั้นเขา (นักการเมือง) จะบอกโพยมาเลย สมมติ มูลนิธิได้สลากฯ มา 1,000 เล่ม เขาจะสั่งผมให้จ่ายสลากให้นาย ก. กี่เล่ม นาย ข. นาย ค. กี่เล่ม ผมมีหน้าที่รับสลากจากสำนักงานสลากฯ มา เขาเอาเงินค่าสลากจ่ายให้เรา แล้วเขาก็รับสลากไป

“สำหรับการจัดสรรสลาก ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าสลากทั้งหมด เจ้าใหญ่ เจ้าเล็ก ก็ไม่รู้ อันนี้เป็นรายการที่นักการเมืองสั่งมา ตั้งแต่รัฐมนตรี ประธานบอร์ด ผู้อำนวยการสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ที่ผ่านมาหลังจาก บอร์ดมีมติออกมาให้สำนักงานสลากฯ จัดสรรโควตาเพิ่ม ก็มีโพยส่งมาให้ผมจ่ายสลากให้ใครบ้าง แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว การจัดสรรโควตาให้ตัวแทนจำหน่ายต้องทำตามใบสั่งการเมือง มันมีมาตั้งแต่โบราณกาล ยังไม่เคยแก้ไขเลย นาย ก. นาย ข. เคยได้โควตาสลากมาตั้งแต่ในอดีต ก็ไม่เคยโละ มีแต่จะได้โควตาเพิ่มขึ้นๆ”นายชัยวัฒน์ให้ข้อมูล

เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า พล.ต.อภิรัชต์จะจัดการกับปัญหาทั้งหลายทั้งปวงในรูปแบบไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความชัดเจนว่าในเดือนมิถุนายนนี้ สัญญาการจัดจำหน่ายสลากทุกประเภทจำนวน 48 ล้านฉบับ กำลังจะสิ้นสุดลง

จะยืนยันตามมติบอร์ดชุดเดิมที่เห็นชอบในการต่ออายุโควตาสลากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหรือไม่

หรือจะเป็นอย่างที่เป็นข่าวเล็ดลอดออกมาว่า “เสธ.แดงปิ๊งขายในโมเดิร์นเทรด จำหน่ายผ่านเครื่องแก้โก่งราคา”

ไหนจะปัญหาโควตาในต่างจังหวัดที่ไม่ได้ส่งสลากไปจริง แต่ขายกันในส่วนกลาง ซึ่งเป็นส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลตามข้อมูลที่ ร.อ.ธรรมนัส พรมเผ่า เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด ขวัญฤดีที่ได้โควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 ใน 5 อันดับแรกให้ไว้

...งานนี้บอกได้คำเดียวว่า โปรดติดตามด้วยใจระทึก เพราะการทำให้สลากกินแบ่งรัฐบาลขายได้ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาประกาศไว้คือ ใบละ 40 บาทหรือคู่ละ 80 บาท ไม่ใช่เรื่องง่าย



กำลังโหลดความคิดเห็น