xs
xsm
sm
md
lg

"หลวงลุง"ติง"กลุ่มการเมือง"จะพาเละ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (7พ.ค.) พระสุเทพ ปภากโร (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) อดีต แกนนำ กปปส. ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ ที่เวลานี้มีปัญหา เรื่องความไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญในบางมาตรา โดยเฉพาะ 2 พรรคการเมืองใหญ่ ว่า พรรคการเมืองและนักการเมือง คิดแต่เรื่องตัวเองมากเกินไป เห็นแก่ตัว วันนี้นักการเมืองและพรรคการเมือง ควรคิดเรื่องประเทศชาติ ยกตัวอย่าง ว่า เช่น เราเคยพูดกันใน กปปส.ว่า กติกาบ้านเมืองต่อไปถ้าจะต้องแก้ ก็ต้องแก้ว่าต่อไปนี้พรรคการเมืองที่จะมีในประเทศไทย จะมีได้เฉพาะพรรคการเมืองที่มีประชาชนเป็นเจ้าของพรรคเท่านั้น หมายความว่า ประชาชนที่มีอุดมการณ์ มีความคิดเห็นทางการเมืองอย่างเดียวกัน สามารถรวมตัวกันจัดตั้งพรรคการเมืองได้ ประชาชนกลุ่มนั้น จะต้องมีจำนวน ไม่น้อยกว่า 2 - 3 % ของจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั้งประเทศ เช่น ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในประเทศไทยมี 4 ล้านคน อย่างน้อย 3 % ก็ต้องมี 1.2 ล้านคน รวมตัวกันเป็นเจ้าของพรรค
" ความเป็นเจ้าของพรรค ไม่ใช่เป็นสมาชิกพรรคอย่างที่เราเคยเห็นมา ไม่ใช่คนมีเงินแล้วมาตั้งพรรคการเมือง แล้วไปกวาดเอาคนมาเป็นสมาชิกพรรค แต่ที่เรากำลังพูดถึงคือ ลงหุ้นกัน เป็นเจ้าของพรรค ประชาชนที่รวมกันตั้งพรรคการเมือง จะต้องร่วมกันรับผิดชอบเรื่องการบริหารพรรค การกำหนดนโยบาย การกำหนดตัวบุคคลที่จะมาบริหารพรรค มากำหนดกันเลยว่าบุคคล หรือ คณะบุคคลที่จะเข้ามาบริหารจัดการพรรคต้องมาจากการลงคะแนนโดยตรงของบรรดาเข้าของพรรค โดยเขาจัดการกันภายใน เพื่อป้องกันไม่ไห้เอานโยบายบ้าบอ อะไรมาไม่รู้ แล้วทำให้ประเทศชาติเสียหาย เพื่อป้องกันไม่ให้คนใดคนหนึ่ง หรือ ครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง เข้ามาครอบงำพรรคการเมือง" พระสุเทพ กล่าว
พระสุเทพ กล่าวต่อว่า เจ้าของพรรคจะต้องมีความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นเจ้าของพรรค คือ คุณต้องลงทุนด้วยเงินของคุณ สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของพรรค เช่น อาจจะต้องกำหนดในกฎหมายเลย ว่า คนที่เป็นเจ้าของพรรคการเมือง ที่เข้าชื่อกันจดทะเบียนเป็นพรรคการเมือง จะต้องมีความรับผิดชอบว่า คุณจะต้องสละรายได้ เป็นค่าบริหารจัดการพรรค ทำแบบนี้คนที่มีรายได้ต่างกัน ก็มีสิทธิ์เท่ากันในพรรคการเมือง และจะต้องมีกฎหมาย กติกาบอกเลยว่า คนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของพรรค ต้องการบริจาคเงินในพรรคตามฤดูกาลได้ แต่จะไม่มีสิทธิ์ เข้ามามีส่วนในการบริหารพรรค เพราะคุณ
บริจาคด้วยความชอบ แต่ก็ต้องมีจำนวนจำกัด ใครทำผิดไปจากนี้ให้เงินใต้โต๊ะ ผิดไปจากนี้ พรรคการเมืองนั้นจะต้องถูกยุบพรรคทันที ประชาชนต้องจัดการเอาผู้บริหารพรรคออก และเวลาที่มีการเลือกตั้ง เจ้าของพรรคแต่ละพื้นที่ ก็ต้องประชุมกันเลือกว่าจะเอาใครเป็นตัวแทนของพรรคของแข่งขันในนามของพรรค เหมือนระบบไพรมารี่โหวต ของอเมริกา ไม่ใช่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ที่หัวหน้าพรรค หรือเลขาธิการพรรค เลือกมาจากกรุงเทพฯ ว่าจะเอาคนนั้น คนนี้ลง อย่างที่ผ่านมา บางพรรคมีการเอาคนขับรถ มาลงสมัครก็เคยมี
เมื่อถามว่า ตรงนี้จะต้องเขียนกำหนดในร่างรัฐธรรมนูญเลยหรือไม่ พระสุเทพ กล่าวว่าใช่ตรงนี้จะต้องเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญที่ว่า ด้วยสิทธิพลเมืองในการจัดตั้งพรรคการเมือง แล้วสิทธิ์นี้จะต้องได้รับการเคารพ แล้วไปเขียนกฎหมายพรรคการเมืองให้ได้ตามที่เราต้องการ แล้วจะทำให้ได้นักการเมืองที่ดีขึ้น เดี๋ยวนี้ คนทำอาบ อบ นวด ร่ำรวยมา ก็ไปตั้งพรรคการเมืองได้ มันไม่สง่างาม แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ในรัฐธรรมนูญยังไม่ได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ นี่คือความเห็นส่วนตัวและ พรรคการเมืองจะต้องเป็นของประชาชนบริหารโดยประชาชน เรากับ กปปส.มีความคิดเห็นเช่นนี้ แต่เราไม่ มีที่ไปแสดง เราก็เฉยๆ
เมื่อถามว่า ในร่างรัฐธรรมนูญบางส่วนที่ออกมา จะมีคำว่า พรรคการเมือง และกลุ่มการเมือง นั้น พระสุเทพ กล่าวว่า "เราก็ไม่แน่ใจว่าเขาต้องการอะไร ประเทศต้องไปด้วยการเมือง การทำการเมืองต้องทำโดยพรรคการเมือง ในรูปแบบพรรคการเมือง ใครจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ ในที่สุดมันก็คือพรรค และถ้าปล่อยให้คน 5 คน 8 คน รวมตัวกันเป็นกลุ่มการเมืองได้ก็จะทำให้การเมืองไม่แข็งแรง เกิดความเละเทะทางการเมืองเป็นผลร้ายต่อสังคมไทย"
พระสุเทพ กล่าวต้อว่า นอกจากแก้เรื่องพรรคการเมืองแล้ว ก็ต้องแก้เรื่องการเลือกตั้ง ต้องเขียนในรัฐธรรมนูญเลยว่า สิทธิเลือกตั้ง เป็นสิทธิของพลเมือง ถ้าผู้ใดจะละเมิดบิดเบือนทำให้เกิดความสูญเสียบริสุทธิ์ไม่ได้ เป็นสิทธิที่ได้แสดงออกด้วยความบริสุทธ์และประโยชน์ของชาติและประชาชนชน ไม่ใช่ไปบิดเบือนผลของการแสดงออก ซึ่งสิทธิของประชาชน เช่นการซื้อสิทธิขายเสียง การโกงการเลือกตั้ง การชี้ อิทธิพลไปบังคับ อย่างนี้ผิด ก็ต้องไปเขียนกฎหมายเลือกตั้งใหม่ ว่า การเลือกตั้งต้องบริสุทธิ์ การซื้อสิทธิข่ายเสียงเป็นการทำลายหลักการของประชาธิปไตย ถือว่ามีความผิด คนที่ ทำลายหลักการประชาธิปไตย คนซื้อ และคนขายสิทธิจะต้องมีความผิด ถ้าใครรู้เห็นเพราะฉะนั้น เรื่องการปฏิรูปการเมือง เรื่องหลักควรเริ่มจาก พรรคการเมือง และการเลือกตั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น