“สาทิตย์” เผยในสัมมนาปฏิรูปพรรคการเมือง ต้องป้องกันกลุ่มทุนครอบงำพรรค-ทุจริต แนะเขียน กม.ให้ชัด ใช้ไพรมารีโหวตส่ง ส.ส. เปิดช่องให้ ปชช.บริจาคภาษีให้พรรคเพิ่ม ค้านกลุ่มการเมืองส่ง ส.ส. อ้างคุมไม่ได้ สร้างปัญหา
วันนี้ (26 มี.ค.) คณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปการเมือง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่มีนายอมร วาณิชวิวัฒน์ สมาชิก สปช.เป็นประธาน ได้จัดสัมมนาเรื่อง “การปฏิรูประบบพรรคการเมืองเพื่อการปฏิรูปการเมือง” โดยเชิญตัวแทนจากกลุ่มการเมืองและพรรคการเมืองเข้าร่วม เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะวิธีการแก้ไขปัญหา
โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กล่าวตอนหนึ่งว่า ประเด็นสำคัญต่อการแก้ไขประเด็นนี้ คือ ต้องตีโจทย์การปฏิรูปการเมือง เพื่ออะไร เนื่องจากประเทศไทยพรรคการเมืองส่วนใหญ่อยู่ใต้การครอบงำของกลุ่มทุนที่ใช้พรรคเป็นเครื่องมือในการทุจริต จึงต้องมาหาทางป้องกันไม่ให้กลุ่มทุนเข้ามาอยู่ในพรรค และต้องตั้งโจทย์ว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีพรรคการเมืองหรือไม่ ถ้าพรรคจำเป็น ในระบบพรรคการเมือง ก็ต้องป้องกัน
ส่วนวิธีการป้องกัน 1. ต้องเขียนกฎหมายให้รัดกุมในการจดตั้งพรรคการเมือง และมีฐานที่มาจากประชาชน ไม่ใช่กลุ่มทุน 2. กระบวนการมีส่วนร่วมภายในพรรคการเมือง เช่น การส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ใช่สิทธิขาดอยู่ที่กรรมการบริหารพรรค แต่ควรใช้ระบบไพรมารีโหวต และ 3. รัฐต้องสนับสนุนพรรคการเมือง ให้ยึดโยงกับประชาชน เช่น การเสียภาษีของประชาชนให้พรรคการเมือง ซึ่งเดิมให้รายละ100 บาท สำหรับคนที่รวยหรือพร้อมจ่าย ให้มากกว่านั้นได้หรือไม่ แต่เริ่มต้นกำหนดที่ 100 บาท และต้องทำอย่างเปิดเผย เพื่อแสดงความบริสุทธิ์
ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยต่อการสนับสนุนให้มีกลุ่มการเมืองส่ง ส.ส.เข้ามาในสภา เพราะไม่สามารถควบคุมกลุ่มการเมืองเหล่านี้ได้เลย แม้ว่ากรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ อ้างว่าสร้างกลุ่มการเมืองเพื่อคานอำนาจกับพรรคการเมืองในสภา แต่ท้ายที่สุดก็จะสร้างปัญหาใหม่ให้เกิดขึ้น อีกทั้ง ไม่สามารถควบคุมกลุ่มการเมืองได้ เพราะเคยเกิดปัญหามาแล้วในอดีต เช่น การซื้อขายเสียง ส.ส.ไม่สังกัดพรรค จึงไม่มีหลักประกันใดๆเลยในการควบคุมกลุ่มการเมืองที่เข้ามา
