ปิดพีซทีวี "ทิดเพชร” เผ่น "ตู่-เต้น"ดิ้นสู้

ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -สัญญาณลอยแพกลุ่มคนเสื้อแดงจากนายใหญ่ผู้อยู่แดนไกลยิ่งมายิ่งชัด เพราะหากไม่ทิ้งกันมีหรือที่จะปล่อยให้ช่องทีวีดาวเทียม พีซ ทีวี - Peace TV กระบอกเสียงสำคัญในการปลุกเร้ามวลชนคนเสื้อแดงฐานเสียงพรรคเพื่อไทยถูกปิดตายถาวร งานนี้สปอนเซอร์ใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง และแกนนำแดงฮาร์ดคอร์ เจ้าของสถานีต้องแตกกระเจิงกันไปคนละทิศละทาง

สปอนเซอร์ใหญ่ที่ว่ากันว่าชื่อ พระครูวินัยธร (พชร) ฐานกโร หรืออาจารย์เพชร อดีตเจ้าอาวาสวัดประยงร์กิตติวนาราม ถนน ประชาสำราญ แขวงคลองสิบสอง เขตหนองจอก กรุงเทพฯ หลังจากลาสิกขาตั้งแต่คราวที่พีซ ทีวี เจอสั่งปิดชั่วคราวตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. 2588 ก็หลบลี้หนีหายเข้ากลีบเมฆถึงป่านนี้ยังไม่โผล่

จะมีก็แต่คู่หู “ตู่-เต้น” นายจตุพร พรหมพันธุ์ กับ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เท่านั้นที่ยังดิ้นรน แต่ดูท่ายิ่งดิ้นก็ยิ่งถูกมัดแน่น รูปการณ์ ณ เวลานี้ หากใครคิดสู้ก็คงต้องสู้อย่างโดดเดี่ยว เพราะทั้งน้องสาวนายใหญ่ แกนนำพรรคคนสำคัญ ล้วนถูกล็อกเป้าหมาย เจอบ่วงมัดคอไว้แล้ว

ที่น่าสนใจคือ หากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่มั่นใจว่าจะ “เอาอยู่” มีหรือที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2558จะกล้าลงมติแบบลัดคิวฟันด้วยเสียง 4:1

และหนึ่งเดียวที่ไม่เห็นชอบคือ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกสท. ก็โพสต์ทวิตเตอร์ว่า การลงมติคราวนี้ไม่ผ่านอนุกรรมการ ไม่ผ่านขั้นตอนตามกระบวนการกฎหมายปกติของ กสทช. มาตรา 37ในการพิจารณาโทษก่อน แต่อ้างเหตุฉุกเฉินอ้างขัดคำสั่งคสช. และขัดเอ็มโอยูที่ตกลงกันไว้แทน

อย่างไรก็ตาม พ.อ.นที ศกุลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ @DrNateeDigitalว่า ในการประชุมบอร์ด กสท. เมื่อวันที่ 27เม.ย. กสท.ได้พิจารณาข้อร้องเรียนในการออกอากาศของช่องรายการพีซ ทีวี (เอเชียอัพเดตเดิม) ซึ่งไม่เป็นไปตามบันทึกข้อตกลงที่ทาง บริษัท พีซ เทเลวิชั่น จำกัด ทำไว้กับทาง กสทช. โดยจะไม่ออกอากาศเนื้อหาที่ส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่น ให้เกิดความขัดแย้ง สร้างความแตกแยก ซึ่งหลังการพิจารณาแล้ว บอร์ด กสท.ได้มีมติให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ
    
เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า กรรมการกสท. ที่อธิบายความว่า ช่องรายการ พีซ ทีวี กระทำที่ฝ่าฝืนข้อตกลงมาตลอด ที่ผ่านมา กสทช. ก็ได้ตักเตือนทำความเข้าใจในระดับของอนุกรรมการด้านเนื้อหารายการ ของ กสทช. หลายครั้ง ตั้งแต่ต.ค. 2557แต่ พีซ ทีวี ก็ยังคงนำเสนอเนื้อหาในลักษณะเช่นเดิมจนอนุกรรมการฯได้เสนอ กสท. พิจารณาข้อร้องเรียนของ พีซ ทีวี เมื่อ23มี.ค.ที่ผ่านมา และกสท.ได้มีมติในการประชุมเมื่อ23มี.ค.ให้ ตักเตือน พีซ ทีวี เป็นลายลักษณ์อักษรให้ปฏิบัติตามกฎหมาย และที่กำหนดในข้อตกลง แต่ พีซ ทีวี ก็ยังคงออกอากาศรายการที่ยังขัดต่อข้อตกลงดังกล่าวอีก

จนกระทั่ง กสท. ได้มีมติในการประชุมเมื่อ30มี.ค. 2558ให้พักใช้ใบอนุญาตชั่วคราว โดยการพักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการดังกล่าวส่งผลให้ พีซ ทีวี ต้องยุติการออกอากาศเนื้อหารายการตั้งแต่ 10 -17เม.ย. 2558ต่อมา เมื่อ พีซ ทีวี ออกอากาศอีกครั้งใน 18 เม.ย. 2558 มีเนื้อหาละเมิดต่อข้อตกลงฯ ในลักษณะเช่นเดิม จึงนำไปสู่การนำเสนอวาระต่อที่ประชุม กสท. เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2558 และที่ประชุม กสท. มีมติให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการฯ

หลังจากที่ กสท. มีมติข้างต้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้บริหารสถานีพีซ ทีวี ก็เต้นเป็นเจ้าเข้า ลั่นวาจาจะต่อสู้ชนิดถวายหัวทั้งจะยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ไปจนถึงการถวายฎีกา

เช่นเดียวกับนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เลขาธิการนปช. ที่ตอบโต้ผ่านรายการ “เข้าใจตรงกันนะ” ของ พีซ ทีวี เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2558ทำนองว่า สื่อทีวีของตนไม่ได้นำเสนอเนื้อหาที่สร้างความแตกแยก หากคิดแบบผู้มีอำนาจคงเป็นประเทศหุ่นยนต์ การกระทำครั้งนี้ผู้มีอำนาจมีธงไว้แล้ว ทั้งยังท้าทายด้วยว่าเมื่อไม่มีสถานีดาวเทียมออกอากาศก็จะเคลื่อนไหวผ่านช่องทางอื่นแทน

“เอาเป็นว่าปิดพีซ ทีวี คราวนี้รู้กันทั้งโลก เรามีหัวใจ เราจัดรายการ ก็พูดตรงนี้ตลอด ไม่มีเกมใต้ดิน คิดอย่างไรก็ดูจากตรงนี้ เขาขอให้เราเสวนาเราก็ไปจะปีแล้ว พอแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ก็หาเรื่องทะเลาะกับเรา”

แล้วคู่หูฮาร์ดคอร์ก็ปฏิบัติการท้าทายอำนาจ คสช. และคำสั่งปิดสถานี เพิกถอนใบอนุญาต โดยวันที่ 29 เม.ย. พีซ ทีวี ได้เชิญพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย มาออกรายการ ซึ่งพล.อ.ชวลิต ถือโอกาสนี้เคลียร์ตัวเองจากเหตุการณ์ระเบิดลานจอดรถชั้นใต้ดินห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ วันนั้นที่ไปสุราษฎร์ธานี เพื่อไปงานครบรอบ 28 ปียุทธการเขาช่องช้าง ไปพบชาวบ้านที่กลับใจคืนอาวุธตามนโยบาย 66/23

และในคืนวันนั้นเอง เฟชบุ๊ก “TV 24 สถานีประชาชน” ของคนเสื้อแดง ก็โพสต์ภาพพร้อมข้อความในเวลาประมาณ 21.30 น. ว่าเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจนอกเครื่องแบบจากสน.โชคชัย บุกสถานี พีซ ทีวี และสอบถามถึงเรื่องที่ พล.อ.ชวลิต มาออกรายการทั้งที่ กสท. มีมติเพิกถอนใบอนุญาตแล้ว และขอให้งดนำเทปสัมภาษณ์พล.อ.ชวลิต มาเผยแพร่ซ้ำ ซึ่งนายจตุพร มีแต่ต้องยินดีทำตามคำขอ

กล่าวสำหรับเส้นทางของสถานีโทรทัศน์ช่องพีซ ทีวี ซึ่งมีชื่อเดิมว่า “ยูดีดีทีวี” ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปลายปี พ.ศ. 2556 ส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมไทยคม C-band ความถี่ 3880 MHz แนวการรับ V Symbol rate 30000KsPs โดยยูดีดีทีวี ถือว่าเป็นกระบอกเสียงของกลุ่มนปช. ภายหลังจากที่เกิดความเห็นไม่ลงรอยกันระหว่างส.ส.กลุ่มพรรคเพื่อไทย กับแกนนำ นปช. กรณีนิรโทษกรรมสุดซอย ทำให้แกนนำ นปช. หลุดจากผังช่องเอเชียอัพเดท (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น"TV 24 สถานีประชาชน") และมาทำช่องทีวีดาวเทียมของตนเอง ผลงานโด่งดังของยูดีดีทีวี คือถ่ายทอดสดการชุมนุมของกลุ่มนปช. ที่ถนนอักษะ เมื่อปี พ.ศ. 2556

ภายหลังการรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. และได้ประกาศคำสั่งฉบับที่ 97/2557 และ 103/2557 ที่ตักเตือนให้มีการปรับผังรายการ เพื่อให้เนื้อหาไม่ส่อไปในทางยั่วยุ ปลุกปั่น จึงทำให้ธุรกิจทีวีดาวเทียมที่นำเสนอข่าวการเมือง ซึ่งรวมถึงช่อง ยูดีดีทีวี ต้องปรับผังรายการเพื่อความเหมาะสม และเปลี่ยนชื่อสถานีทีวีดาวเทียมใหม่ จาก “ยูดีดีทีวี” เป็น “พีซ ทีวี”

จากนั้นมา สถานีโทรทัศน์ช่องพีซทีวี ก็ถดถอยโฆษณาก็หดหายไม่เหมือนแต่ก่อน ทว่าอยู่รอดมาได้ เพราะว่ากันว่ามีนายทุนสนับสนุนหลัก คือ พระครูวินัยธร (พชร) ฐานกโร หรืออาจารย์เพชร อดีตเจ้าอาวาสวัดประยงค์กิตติวนาราม ที่มีชื่อเสียงในตลาดหุ้น

“ประชา บูรพาวิถี” หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เขียนถึง “ทิดเพชร” เอาไว้ว่า เป็นผู้สนับสนุนนายจตุพร ก่อตั้งบริษัท รวยทันที จำกัด ร่วมกับ นายพรศักดิ์ ศรีละมุล อดีตพิธีรายการทีวีกลุ่มคนเสื้อแดง ที่รู้จักมักคุ้นกับนายจตุพร มาตั้งแต่สมัยตั้งพรรคศรัทธาธรรม มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยทิดเพชร เป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช และเป็นพระกรรมฐานสายเมืองเหนือ สายธรรมครูบาบุญชุ่ม ครูบาอริยชาติ

สายสัมพันธ์ระหว่างทิดเพชร กับนายจตุพร จึงนับว่ามีความแนบแน่น ซึ่งนายจตุพร ถึงกับบอกว่าให้ความเคารพนับถือเสมือนพี่น้องคลานตามกันมา สมัยที่นายจตุพร เป็นหัวแรงในการก่อสร้างหลวงปู่ทวดที่ใหญ่ที่สุดในโลกในอาณาจักรโบนันซ่า เขาใหญ่ ก็ได้ทิดเพชรเป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ให้ในการวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 56 นอกจากนั้น ในงานวันเกิดครบ 48 ปีของนายจตุพร 5 ต.ค. 2556 ทิดเพชรก็ยังเป็นผู้สวดเสริมบารมีให้แก่นายจตุพร อีกด้วย

ทิดเพชร ที่เป็นสปอนเซอร์ใหญ่ พีซ ทีวี สึกวันเดียวกับที่พีซ ทีวี ถูก คสช.สั่งปิดชั่วคราว และบินไปฮ่องกงเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2558จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่กลับ และหน่วยความมั่นคงกำลังตามล่าตัว

วันนี้ ทั้งแกนนำ นปช. สถานีพีซ ทีวี รวมทั้งทิดเพชร กำลังถูกคสช.ลงดาบ ขุดราก ถอนโคน

ทว่า เสียงจาก “นายใหญ่” ยังคงเงียบ