เลื่อนนัดตรวจหลักฐาน “สุเทพ” หมิ่นแกนนำ นปช.เป็นผู้ก่อการร้ายเผาเมือง

ศาลเลื่อนการตรวจพยานหลักฐาน คดี “สุเทพ” หมิ่นแกนนำ นปช.เป็นผู้ก่อการร้ายเผาบ้านเผาเมือง ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยได้รับเสียหายไปเป็นวันที่ 26 ก.ย.

วันนี้ (17 ส.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 813 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การ ตรวจพยานหลักฐานคดีหมายเลขดำ ที่ 1878/2558 ที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา จากกรณีที่ นายสุเทพได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2554 ที่โรงแรมทำนองว่า นายแพทย์เหวง โตจิราการ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สมาชิกพรรคเพื่อไทยเเละ แกนนำ นปช.ทำนองว่าเป็นผู้ก่อการร้ายเผาบ้านเผาเมือง ในช่วงที่จะมีการจัดให้มีการเลือกตั้ง ทำให้ทั้งสามเเละพรรคเพื่อไทยได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ขอให้ลงโทษตาม ป.อาญา มาตรา 326, 328 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ปี 2550

โดยวันนี้นายสุเทพจำเลยพร้อมทนายความเดินทางมาศาล ซึ่งศาลอธิบายคำฟ้องและสอบคำให้การเเล้ว นายสุเทพให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี อัยการโจทก์และทนายจำเลยได้ขึ้นแถลงต่อศาลว่าเนื่องจากในคดีนี้มีพยานหลักฐานเป็นซีดี บันทึกเสียงและภาพเคลื่อนไหว ต้องรอการถอดเทปเป็นพยานเอกสารจึงขออนุญาตให้เลื่อนการตรวจพยานหลักฐานออกไปเป็นเวลา 2 เดือน

ขณะที่ฝ่ายจำเลยยังได้แถลงอีกว่า บรรยายฟ้องที่โจทก์ฟ้องหมิ่นประมาทนั้นเป็นการให้สัมภาษณ์เมื่อในวันที่ 22 พ.ค. 2554 จริง แต่เป็นการตอบคำถามหลายคำถามต่อผู้สื่อข่าวหลายคน แต่โจทก์นำมาเรียบเรียงเสมือนเป็นคำพูดในคราวเดียวกันซึ่งจำเลยมีคลิปภาพเสียงยืนยันข้อเท็จจริงดังกล่าวซึ่งเป็นหลักฐานที่จะพิสูจน์ความจริงได้ โดยเบื้องต้นจำเลยได้ระบุพยานไว้จำนวนหนึ่งแต่อาจจะมีการขอแถลงเพิ่มเติมพยานหลังจากที่เตรียมพยานวัตถุเสร็จเรียบร้อยแล้วในนัดหน้า ส่วนฝ่ายโจทก์ยื่นขอสืบพยานไว้จำนวน 18 ปากประกอบด้วยประชาชนผู้ได้รับฟังการสัมภาษณ์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ที่ลงบทสัมภาษณ์ และพนักงานสอบสวน

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีนี้เป็นคดีหมิ่นประมาทซึ่งภาพและเสียงเป็นข้อมูล จึงเห็นว่ามีความจำเป็น กรณีมีเหตุสมควรที่จะให้คู่ความได้รวบรวมพยานหลักฐานเอกสาร และทอดเทปเสียงภาพเคลื่อนไหว จึงให้เลื่อนการตรวจพยานหลักฐานออกไปเป็นวันที่ 26 ต.ค. 2558 เวลา 09.00 น.

ส่วนที่จำเลยยื่นคำร้องขอนุญาตให้สืบพยานลับหลังจำเลยนั้น ศาลเห็นว่าคดีมีอัตราโทษไม่เกิน 10 ปี และจำเลยมีทนายความเดินทางมาศาลรวมทั้งอัยการโจทก์ไม่ได้คัดค้าน ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้จำเลยไม่ต้องเดินทางมาศาลในวันนัดสืบพยานเว้นแต่จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ภายหลังออกจากห้องพิจารณาคดีนายสุเทพเดินทางกลับโดยที่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด