รองนายกฯ และรมว.กลาโหม บอกข้อเสนอใช้ รธน.ไปก่อน 5 ปี ค่อยแก้ต้องทำกฎหมายให้ผ่านเสียก่อน แล้วค่อยว่ากันตามโรดแมป ยังไม่รู้รายละเอียด ม.181-182 ขึ้นอยู่กับ กมธ.ยกร่างฯ พิจารณา แต่ขอศึกษาก่อน ยันไม่เคยคิดสืบทอดอำนาจ ห่วงแต่ปฏิรูปประเทศให้เดินหน้า จึงต้องทำให้ชัดเจน ปัด 2 กก.ใหม่มีอำนาจเหนือกว่าฝ่ายบริหาร ถ้า กม.ไม่ผ่านก็ว่ากันไปตาม รธน.ชั่วคราว บอกต้องทำให้คนส่วนใหญ่ยอมรับได้แม้เสียเวลาไปบ้าง ยักไหล่ “ณัฐวุฒิ” หาที่จ้อใหม่ จ่อใช้เรือขนของช่วยเนปาลแทน
วันนี้ (29 เม.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 09.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ออกมาระบุว่าให้ใช้รัฐธรรมนูญไปก่อน 5 ปีแล้วค่อยว่าแก้ไขว่า เรื่องนี้ต้องให้รัฐธรรมนูญผ่านเสียก่อนแล้วค่อยว่าตามโรดแมปตามขั้นตอน เพราะเป็นเรื่องของทางสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.ยกร่างฯ) จะแก้ไขกันอย่างไร และจากนั้นก็จะส่งไปให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะรัฐมนตรีไปดู ศึกษา และมีข้อคิดเห็นอย่างไร จะไม่แก้ไขตามคำแนะนำหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับ สปช. และ กมธ.ยกร่างฯ ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทาง สปช.จะให้ผ่านหรือไม่ผ่านก็ ไม่รู้เลย เป็นเรื่องของอนาคตข้างหน้า ทั้งนี้ตนเองยังไม่เห็นร่างรัฐธรรมนูญ สำหรับข้อทวงติงในมาตรา 181 กับมาตรา 182 ที่ให้อำนาจนายกฯ นั้น ตนก็ยังไม่รู้รายละเอียดอีกเช่นกัน ทั้งนี้ในเรื่องของอำนาจหน้าที่ขึ้นอยู่กับ กมธ.ยกร่างฯ เป็นผู้พิจารณา ก็ขอให้ตนศึกษาร่างรัฐธรรมนูญก่อน ส่วนจะแก้ไขหรือไม่แก้ไขก็อีกเรื่องหนึ่ง
เมื่อถามว่า ถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านจะเป็นการสืบทอดอำนาจให้ คสช.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็แล้วแต่คุณจะคิด แต่ คสช.ไม่เคยคิดที่จะสืบทอดอำนาจ จะเปิดช่องหรือไม่เปิดช่อง ตนไม่รู้ แต่ คสช.ห่วงการปฏิรูปประเทศ ที่เราทำอยู่ทุกวันก็เพื่อให้อนาคตของประเทศเดินไปข้างหน้าได้ จะต้องมีการปฏิรูปให้เกิดความชัดเจน ถ้าทำไปแล้วไม่มีความชัดเจนจะทำไปทำไม
เมื่อถามย้ำว่า ร่างรัฐธรรมนูญในภาคที่ 4 ที่ตั้งคณะกรรมการปฏิรูปและคณะกรรมการยุทธศาสตร์มีอำนาจเหนือฝ่ายบริหาร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนว่าไม่น่าจะไปด้วยกัน ยุทธศาสตร์ก็ส่วนยุทธศาสตร์ ปฏิรูปก็ส่วนปฏิรูป แล้วฝ่ายบริหารก็บริหารไป โดยคณะกรรมการทั้งสองคณะจะมีอำนาจเหนือกว่าฝ่ายบริหารอย่างไร ตนไม่รู้ เวลาถามอะไรก็คิดกันหน่อย
เมื่อถามว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านความเห็นชอบของ สปช.จะมีการตั้ง กมธ.ยกร่างฯ และสปช.ขึ้นใหม่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ก็ต้องว่าตามรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 ที่เขียนไว้ ถ้าไม่ผ่านจะดำเนินการอย่างไร มันมีขั้นตอนการปฏิบัติอยู่ก็ต้องว่าไปตามนั้น อย่าเพิ่งไปคิดอะไรมาก ตนเองคาดการณ์อะไรต่างๆ ไม่ได้ อีกทั้งเป็นไปตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามโรดแมป
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะค่อนข้างจะมีปัญหา รองนายกฯ กล่าวว่า “ต่างคนก็ต่างคิด แต่ทั้งหมดผมว่าทั้ง กมธ.ยกร่างฯ สปช. รวมทั้งประชาชนว่าจะทำอย่างไรให้มองภาพในอนาคตของประเทศชาติเดินไปข้างหน้าได้ และให้เจริญทัดเทียมนานาชาติได้ ถ้าเราไปท้วงติงอะไรมากมันก็จะเดินไปไม่ได้ เมื่อไม่ได้ก็ต้องทำกันให้เท่านั้นเอง ผมคิดว่ามันต้องเดินไปข้างหน้าได้ เพราะยังมีเวลา เราต้องช่วยกันคนไทยทั้งหมดต้องช่วยกัน แม้จะเสียเวลาไปบ้างก็ต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อให้คนส่วนใหญ่ยอมรับได้เป็นเรื่องสำคัญ”
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ปิดช่องพีซทีวี แล้วนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ออกมาระบุก็จะไปพูดในสถานที่อื่นว่า อะไรที่ผิดก็ปิดไป ต้องเป็นไปตามนั้น ส่วนที่นายณัฐวุฒิบอกว่าถ้าปิดช่องแล้วจะไปพูดที่อื่นนั้นตนคิดว่าก็ตามใจเขา จะไปพูดที่ไหนก็ไป แต่ตอนนี้ คสช.ต้องการความปรองดอง และให้ประเทศชาติเดินไปให้ได้ เมื่อเราก้าวถึง 6 เดือนแล้ว และรัฐบาลก็พยายามทำทุกอย่างที่รุมเร้ามาในอดีต เราก็พยายามแก้ไขไปทุกอย่าง
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาลของรัฐบาลผ่านกองทัพว่า ขณะนี้มีสิ่งของที่หน่วยงานต่างๆ และประชาชนนำมาบริจาคมีจำนวนมาก ตนคิดว่าจะขนย้ายลำบากใช้เครื่องบินไปแต่ละรอบก็ลำบาก แต่อาจจะมีการขนส่งทางเรือแทน ขณะนี้กำลังดำเนินการกันอยู่ ส่วนจะมอบหมายให้กองทัพเรือหรือไม่นั้น ก็ต้องไปดูว่ากองทัพเรือจะจัดเรือไปจะคุ้มกับค่าใช้จ่ายหรือไม่ เพราะสิ่งของมันเยอะ