ASTVผู้จัดการรายวัน - เศรษฐกิจไตรมาสที่ 1 ยังอ่อนแอ การฟื้นตัวเปราะบาง แม้การใช้จ่ายการลงทุนของภาครัฐมีมากขึ้น การท่องเที่ยวขยายตัวดี เผยเดือนมีนาคมครัวเรือนชะลอการบริโภค ดอกเบี้ยต่ำแต่ไม่ช่วยเพิ่มการผลิต-ลงทุน มูลค่าการส่งออกสินค้าที่ปรับฤดูกาลแล้วลดลงเกือบทุกหมวด แบงก์ชาติเดินหน้ากดเงินบาทอ่อนค่าด้วยการขยายเพดานลงทุน-ซื้ออสังหาฯ ต่างประเทศ
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการ ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจเดือนมีนาคม 2558 ว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจหลายตัวปรับลดลงจากเดือนก่อน สะท้อนความเปราะบางของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยครัวเรือนชะลอการบริโภค ธุรกิจลดการผลิตและการลงทุนลง ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าที่ปรับฤดูกาลแล้วลดลงในเกือบทุกหมวด โดยรวมแล้วเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 จึงยังอ่อนแอ แม้การใช้จ่ายด้านการลงทุนของภาครัฐจะมีมากขึ้น และภาคการท่องเที่ยวจะขยายตัวดี ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ราคาน้ำมันโลกที่อยู่ในระดับต่ำและอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอลงส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลงและดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่อง
โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าหลังปรับฤดูกาลลดลงในเกือบทุกหมวด เพราะได้รับผลกระทบมากขึ้นจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนและอาเซียน รวมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่นที่ยังเปราะบาง ประกอบกับราคาสินค้าส่งออกหลายหมวด อาทิ ปิโตรเลียม ยางพารา และเคมีภัณฑ์ ยังอยู่ในระดับต่ำตามทิศทางราคาน้ามันดิบ มูลค่าการส่งออกสินค้าในไตรมาสแรกของปีจึงหดตัวสูงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน"
ผอ.ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงินกล่าวว่า การบริโภคภาคเอกชนค่อนข้างอ่อนแอ โดยครัวเรือนชะลอการใช้จ่าย เนื่องจากรายได้และ การจ้างงานในภาคที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกลดลง รายได้เกษตรกรต่ำลงทั้งจากผลผลิตที่ออกมาน้อยและราคาสินค้าเกษตรที่ยังตกต่ำ รวมทั้งความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงต่อเนื่อง เมื่อผนวกกับภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูง และการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังของสถาบันการเงิน ส่งผลให้การใช้จ่ายสินค้าหมวดไม่คงทนที่ไม่รวมเชื้อเพลิง หมวดสินค้ากึ่งคงทนและหมวดบริการลดลง และการใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนโดยเฉพาะการซื้อรถยนต์ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ
อุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ลดลงทำให้ธุรกิจลดการผลิตและการลงทุนลง แม้ต้นทุนทางการเงินจะต่ำลงบ้างจากผลของการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงในทุกกลุ่มสินค้า ทั้งในกลุ่มที่ขายในประเทศ อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม และวัสดุก่อสร้าง รวมถึงกลุ่มที่ผลิตเพื่อส่งออก อาทิ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์
ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนลดลงเช่นกัน ตามการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ ส่วนการลงทุนในด้านก่อสร้างทรงตัว เพราะผู้ประกอบการบางส่วนรอประเมินทิศทางการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แผ่วลงทำให้การนำเข้าสินค้าลดลงจากเดือนก่อน ทั้งสินค้าทุน วัตถุดิบ (ไม่รวมน้้ำมันดิบ) และสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะที่การนำเข้าน้ำมันดิบที่เคยลดลงมากในช่วงก่อนหน้าเริ่มทรงตัวตามราคาน้ามันโลกที่เริ่มมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้น
นายดอนระบุว่า แรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายภาครัฐและภาคการท่องเที่ยวมีมากขึ้น โดยเม็ดเงินการใช้จ่ายภาครัฐมีมากขึ้นจากการซื้อสินค้าและบริการ รวมถึงการลงทุนที่มีการเบิกจ่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านคมนาคม ขนส่งและชลประทาน ขณะที่รายได้รัฐบาลเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการปรับขึ้นอัตราจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเป็นส้าคัญ ส้าหรับภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวดีจากการเดินทางท่องเที่ยวของชาวจีนและมาเลเซียเป็นหลัก
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราการว่างงานปรับสูงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ราคาน้ำมันโลกที่อยู่ในระดับต่ำและอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอลงส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลงและดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่อง ส้าหรับดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลเล็กน้อยจากการออกไปลงทุนในต่างประเทศของนักลงทุนไทย โดยเฉพาะ การลงทุนโดยตรง ซึ่งมากกว่าการไหลเข้าของเงินลงทุนโดยตรงและเงินลงทุนในหลักทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ โดยรวมแล้วดุลการชำระเงินเกินดุล
"เศรษฐกิจไตรมาส 1/2558 ยังอ่อนแอ ตามการส่งออกสินค้าและการใช้จ่ายภาคเอกชนที่ลดลง ซึ่งมีส่วนท้าให้การว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ภาครัฐใช้จ่ายมากขึ้นโดยเฉพาะด้านการลงทุน และ ภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวต่อเนื่อง" นายดอนกล่าวและว่า ราคาน้ำมันโลกที่อยู่ในระดับต่ำและเศรษฐกิจที่อ่อนแอส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอลง รวมทั้งดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่อง ส่วนดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายยังคงขาดดุลจากการออกไปลงทุนในต่างประเทศของนักลงทุนไทยเป็นสำคัญ แต่โดยรวมดุลการชำระเงินเกินดุล ขณะที่เงินสำรองระหว่างประเทศต่อหนี้ระยะสั้นอยู่ในเกณฑ์มั่นคง
***ขยายเพดานลงทุน-ซื้ออสังหาฯ ตปท.
เมื่อวานนี้ (30 เม.ย.) นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ประกาศมาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศเพิ่ม เพื่อช่วยนักลงทุนไทยลงทุนในต่างประเทศสะดวกมากขึ้น เพราะเมื่อนักลงทุนไทยซื้อดอลลาร์สหรัฐและไปลงทุนต่างประเทศก็จะมีผลต่อค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนการส่งออกของไทยควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างการผลิตของภาคเอกชนให้มีเทคโนโลยีผลิตสินค้าตามความต้องการของตลาดโลก
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักของการออกมาตรการ คือ การพัฒนาให้ตลาดเงินมีความสมบูรณ์ ซึ่งแผนดังกล่าวดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2555 สำหรับแพ็คเกจดังกล่าว ธปท.ขยายวงเงินให้บุคคลในประเทศซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อฝากกับสถาบันการเงินในประเทศได้ โดยมียอดคงค้างไม่เกิน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมไม่เกิน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ, ขยายวงเงินให้บุคคลในประเทศโอนเงินออกเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศได้ไม่เกินปีละ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
"เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน ธปท.จึงอนุญาตให้บุคคลในประเทศสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศผ่านธนาคารพาณิชย์ได้ และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนมากขึ้น จึงอนุญาตให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถเป็นนายหน้าซื้อขายเงินตราต่างประเทศ รวมทั้งอนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจด้านการสื่อสารโทรคมนาคมให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศได้ด้วย"
นอกจากนี้ ธปท.ยังเตรียมมาตรการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาท โดยขยายวงเงินให้ผู้ที่มีถิ่นฐานอยู่นอกประเทศสามารถกู้ยืมเงินบาทจากสถาบันการเงิน โดยไม่มีการค้าการลงทุนในประเทศไทยได้ไม่เกิน 600 ล้านบาท จากเดิมกำหนดไว้ที่ 300 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ และอนุญาตให้ผู้ประกอบการในต่างประเทศกู้เงินบาทได้ เพื่อลงทุนในประเทศไทย ยกเว้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และหลักทรัพย์ เพื่อเป็นการรองรับการขยายการลงทุนระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านที่จะมีเพิ่มขึ้น
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการ ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจเดือนมีนาคม 2558 ว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจหลายตัวปรับลดลงจากเดือนก่อน สะท้อนความเปราะบางของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยครัวเรือนชะลอการบริโภค ธุรกิจลดการผลิตและการลงทุนลง ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าที่ปรับฤดูกาลแล้วลดลงในเกือบทุกหมวด โดยรวมแล้วเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 จึงยังอ่อนแอ แม้การใช้จ่ายด้านการลงทุนของภาครัฐจะมีมากขึ้น และภาคการท่องเที่ยวจะขยายตัวดี ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ราคาน้ำมันโลกที่อยู่ในระดับต่ำและอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอลงส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลงและดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่อง
โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าหลังปรับฤดูกาลลดลงในเกือบทุกหมวด เพราะได้รับผลกระทบมากขึ้นจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนและอาเซียน รวมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่นที่ยังเปราะบาง ประกอบกับราคาสินค้าส่งออกหลายหมวด อาทิ ปิโตรเลียม ยางพารา และเคมีภัณฑ์ ยังอยู่ในระดับต่ำตามทิศทางราคาน้ามันดิบ มูลค่าการส่งออกสินค้าในไตรมาสแรกของปีจึงหดตัวสูงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน"
ผอ.ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงินกล่าวว่า การบริโภคภาคเอกชนค่อนข้างอ่อนแอ โดยครัวเรือนชะลอการใช้จ่าย เนื่องจากรายได้และ การจ้างงานในภาคที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกลดลง รายได้เกษตรกรต่ำลงทั้งจากผลผลิตที่ออกมาน้อยและราคาสินค้าเกษตรที่ยังตกต่ำ รวมทั้งความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงต่อเนื่อง เมื่อผนวกกับภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูง และการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังของสถาบันการเงิน ส่งผลให้การใช้จ่ายสินค้าหมวดไม่คงทนที่ไม่รวมเชื้อเพลิง หมวดสินค้ากึ่งคงทนและหมวดบริการลดลง และการใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนโดยเฉพาะการซื้อรถยนต์ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ
อุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ลดลงทำให้ธุรกิจลดการผลิตและการลงทุนลง แม้ต้นทุนทางการเงินจะต่ำลงบ้างจากผลของการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงในทุกกลุ่มสินค้า ทั้งในกลุ่มที่ขายในประเทศ อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม และวัสดุก่อสร้าง รวมถึงกลุ่มที่ผลิตเพื่อส่งออก อาทิ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์
ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนลดลงเช่นกัน ตามการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ ส่วนการลงทุนในด้านก่อสร้างทรงตัว เพราะผู้ประกอบการบางส่วนรอประเมินทิศทางการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แผ่วลงทำให้การนำเข้าสินค้าลดลงจากเดือนก่อน ทั้งสินค้าทุน วัตถุดิบ (ไม่รวมน้้ำมันดิบ) และสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะที่การนำเข้าน้ำมันดิบที่เคยลดลงมากในช่วงก่อนหน้าเริ่มทรงตัวตามราคาน้ามันโลกที่เริ่มมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้น
นายดอนระบุว่า แรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายภาครัฐและภาคการท่องเที่ยวมีมากขึ้น โดยเม็ดเงินการใช้จ่ายภาครัฐมีมากขึ้นจากการซื้อสินค้าและบริการ รวมถึงการลงทุนที่มีการเบิกจ่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านคมนาคม ขนส่งและชลประทาน ขณะที่รายได้รัฐบาลเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการปรับขึ้นอัตราจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเป็นส้าคัญ ส้าหรับภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวดีจากการเดินทางท่องเที่ยวของชาวจีนและมาเลเซียเป็นหลัก
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราการว่างงานปรับสูงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ราคาน้ำมันโลกที่อยู่ในระดับต่ำและอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอลงส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลงและดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่อง ส้าหรับดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลเล็กน้อยจากการออกไปลงทุนในต่างประเทศของนักลงทุนไทย โดยเฉพาะ การลงทุนโดยตรง ซึ่งมากกว่าการไหลเข้าของเงินลงทุนโดยตรงและเงินลงทุนในหลักทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ โดยรวมแล้วดุลการชำระเงินเกินดุล
"เศรษฐกิจไตรมาส 1/2558 ยังอ่อนแอ ตามการส่งออกสินค้าและการใช้จ่ายภาคเอกชนที่ลดลง ซึ่งมีส่วนท้าให้การว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ภาครัฐใช้จ่ายมากขึ้นโดยเฉพาะด้านการลงทุน และ ภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวต่อเนื่อง" นายดอนกล่าวและว่า ราคาน้ำมันโลกที่อยู่ในระดับต่ำและเศรษฐกิจที่อ่อนแอส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอลง รวมทั้งดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่อง ส่วนดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายยังคงขาดดุลจากการออกไปลงทุนในต่างประเทศของนักลงทุนไทยเป็นสำคัญ แต่โดยรวมดุลการชำระเงินเกินดุล ขณะที่เงินสำรองระหว่างประเทศต่อหนี้ระยะสั้นอยู่ในเกณฑ์มั่นคง
***ขยายเพดานลงทุน-ซื้ออสังหาฯ ตปท.
เมื่อวานนี้ (30 เม.ย.) นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ประกาศมาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศเพิ่ม เพื่อช่วยนักลงทุนไทยลงทุนในต่างประเทศสะดวกมากขึ้น เพราะเมื่อนักลงทุนไทยซื้อดอลลาร์สหรัฐและไปลงทุนต่างประเทศก็จะมีผลต่อค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนการส่งออกของไทยควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างการผลิตของภาคเอกชนให้มีเทคโนโลยีผลิตสินค้าตามความต้องการของตลาดโลก
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักของการออกมาตรการ คือ การพัฒนาให้ตลาดเงินมีความสมบูรณ์ ซึ่งแผนดังกล่าวดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2555 สำหรับแพ็คเกจดังกล่าว ธปท.ขยายวงเงินให้บุคคลในประเทศซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อฝากกับสถาบันการเงินในประเทศได้ โดยมียอดคงค้างไม่เกิน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมไม่เกิน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ, ขยายวงเงินให้บุคคลในประเทศโอนเงินออกเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศได้ไม่เกินปีละ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
"เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน ธปท.จึงอนุญาตให้บุคคลในประเทศสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศผ่านธนาคารพาณิชย์ได้ และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนมากขึ้น จึงอนุญาตให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถเป็นนายหน้าซื้อขายเงินตราต่างประเทศ รวมทั้งอนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจด้านการสื่อสารโทรคมนาคมให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศได้ด้วย"
นอกจากนี้ ธปท.ยังเตรียมมาตรการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาท โดยขยายวงเงินให้ผู้ที่มีถิ่นฐานอยู่นอกประเทศสามารถกู้ยืมเงินบาทจากสถาบันการเงิน โดยไม่มีการค้าการลงทุนในประเทศไทยได้ไม่เกิน 600 ล้านบาท จากเดิมกำหนดไว้ที่ 300 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ และอนุญาตให้ผู้ประกอบการในต่างประเทศกู้เงินบาทได้ เพื่อลงทุนในประเทศไทย ยกเว้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และหลักทรัพย์ เพื่อเป็นการรองรับการขยายการลงทุนระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านที่จะมีเพิ่มขึ้น