xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

จับตาสัมพันธ์ “ไทย-มะกัน” รีเทิร์น หรือ คอนเวิร์ส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เกมการเมืองระหว่างประเทศ ยังสู้กันชนิดช็อตต่อช็อต แก้เกมแลกหมัดกันอย่างหนัก ระหว่างรัฐบาลไทยภายใต้การนำของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”นายกรัฐมนตรี กับ“พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร”หัวขบวนคนเสื้อแดง

หลัง“นช.แม้ว”ลงทุนชนิดจัดหนัก เจียดเงินในบัญชีไปจ้างพวก “ล็อบบี้ยิสต์”ทั้งคอลัมนิสต์-นักวิชาการ-นักการทูต-อดีตนักการทูต ดัดแปลงข้อมูลใส่สี ตีไข่ ถล่ม“รัฐบาลบิ๊กตู่”แบบไม่ไว้หน้า

ทำเอาทั้งสหรัฐอเมริกา-สหภาพยุโรป เข้าใจการ“รัฐประหาร”ของ “บิ๊กตู่”ไปในทิศทางที่สวนทางกับความเป็นจริงพอสมควร ที่สำคัญข้อเขียนผ่านทางหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ-ข้อคิดเห็นบนเวทีโลก ที่มี “ล็อบบี้ยิสต์”เป็นตัวกลางเชื่อมโยงข้อมูล เป็นเงาสะท้อนกลับมาทำร้าย ประเทศไทย อย่างรุนแรง

สังเกตุดูจากนโยบายการต่างประเทศของ“สหรัฐอเมริกา”กับ “ไทย”ที่ไม่เผาผีกัน อาจจะส่งผลกระทบต่อการประเมิน“เทียร์ 3” การค้ามนุษย์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ขณะที่ “ประชาคมยุโรป”มีมาตรการทางเศรษฐกิจกับประเทศไทย ที่ลดระดับความสำคัญลงมา ส่งผลต่อการดำเนินกิจการระหว่างประเทศกับบรรดาประเทศที่เป็นสมาชิกของ“สหภาพยุโรป”หลายประเทศ

เกมที่ “นช.แม้ว”จ้าง ล็อบบี้ยิสต์ ในการวางหมาก-เดินสาย ได้รับผลตอบรับจากต่างประเทศเป็นอย่างดี และดีจน“รัฐบาลบิ๊กตู่”คาดไม่ถึง เมื่อคาดไม่ถึง การแก้เกมการเมืองระหว่างประเทศในระยะแรกจึงสับสนจนตั้งหลักไม่ทัน

ข้อเสนอของ “ดอน ปรมัตถ์วินัย”รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ชงให้“บิ๊กตู่”เจียดงบประมาณไปจ้างล็อบบี้ยิสต์ ที่อยู่ “ขั้วตรงข้าม”กับ “นช.แม้ว”ให้ตอบโต้ประเด็นต่างๆ ที่ถูกโจมตีแทนรัฐบาล โดน “บิ๊กตู่”ตีกลับแบบคิดทบทวนแล้วว่าการจ้างล็อบบี้ยิสต์ ไม่คุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียไป

ซึ่งแตกต่างจาก “รัฐบาลอภิสิทธิ์”ที่ตอบโต้ ล็อบบี้ยิสต์ขั้วแดง ด้วยการจ้างล็อบบี้ยิสต์อีกขั้วหนึ่ง ไปเดินเกมชนกัน จน ล็อบบี้ยิสต์ขั้วแดง ไม่สามารถทำอะไร รัฐบาลอภิสิทธิ์ ได้ถนัดมากนัก

ทว่า“รัฐบาลบิ๊กตู่”เลือกที่จะไม่จ้างล็อบบี้ยิสต์ แต่เดินเกมด้วยการใช้ “ขั้วอำนาจโลก”มาเป็นตัวบลั๊ฟให้ “มะกัน”เห็นว่า “ไทย” ไม่สิ้นไร้ไม้ตอก แม้ “มะกัน”จะผลักความสัมพันธ์จาก “เพื่อน”ให้เหลือเพียงแค่“คนเคยรู้จัก”

เมื่อไทยต้องเลือกแทงหวย ยืนเคียงข้าง“ขั้วอำนาจ” ขณะที่ “มะกัน”ต้องเลือกว่าจะเล่นเกมไหนกับประเทศไทย ปฏิกิริยาการต่อสู้จึงปรากฏให้เห็นตามหน้าสื่อ และหลังสื่อ

ว่ากันว่า “คีย์แมน”สำคัญตัวหนึ่ง ที่คอยป้อนข้อมูลให้กับ“รัฐบาลมะกัน”คือ”คริสตี เคนนีย์”อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย แต่ข้อมูลที่ “คริสตี เคนนีย์”ป้อนให้เป็นข้อมูลด้านลบต่อ“รัฐบาลบิ๊กตู่”มาก

เพราะโดยเนื้อแท้ของ“คริสตี เคนนีย์”เป็นพวกอิงแดงอยู่แล้ว และไม่มีความเข้าใจกับการ “รัฐประหาร”เลยแม้แต่น้อย เพียงแต่มองว่า รัฐประหาร ก็ทำให้“คริสตี เคนนีย์”มีทัศนคติที่ไม่ดีกับประเทศไทยทันที

“สุรพงษ์ ชัยนาม”อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำ 5 ประเทศ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ “คริสตี เคนนีย์”อย่างตรงไปตรงมาว่า“คริสตี เคนนีย์”แทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย เป็นคนที่ทำให้ “ไทย”กับ “มะกัน”ต้องทะเลาะกัน

ทว่าหลังที่ “รัฐบาลบิ๊กตู่”เปลี่ยนเกมคบหากับ “สหพันธรัฐรัสเซีย”พร้อมลงนามการค้า-ความร่วมมือหลายฉบับ ทำให้สหรัฐอเมริกา ต้องเปลี่ยนเกม เล่นไพ่หน้าใหม่ทันที

มีข่าวคราวออกมาทันทีว่า สหรัฐอเมริกาจะส่ง “เกล็น เดวีส์”มาเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย คนในกระทรวงต่างประเทศรู้จักมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน และเมื่อสืบประวัติกันให้ถี่ถ้วน จึงมี “มือดี”มาปล่อยข่าวเพื่อบลั๊ฟกลับ สหรัฐอเมริกาทันที

เพราะเกมนี้รู้กันดีว่า สหรัฐอเมริกา ต้องการทอดสะพานเชื่อมสัมพันธ์กับ “รัฐบาลบิ๊กตู่”หลังความสัมพันธ์ในช่วงที่ผ่านมามึนตึง และแย่ลงทุกวัน

อย่าลืมว่าความร่วมมือระหว่างไทยกับ สหรัฐอเมริกา มีมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่สหรัฐอเมริกาได้เปรียบไทยอยู่หลายเรื่อง หากสหรัฐอเมริกาปล่อยให้ไทย ต้องเลือก “ขั้วอำนาจ”คนที่จะสูญเสียผลประโยชน์มากที่สุดก็คือ สหรัฐอเมริกาเอง

การส่ง “เกล็น เดวีส์”ที่มีประวัติโชกโชน และเป็นนักการทูตประเภท “เขี้ยวลากดิน”ผ่านสมรภูมิเดินเกมการเมืองระหว่างประเทศในฐานะ“เอกอัครราชทูตประจำเกาหลีเหนือ”มาได้ ถือว่าดีกรีไม่ธรรมดา

งานนี้ “บารัก โอบามา”ประธานธิบดีสหรัฐอเมริกา ดีดลูกคิดคำนวณดูแล้ว ไม่คุ้มที่จะบ้าจี้เล่นเกมกับ“รัฐบาลบิ๊กตู่”เพราะหากมองเกมให้ลึก-ดูให้ไกลแล้ว ข้อมูลที่ “คริสตี เคนนีย์”ป้อนให้ ว่าหลังคืนอำนาจแล้ว“พรรคเพื่อไทย”จะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง อาจจะไม่จริงเสียแล้ว

เพราะแม้ว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง แต่สูตรการจัดตั้งรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อาจจะเปิดช่องให้ “พรรคอันดับรองลงมา”จัดตั้งรัฐบาล แข่งกับพรรคอันดับหนึ่งได้ และที่สำคัญ หากมองตามเกมการเมืองแล้ว คงไม่มีพรรคการเมืองใด กล้าร่วมหัวจมท้ายกับพรรคเพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาลอีกแล้ว

ถึงขั่วโมงนั้น พรรคเพื่อไทย อาจจะตกที่นั่งลำบาก แล้วจะกระทบกับสหรัฐอเมริกาทันที ดังนั้น สหรัฐอเมริกา ต้องเร่งเปลี่ยนเกมความสัมพันธ์กับไทย แบบกลับหลังหันทันที

แต่การส่ง“เกล็น เดวีส์”มา แสดงให้เห็นถึงความเขี้ยวของ “โอบามา”ที่ส่งสัญญาณทอดไมตรี แต่ขู่เป็นนัยว่า ไม่ได้ทอดไมตรีแบบ 100% เต็ม

เกมต่อไปต้องติดตามการประเมิน “เทียร์ 3”การค้ามนุษย์ให้ดี เพราะขณะนี้ ทีมรวบรวมข้อมูลของสหรัฐอเมริกา ส่งผลสรุปให้ถึงมือ “โอบามา”แล้ว

โดย "โอบามา" จะแถลงผลการประเมินการค้ามนุษย์ด้วยตัวเอง ในช่วงเดือนพฤษภาคม จับสัญญาณ สหรัฐอเมริกาได้เลยว่า หากประเมินปรับให้ไทย มีปัญหาการค้ามนุษย์อยู่ในระดับ “เทียร์ 2”แสดงว่า สหรัฐอเมริกามีท่าทีที่ดีขึ้นกับ“รัฐบาลบิ๊กตู่”มาก

ในทางกลับกันหาก“โอบามา”ให้ ไทยอยู่ในระดับ “เทียร์ 3”เหมือนเดิม ก็เท่ากับเป็นการหักดิบความสัมพันธ์ ไทย-สหรัฐอเมริกา ในทันที

จากนี้ไปโฟกัสอยู่ที่“โอบามา”เพียงคนเดียว ว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง"ไทย - สหรัฐอเมริกา" เดินไปในทิศทางใด


บารัก โอบามา
เกล็น เดวีส์
‘ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน’ทำให้ ‘โอบามา’ ควรค่าที่ได้ ‘รางวัลโนเบล’
ร่างข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งเห็นพ้องจัดทำกันออกมาได้ ในการเจรจาเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ควรต้องถือว่าเป็นชัยชนะทางการทูตอย่างเหลือเชื่อของสหรัฐฯ ร่างข้อตกลงดังกล่าวนี้บรรจุไว้ด้วยเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งดียิ่งกว่าที่ใครๆ จะเคยคาดหมายเอาไว้เป็นอย่างมาก ถึงแม้ไม่ได้มีการกำหนดให้ทำลายระบบโครงข่ายทางด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านไปจนหมดสิ้น เราพูดได้ว่าผู้ชนะอย่างแท้จริงจากการบรรลุร่างข้อตกลงนี้ก็คือประธานาธิบดีบารัค โอบามา เวลาผันผ่านไป 6 ปีหลังจากที่เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เขาเพิ่งมีผลงานอันสมควรแก่การได้รางวัลนี้ในคราวนี้เอง
กำลังโหลดความคิดเห็น