เครือข่ายประชาชนยืน สปช.ซ้ำ เบรกเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 ระบุไม่โปร่งใส ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้าน ก.พลังงานแจงสภาอุตฯลอยตัว LPG-NGV ตามกลไกแล้ว ย้ำไม่ได้กำหนดเพดานขึ้นราคา ยัน NGV ไม่ถึง 16บ./กก.แน่ เคาะจัดระเบียบเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯ ส่งผลให้วันนี้ (13 ม.ค.) เบนซิน-โซฮอล์91-E20 ลด 0.60 บ. โซฮอล์ 95 ลง 1 บ.ดีเซลลง 0.30 บ. E85 คงเดิม
วานนี้ (12 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.45 น. ที่รัฐสภา นางสมนึก คำผ่อง ตัวแทนเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานประเทศ และเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ ยื่นหนังสือถึง นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ผ่านนายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) หลังจากที่ทางเครือข่ายฯได้จัดเวทีสัมมนาวิชาการและรับฟังความคิดเห็น เรื่องแนวทางการบริหารจัดการพลังงานปิโตรเลียมอย่างยั่งยืน ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมมนาต่างไม่เห็นด้วยกับการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ที่ทราบว่าจะมีขึ้นในวันที่ 18 ม.ค.นี้ เนื่องจากไม่มีความโปร่งใสในการตรวจสอบการขุดเจาะปิโตรเลียม และยังขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ดังนั้นจึงเสนอให้หยุดการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ไว้ก่อน เพื่อป้องกันการทุจริตและควรจัดการระบบการบริหารงานให้โปร่งใส่และเป็นธรรม
ด้าน นายวันชัย กล่าวว่า จะรับเรื่องและจะส่งต่อไปให้คณะกรรมาธิการปฏิรูปพลังงานต่อไป ซึ่งในการประชุม สปช.ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ จะมีการพิจารณารายงานเรื่องการเปิดให้สัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ที่เสนอโดยคณะ กมธ.ปฏิรูปพลังงานอยู่แล้ว
วันเดียวกัน นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เรียกร้องให้มีการพิจารณาชะลอการปรับขึ้นราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) นั้น เรื่องนี้ตนได้หารือกับทาง นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท.แล้ว ซึ่งได้ชี้แจงราคาแอลพีจี ปัจจุบันได้เข้าสู่นโยบายลอยตัวราคา ไม่ได้มีเพดานที่จะกำหนดการขึ้นราคาแต่อย่างใด หากแต่จะสะท้อนกลไกตลาดโลก ซึ่งวันที่ 2 ก.พ.58 ได้ประกาศแนะนำราคาแอลพีจีที่ 488 เหรียญสหรัฐต่อตัน ทำให้ราคาขายปลีกยังคงที่ระดับราคา 24.16 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ส่วนเดือน มี.ค.58 เท่าที่ติดตามดูราคาตลาดโลกก็ยังไม่มีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้น แต่คงไม่ลดมากนัก ในส่วนของเอ็นจีวีนั้นได้มอบหมายให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (บมจ.ปตท.) ไปศึกษาต้นทุนโครงสร้างราคาว่า จะสามารถลดราคาลงมาได้มากน้อยเพียงใดจากโครงสร้างราคาตลาดโลกที่ลดลง ซึ่งเบื้องต้นประเมินไว้ว่า ราคาสะท้อนต้นทุนจะต้องไม่สูงถึง 16 บาทต่อ กก.จากปัจจุบันที่ 12.50 บาทต่อ กก. ส่วนจะเท่าใดนั้นจะรอผลสรุปอีกครั้ง ซึ่งตามหลักการจะให้สะท้อนกลไกเช่นกัน
“ส.อ.ท.เองไม่ได้ค้านการปรับโครงสร้าง เพียงแต่ไม่อยากให้ขึ้นราคาบ่อยครั้ง เพราะจะกระทบกำลังซื้อ เราเองก็ได้ชี้แจงไปแล้ว และเรากำลังศึกษาที่จะแยกโครงสร้างราคาน้ำมันและก๊าซให้ชัดเจน ซึ่งจะสามารถเคลียร์ราคาต้นทุนที่จะสามารถชี้แจงให้กับประชาชนได้อย่างถ่องแท้ซึ่งจะรวมถึงกรณีราคาแอลพีจี ที่บางฝ่ายออกมาระบุถึงความไม่เป็นธรรมในโครงสร้างราคาปิโตรเคมีด้วย” นายอารีพงศ์ ระบุ
สำหรับการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 12 ม.ค.58 ได้พิจารณาปรับเพิ่มอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซล 0.30 บาท/ลิตร จากเดิมจัดเก็บ 3.05 บาท/ลิตร เป็น 3.35 บาท/ลิตร และพิจารณาปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ลง 0.40 บาท/ลิตร จากเดิมจัดเก็บ 3.65 บาท/ลิตร เป็น 3.25 บาท/ลิตร ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง และเพื่อกำกับดูแลค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ตามผลดังกล่าวยังคงทำให้ผู้ค้ามีค่า การตลาดที่สามารถลดราคาขายปลีกให้กับประชาชนได้ ดังนั้น ราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 จะลดลงได้ 1 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 และ E 20 ลง 0.60 บาท/ลิตร ขณะที่น้ำมันดีเซลลดลง 0.30 บาท/ลิตร ส่วน E85 ราคาคงเดิม โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.58 เป็นต้นไป
จากมติ กบง.ดังกล่าวส่งผลราคาขายปลีกน้ำมันใหม่เป็นดังนี้ เบนซิน 95 เป็น 34.96 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 เป็น 27.90 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 เป็น 26.58 บาทต่อลิตร E 20 เป็น 25.18 บาทต่อลิตร และ E85 เป็น 22.08 บาทต่อลิตร ขณะที่ดีเซลเป็น 26.09 บาทต่อลิตร ส่วนฐานะสุทธิเงินกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 11 ม.ค.58 อยู่ที่ประมาณ 19,625 ล้านบาท ผลจากการปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้ ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 413 ล้านบาท/เดือน อย่างไรก็ตามในระยะอันใกล้นี้เมื่อเงินกองทุนฯสะสมได้มากพอจะโยกไปเป็นภาษีสรรพสามิตดีเซลส่วนหนึ่งแทน
“การจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯในส่วนของแก๊สโซฮอล์ 95 นั้นเราเห็นว่าสูงกว่าแก๊สโซฮอล์ชนิดอื่นๆ จึงลดการเก็บลง 0.40 บาทต่อลิตรเมื่อรวมกับค่าการตลาดที่ควรลดลง 0.60 บาทต่อลิตรจึงทำให้ราคาขายปลีกลงได้ 1 บาทต่อลิตร อย่างไรก็ตามแนวทางนี้ไม่ได้หมายถึงการปูทางในการยกเลิกจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 95 แต่อย่างใด โดยเรื่องนี้จะมีการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง 16 ม.ค.นี้และจะสรุปแนวทางภายใน มี.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นแผนน้ำมันที่มองทั้งพลังงานทดแทน และการจัดประเภทน้ำมันว่าที่เหมาะสมควรเหลือชนิดใดกันแน่” นายอารีพงศ์ กล่าว
วานนี้ (12 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.45 น. ที่รัฐสภา นางสมนึก คำผ่อง ตัวแทนเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานประเทศ และเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ ยื่นหนังสือถึง นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ผ่านนายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) หลังจากที่ทางเครือข่ายฯได้จัดเวทีสัมมนาวิชาการและรับฟังความคิดเห็น เรื่องแนวทางการบริหารจัดการพลังงานปิโตรเลียมอย่างยั่งยืน ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมมนาต่างไม่เห็นด้วยกับการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ที่ทราบว่าจะมีขึ้นในวันที่ 18 ม.ค.นี้ เนื่องจากไม่มีความโปร่งใสในการตรวจสอบการขุดเจาะปิโตรเลียม และยังขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ดังนั้นจึงเสนอให้หยุดการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ไว้ก่อน เพื่อป้องกันการทุจริตและควรจัดการระบบการบริหารงานให้โปร่งใส่และเป็นธรรม
ด้าน นายวันชัย กล่าวว่า จะรับเรื่องและจะส่งต่อไปให้คณะกรรมาธิการปฏิรูปพลังงานต่อไป ซึ่งในการประชุม สปช.ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ จะมีการพิจารณารายงานเรื่องการเปิดให้สัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ที่เสนอโดยคณะ กมธ.ปฏิรูปพลังงานอยู่แล้ว
วันเดียวกัน นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เรียกร้องให้มีการพิจารณาชะลอการปรับขึ้นราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) นั้น เรื่องนี้ตนได้หารือกับทาง นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท.แล้ว ซึ่งได้ชี้แจงราคาแอลพีจี ปัจจุบันได้เข้าสู่นโยบายลอยตัวราคา ไม่ได้มีเพดานที่จะกำหนดการขึ้นราคาแต่อย่างใด หากแต่จะสะท้อนกลไกตลาดโลก ซึ่งวันที่ 2 ก.พ.58 ได้ประกาศแนะนำราคาแอลพีจีที่ 488 เหรียญสหรัฐต่อตัน ทำให้ราคาขายปลีกยังคงที่ระดับราคา 24.16 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ส่วนเดือน มี.ค.58 เท่าที่ติดตามดูราคาตลาดโลกก็ยังไม่มีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้น แต่คงไม่ลดมากนัก ในส่วนของเอ็นจีวีนั้นได้มอบหมายให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (บมจ.ปตท.) ไปศึกษาต้นทุนโครงสร้างราคาว่า จะสามารถลดราคาลงมาได้มากน้อยเพียงใดจากโครงสร้างราคาตลาดโลกที่ลดลง ซึ่งเบื้องต้นประเมินไว้ว่า ราคาสะท้อนต้นทุนจะต้องไม่สูงถึง 16 บาทต่อ กก.จากปัจจุบันที่ 12.50 บาทต่อ กก. ส่วนจะเท่าใดนั้นจะรอผลสรุปอีกครั้ง ซึ่งตามหลักการจะให้สะท้อนกลไกเช่นกัน
“ส.อ.ท.เองไม่ได้ค้านการปรับโครงสร้าง เพียงแต่ไม่อยากให้ขึ้นราคาบ่อยครั้ง เพราะจะกระทบกำลังซื้อ เราเองก็ได้ชี้แจงไปแล้ว และเรากำลังศึกษาที่จะแยกโครงสร้างราคาน้ำมันและก๊าซให้ชัดเจน ซึ่งจะสามารถเคลียร์ราคาต้นทุนที่จะสามารถชี้แจงให้กับประชาชนได้อย่างถ่องแท้ซึ่งจะรวมถึงกรณีราคาแอลพีจี ที่บางฝ่ายออกมาระบุถึงความไม่เป็นธรรมในโครงสร้างราคาปิโตรเคมีด้วย” นายอารีพงศ์ ระบุ
สำหรับการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 12 ม.ค.58 ได้พิจารณาปรับเพิ่มอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซล 0.30 บาท/ลิตร จากเดิมจัดเก็บ 3.05 บาท/ลิตร เป็น 3.35 บาท/ลิตร และพิจารณาปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ลง 0.40 บาท/ลิตร จากเดิมจัดเก็บ 3.65 บาท/ลิตร เป็น 3.25 บาท/ลิตร ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง และเพื่อกำกับดูแลค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ตามผลดังกล่าวยังคงทำให้ผู้ค้ามีค่า การตลาดที่สามารถลดราคาขายปลีกให้กับประชาชนได้ ดังนั้น ราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 จะลดลงได้ 1 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 และ E 20 ลง 0.60 บาท/ลิตร ขณะที่น้ำมันดีเซลลดลง 0.30 บาท/ลิตร ส่วน E85 ราคาคงเดิม โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.58 เป็นต้นไป
จากมติ กบง.ดังกล่าวส่งผลราคาขายปลีกน้ำมันใหม่เป็นดังนี้ เบนซิน 95 เป็น 34.96 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 เป็น 27.90 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 เป็น 26.58 บาทต่อลิตร E 20 เป็น 25.18 บาทต่อลิตร และ E85 เป็น 22.08 บาทต่อลิตร ขณะที่ดีเซลเป็น 26.09 บาทต่อลิตร ส่วนฐานะสุทธิเงินกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 11 ม.ค.58 อยู่ที่ประมาณ 19,625 ล้านบาท ผลจากการปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้ ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 413 ล้านบาท/เดือน อย่างไรก็ตามในระยะอันใกล้นี้เมื่อเงินกองทุนฯสะสมได้มากพอจะโยกไปเป็นภาษีสรรพสามิตดีเซลส่วนหนึ่งแทน
“การจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯในส่วนของแก๊สโซฮอล์ 95 นั้นเราเห็นว่าสูงกว่าแก๊สโซฮอล์ชนิดอื่นๆ จึงลดการเก็บลง 0.40 บาทต่อลิตรเมื่อรวมกับค่าการตลาดที่ควรลดลง 0.60 บาทต่อลิตรจึงทำให้ราคาขายปลีกลงได้ 1 บาทต่อลิตร อย่างไรก็ตามแนวทางนี้ไม่ได้หมายถึงการปูทางในการยกเลิกจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 95 แต่อย่างใด โดยเรื่องนี้จะมีการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง 16 ม.ค.นี้และจะสรุปแนวทางภายใน มี.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นแผนน้ำมันที่มองทั้งพลังงานทดแทน และการจัดประเภทน้ำมันว่าที่เหมาะสมควรเหลือชนิดใดกันแน่” นายอารีพงศ์ กล่าว