xs
xsm
sm
md
lg

“คุณสมชาย”จะปราบคอร์รัปชั่นว่ะ? ตอน.. “บิ๊กตู่”ช่างใจกว้าง-ใจดีเสียนี่กระไร?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สอดแนมการเมือง”
โดย“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

ทุกชาติล้วนมีปัญหาเหมือนกัน คือ มีปัญหาการคอร์รัปชั่นไม่มากก็น้อย ซึ่งก่อให้เกิดความ อยุติธรรมระหว่างคนรวยที่โกงชาติ กับคนจนที่เสียภาษีเพื่อพัฒนาชาติ แต่กลับถูกโกงต่อหน้าทุกรูปแบบ!

ชาติ-ที่พลเมืองและผู้นำดีมีคุณธรรม ปัญหาการคอร์รัปชั่นน้อย-ก็โชคดีไป

ชาติ-ที่พลเมืองยากจนและด้อยในหลายมิติ แถมมีผู้นำชาติชั่วโกงกินทุกรูปแบบ ปัญหาคอร์รัปชั่นจึงเป็นวิกฤติชาติ

ดังนั้น จึงเกิด..อนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการต่อต้านการคอร์รัปชั่น ปี 2003 หรือ พ.ศ. 2546 จากผลการพิจารณาในที่ประชุมสหประชาชาติว่า ปัญหาและภัยคุกคามจากการทุจริตคอร์รัปชั่นในสังคมโลก ได้ทวีความรุนแรงขึ้น มีผลต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของสังคมโลก

หลักการของอนุสัญญานี้ คือ เพื่อป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดดังกล่าว เนื่องจากคดีทุจริตส่วนใหญ่จะมีมูลค่ามหาศาล และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ ทำลายเสถียรภาพทางการเมือง ทำลายคุณค่าของความยุติธรรม การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน รวมทั้งหลักการแห่งกฎหมาย

ดังนั้น วันที่ 9 ธันวาคมของทุกปี สหประชาชาติ (UN) ได้กำหนดให้เป็นวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล หรือ International Anti-Corruption Day บนหลักการตรงกันว่า

ทุกประเทศต้องถือว่า การคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ คือ อาชญากรรม!!!

แต่อาชญากรที่ก่ออาชญากรรม มักพยายามปิดบังอำพรางความชั่วเสมอ ดุจดั่งผู้นำชาติที่คอร์รัปชั่น มักชอบลวงหลอกผู้คนว่า ตนเป็นคนดี-ซื่อสัตย์ ถึงขั้นใช้ทุกวิธีการสร้างภาพจอมปลอม เป็นผู้ต่อต้านหรือนักปราบปรามคอร์รัปชั่นไปเลย

ชาติไทยควรเป็น“รัฐภาคี UNCAC”นานแล้ว เนื่องจากหนึ่งในวิกฤติการเมืองไทย ต้นตอเกิดจากการคอร์รัปชั่น แต่เมื่อผู้นำชาติเป็นผู้ก่ออาชญากรรมเสียเอง จึงเกรงกลัวความผิดจากการทุจริตชาติ ทำให้การเข้ารัฐภาคีฯต่อต้านคอร์รัปชั่นล่าช้า

9 กุมภาพันธ์ 2544 ทักษิณได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นยุคเริ่มต้นมหกรรมคอร์รัปชั่นอย่างมโหฬารทุกรูปแบบ แต่รัฐบาลจอมคอร์รัปชั่นนี่แหละ ที่พยายามสร้างภาพด้วยการแสร้งทำทีอยากเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฉบับนี้ โดยมีการร่วมลงนามในข้อตกลง เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2546 ตรงกับวันต่อต้านการคอร์รัปชั่นโลก

ทักษิณเป็นนายกฯตั้งแต่ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2544 ถึง 19 กันยายน 2549 โดยมิได้เข้าเป็นรัฐภาคีอนุสัญญาฯนี้ จนต้องออกจากอำนาจอย่างกระทันหัน เพราะถูก “บิ๊กบัง” นำกองทัพทำรัฐประหาร หนึ่งในเหตุผลหลักที่ว่า ขืนปล่อยให้รัฐบาลทักษิณบริหารชาติต่อไป ชาติไทยจะถูกคอร์รัปชั่นจนไม่เหลือแม้กระดูก

แต่รัฐบาลของคณะรัฐประหาร “พล.อ.สุรยุทธ์” ก็ตัดอำนาจเผด็จการรัฐสภาได้ห้วงเดียว คือ วันที่ 1 ตุลาคม 2549 ถึง 29 มกราคม 2551 เท่านั้น เมื่อมีการเลือกตั้งที่ใช้เงินซื้อเสียงได้ดังเดิม เครือข่ายทักษิณจึงกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลต่อทันที

จากรัฐบาล “สมัคร”ต่อด้วยรัฐบาล “สมชาย” รัฐบาลเครือข่ายทักษิณก็มิได้เข้าเป็นรัฐภาคีอนุสัญญาต่อต้านคอร์รัปชั่น เพราะรัฐบาลยังคงคอร์รัปชั่นกันอยู่ตลอดเวลา จนถูกประชาชนชุมนุมขับไล่อย่างต่อเนื่อง

หลัง “สมัคร”หลุดจากตำแหน่งนายกฯ “สมชาย”ได้เป็นนายกฯแทน ทั้งการคอร์รัปชั่นและการชุมนุมขับไล่รัฐบาลโดยประชาชน ยังดำเนินต่อไปจนทำให้ “สมชาย”ต้องหล่นจากเก้าอี้นายกฯ เพราะเกิดเหตุการณ์ “พลิกขั้ว”ทางการเมือง “หนุ่มมาร์ก”จึงได้เข้าเป็นนายกฯ ในวันที่ 17 ธันวาคม 2551 แทน

ยุคอภิสิทธิ์เป็นนายกฯนี่แหละ ที่ชาติไทยได้เข้าเป็นรัฐภาคีต่อต้านคอร์รัปชั่น ลำดับที่ 149 ของสหประชาชาติอย่างสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2554

ผลจากการเข้าเป็นรัฐภาคีต่อต้านคอร์รัปชั่น ช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินการเกี่ยวกับคดีระหว่างประเทศ การติดตามทรัพย์สินจากการทุจริต ที่ผู้กระทำผิดยักย้ายถ่ายเท ไปไว้ในต่างประเทศกลับคืน รวมถึงการร้องขอรัฐภาคีให้ความช่วยเหลือติดตาม และดำเนินการกับผู้กระทำผิด หรือการส่งตัวผู้ร้ายกับประเทศที่เป็นรัฐภาคีด้วยกัน ผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยที่ไม่ต้องรอการทำสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน

หลังจากนั้นเครือข่ายทักษิณยังคงเดินหน้า ทำศึกใหญ่ทางการเมืองถึง 2 ครั้ง 2 ครา ทั้งก่อการจลาจลเผาเมือง และมีกลุ่มชายชุดดำใช้อาวุธสงคราม เข่นฆ่าทหารกับประชาชนกลางเมืองหลวง รุกรบจน “นายกฯมาร์ก”ต้องยุบสภาลาก่อน แล้วนายกฯ “หนุ่มหล่อ”ก็แพ้ “พริตตี้สาว”ยับเยิน ในศึกเลือกตั้งที่ใช้เงินซื้อเสียงได้อีกตามเคย

“พริตตี้ปู”เป็นนายกฯในวันที่ 8 สิงหาคม 2554 เปิดฉากบริหารชาติแบบ “ทักษิณคิด พริตตี้ปูทำ” เพียง“จำนำข้าว”โครงการเดียว ก็เกิดทั้งการโกงและผลาญเงินชาติไปกว่า 6 แสนล้านบาท ทั้งยังทำให้การค้าข้าวของชาติไทย ซึ่งติดอันดับหนึ่งของโลกทั้งคุณภาพและปริมาณมาตลอด ต้องเสียหายย่อยยับจนพ่ายแพ้ “อินเดีย-เวียดนาม-เขมร” จนทุกวันนี้

การบริหารชาติล้มเหลว และการคอร์รัปชั่นที่โจ๋งครึ่มของรัฐบาล “พริตตี้ปู”ก่อให้เกิดการชุมนุมต่อต้านและขับไล่ จากประชาชนหลายล้านคนนานหลายเดือน โดยพลพรรครัฐบาลได้ใช้อำนาจเถื่อน ลอบทำร้ายเข่นฆ่าผู้ชุมนุมแทบทุกวัน จนบาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก

ในที่สุด ผบ.ทบ. “ตู่”ก็นำกองทัพไทย เข้า “ยึดอำนาจรัฐ”จาก “พริตตี้ปู” มาไว้ในกำมือของคสช.อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และครองอำนาจรัฐเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมานานกว่า 7 เดือน แต่การปราบปรามคนโกงชาติ ยังเป็นเพียงแค่คำพูดที่ขรึมขลัง โดยผลในทางปฏิบัติอย่างจริงจัง..ยังไม่เห็น!

ทำไมรัฐบาลประชาธิปไตยไต้หวันกับเกาหลีใต้ ที่มิได้เป็นรัฐบาลเผด็จการ มิได้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเช่น “บิ๊กตู่” ไฉนทั้งสองรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จึงไม่ได้จับแค่คนโกงชาติระดับ “ปลาซิวปลาสร้อย”เท่านั้น แต่พวกเขายังกล้าหาญ “จับปลาวาฬ”กันเลยล่ะ?

อดีตประธานาธิบดีไต้หวัน “เฉิน สุ่ยเปี่ยน” กับ อดีตประธานาธิบดี “ชุน ดู วาน” และ “โร แต วู” ของเกาหลีใต้ ถูกจับติดคุกในข้อหาคอร์รัปชั่นโกงชาติ!

รัฐบาลเผด็จการคอมมิวนิสต์จีน “สี จิ้นผิง” กล้าใช้อำนาจเด็ดขาดจับคนโกงชาติ ระดับเบอร์สองของกองทัพจีน และจับ “กรมการเมือง”ที่ใหญ่คับฟ้าหลายคน โดยเฉพาะ“โจว หย่งคัง” กับพวกอีกกว่าสามร้อยคน ซึ่งโกงเงินชาติจีนไปไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท

ประกาศิตของผู้นำจีน “สี จิ้นผิง” คือ ต้องจับคนโกงชาติทั้งระดับ “แมลงวัน”และ“เสือ” และต้องล่า “หมาจิ้งจอก”หรือคนโกงชาติจีน ที่ขนทรัพย์สินหนีความผิดไปอยู่ต่างแดนอีกด้วย

แต่ “บิ๊กตู่”ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด คือ “ผู้นำชาติไทยที่ใจกว้าง-ใจดี เสียนี่กระไร” เพราะปล่อยให้อดีตผู้นำที่โกงชาติหลายแสนล้านบาท “คนนั้น” กับ น้องสาวอดีตผู้นำ “คนนั้น” ซึ่งโกงและผลาญเงินชาติโครงการเดียวมากกว่า 6 แสนล้านบาท ให้ลอยนวลสบายใจเฉิบอยู่จนทุกวันนี้!?

โดย “ผู้นำไทย”ปล่อยให้องค์กรอิสระและหน่วยงานรัฐ ดำเนินการไปเรื่อยๆตามปกติ ทั้งๆที่รู้ว่า.. กระบวนการยุติธรรมไทยบางส่วน ยังมีการวิ่งเต้นด้วยอามิสสินจ้างนัวเนียไปหมด คดีคอร์รัปชั่นของนักการเมืองคนสำคัญๆมากมาย จึงไม่คืบหน้าหรือเดินช้ายิ่งกว่า “เรือเกลือ” อีกทั้งบางคดีมีการ “ซูเอี๋ย”จนคนโกงชาติทำท่าจะหลุดจากความผิดเอาดื้อๆ

จนอดีตนายกฯอานันท์ได้แสดงความอึดอัด ที่ตรงกับใจคนไทยในยามนี้ออกมาว่า

“..มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมอึดอัดใจ ผมเริ่มไม่ค่อยแน่ใจว่า ความพยายามที่จะดูแลปัญหาคอร์รัปชั่น (บิ๊กตู่)จริงใจแค่ไหนและจะทำหรือเปล่า..”

งานนี้..คนโกงชาติ จึงเสมือนดั่ง“ปลา”ที่ถูกขังอยู่ในกระชัง แต่เป็น“กระชังขาดโหว่”หลายแห่ง ปลา-จึงมีโอกาสมากมายที่จะเล็ดลอดออกไปว่ายลอยชายอยู่นอก“กระชัง”โน่น!


กำลังโหลดความคิดเห็น