ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ไม่ใช่แค่ชาวบ้านที่ออกอาการหมั่นไส้ แม้แต่ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือ “เนติบริกร”อย่าง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ยังออกมาติง 250 สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ให้เพลาๆ ไอเดียบรรเจิดกันบ้าง หลังอวดกึ๋นโชว์ฉลาดกันสนุกสนาน ราวกับเป็นสถาปนิกใหญ่ออกแบบประเทศไทยได้ทุกเรื่อง
แต่ละคนกล้ามใหญ่ โชว์พาวเวอร์กันน่าดู ทำเหมือนกับว่า ยุคนี้ของเป็นของพวกเราได้เวลาเขย่าเอาคืนพวกมัน แบบไล่บี้กันให้สุดซอย ลืมตัวไปว่า เขาแต่งตั้งเข้ามาเพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่สร้างปัญหาเพิ่ม มาอีหรอบนี้ ชักเริ่มทำตัวคล้ายๆ เหล่าผู้ทรงเกียรติในยุคปี 49 และ 50 ที่เดินกันผิดเจตนารมย์ จนทุกอย่างมันบิดเบี้ยวไปหมด โดยเฉพาะสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาร่างรัฐธรรมนูญ และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ในยุคนั้น ที่หันไปสวมบทจองล้างจองผลาญอีกฟากฝั่ง ผ่านการเขียนกติกาประเทศ สุดท้ายเละตุ้มเป๊ะ
มาครั้งนี้ดูมาดแต่ละคน คล้ายๆ กับเป็นปลาทองว่า ที่ผ่านมามันล้มเหลวไม่เป็นท่ากันเพราะอะไร แต่ยังมาผุดไอเดียโบร่ำโบราณตามธงในใจที่ตัวเองมีอยู่ว่า จะทำอย่างนั้นอย่างนี้ ภายใต้กติกาใหม่อย่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ที่จะมีการเขียนกันขึ้นอีกไม่นานนับจากนี้
แม้แต่ละคนจะพูดจากันไปคนละเรื่องตามความถนัด แต่โทนเสียงโดยรวมล้วนอยู่ในเนื้อเดียวกันเกือบทั้งหมด คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ฝ่ายตรงข้ามจมดินไปจากการเมืองไทย มากกว่าจะเน้นสกัดกั้นนักการเมืองชั่วๆ โดยรวม โดยไม่เจาะจงพรรคไหน สปช. หลายคนยังตั้งธงไปที่ตัวบุคคลอย่าง น.ช.ทักษิณ ชินวัตร มากกว่าระบอบชั่วร้ายที่กัดกินประเทศไทยมานานนม จมปลักอยู่กับปัจเจก
ปรากฏการณ์ สปช.โชว์อ๊อฟเรื่องการวางกรอบปฏิรูป และยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่ออกมา นอกจากจะสร้างความหมั่นไส้ให้กับคนที่พบเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล และคสช. ยังจะทำให้แนวทางที่กำลังจะเดินไปส่อเค้าจะเจ๊งยับเยินกันอีกรอบ เพราะเพียงแค่โผล่ๆ เป็นหน่อไม้ ยังไม่ถึงกับเป็นลำไม้ไผ่ดี ยังฉายภาพเผด็จการกันขนาดนี้ บั้นปลายการทำงานของ สปช. และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ มีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะเป็นบ้องกัญชา หรือไม้จิ้มฟัน
ขณะเดียวกัน ยังเป็นการตอกย้ำข้อครหาเรื่อง สปช. ยี่ห้อเผด็จการพันธุ์ผสมเทคโนแครต ที่หลายคนบ่นๆ แต่แรกว่า มีแต่พวกเดียวกัน คนหน้าเดิมๆ ทั้งนั้นว่า เป็นเรื่องจริง ของจริง เพราะมันสะท้อนผ่านแนวคิดของแต่ละคนที่ออกมาว่า อยู่ฝ่ายตรงข้าม น.ช.ทักษิณ ทั้งสิ้น ดังนั้นการปฏิรูปประเทศ และการเขียนกติกาฉบับใหม่ก็น่าจะออกมาในลักษณะเก่าๆ ยังไม่ใช่ของประชาชนทุกคนอยู่ดี ตามที่ “บิ๊กตู่”โวๆ เป็นว่าวกระเด้าลมเอาไว้
ถือเป็นการออกตัวไม่ดีเอาเสียเลย สำหรับ สปช.ชุดนี้ เพราะเพียงแค่เริ่มต้นยังทำเอาหลายคนไม่เชื่อถือศรัทธาว่า ประเทศไทยในโฉมใหม่จะออกมาเป็นของดีจริง ที่ไม่ใช่แค่ภูมิคุ้มกันโรคทักษิณ ภาพประชาธิปไตยจริงๆ ที่ใครอยากเห็น อาจจะยังคงเป็นเผด็จการซ่อนรูปอีกตามเคย
แล้วไม่ส่งผลดีในระยะยาวเสียด้วย เพราะความไม่แข็งแรงของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่โดนลดความชอบธรรมตั้งแต่ยังไม่ลงมือยกร่าง หนำซ้ำ หากออกมาเป็นในแนวเดียวกับที่มีการโชว์กึ๋นกันเอาไว้ ทั้งเรื่องเลือกนายกฯ การลดปริมาณส.ส. มีสิทธิ์สูงที่จะไม่ได้รับความเชื่อถือ และอ่อนแอ เหมือนกับรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่เวลาพรรคการเมือง หรือนักการเมืองกลับเข้ามาก็ตั้งท่าจะรื้อกันลูกเดียว ตามคอนเซปต์ ต้นไม้พิษ ผลไม้ยิ่งต้องเป็นพิษ
ขณะเดียวกัน ตอนลงมือยกร่าง อาจจะถูกกระแสต้านเป็นพายุ ไม่ใช่แค่เพียงพรรคคู่อาฆาตอย่างพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวเท่านั้น แต่หมายถึงนักการเมืองๆ คนอื่น ซึ่งอาจรวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วย เพราะต้องยอมรับว่า แนวคิดของสปช. หลายคน ทำให้นักการเมืองเสียผลประโยชน์แทบทั้งสิ้น และก็เป็นที่ทราบกันดีว่า นักการเมืองในประเทศไทย คือ หัวเชื้ออันตรายที่ไวไฟต่อการปลุกระดมมวลชน
อย่าลืมว่า เกือบทุกม็อบที่เกิดขึ้นของประเทศไทย ล้วนเริ่มต้นจะนักการเมืองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อแดง หรือ กปปส. หากมีการเล่นเกมใต้ดินล่อเป้ารัฐบาล และคสช. ต่อให้กฎอัยการศึกที่ว่า แน่ๆ โหดๆ ก็ไม่อาจต้านทานเหลี่ยมคูนักการเมืองประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงถือว่า ปรากฏการณ์ไอเดียทะลักของสปช. บางคน ไม่ส่งผลดีต่อภาพรวมเลย
แล้วก็มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกระทบชิ่งไปถึงรัฐบาลในฐานะผู้ทำคลอด สนช. สปช. ตลอดไปจนถึงกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพราะรู้กันทั่ว ต่อให้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว จะแบ่งแยกอำนาจหน้าที่กันชัดเจนระหว่างฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ แต่สุดท้ายทุกๆ เรื่องล้วนต้องมาจากการตัดสินใจของ “บิ๊กตู่” ในฐานะผู้อยู่บนหลังเสือทั้งสิ้น ฉะนั้น หน้าตาของรัฐธรรมนูญออกมาอย่างไร ผู้กุมชะตาครั้งนี้ก็ต้องโดนไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ยิ่งหากคลื่นใต้น้ำวันนี้ที่ยังมองไม่เห็น โผล่มาพรวดๆ พร้อมกันกับจังหวะพอดีที่คะแนนนิยมของรัฐบาลชุดนี้กำลังชะลูดลง จากฝีมือที่ไม่เอาอ่าวเอาทะเลแล้วล่ะก็ พาลจะทำให้ซวยกันทั้งหมดทั้งองคาพยพ จะกลายเป็นยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก กัน
เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นได้แน่ เพราะเป็นธรรมชาติของรัฐบาล ณ จุดๆ หนึ่งจะมีสภาวะอ่อนแอจากปัญหาต่างๆ ที่ถาโถม ยิ่งสถานการณ์เศรษฐกิจตอนนี้ไม่ค่อยจะดี แถมรัฐบาลยังไม่ค่อยมีโปรโมชั่นเด็ดๆ มาครองใจประชาชนแบบเป็นเนื้อเป็นหนัง ยังทำตัวต้วมเตี้ยมกันอยู่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ปัจจัยภายใน และภายนอกหากเขย่าขึ้นมาพร้อมกัน บรรลัยมาเยอะแล้ว ดูตัวอย่างสดๆ ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดนเป็นกรณีศึกษา
วันนี้ในฐานะหัวเรือใหญ่“บิ๊กตู่”จำต้องคุมเกม คุมจังหวะให้ดี ไม่ว่าจะเป็น สนช. สปช. หรือกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่ลงมือผ่าตัดทำคลอดกันมา อย่าปล่อยให้มาเพ้อเจ้อกันไม่ดูสถานการณ์ เพราะอาจเป็นการเอาเท้าราน้ำ กันแบบไม่รู้ตัว
แก้ให้มันดี ขจัดระบอบทักษิณที่ทำร้ายประเทศไทย ไม่มีใครว่า แต่จะเอาโอ่อ่าตั้งธงกันตั้งแต่ในมุ้งว่า จะสกัดกั้น น.ช.ทักษิณ กันลูกเดียว แล้วเมื่อไรปัญหามันจะจบจะสิ้นกันเสียที ยังมองปัญหากันมิติเดิมๆ อย่าลืมว่า หน้าตาไม่ดีอยู่แล้ว แถมถูกมองว่า เป็นฝั่งตรงข้าม ได้โอกาสมาทำหน้าที่เพื่อประเทศทั้งที ถ้ามาทำชุ่ยๆ อีก มันไม่คุ้ม
ถ้าแค่นี้ทำกันไม่ได้ กลับบ้านไปใช้เงินเมียที่แต่ละคนรวยๆ กันทั้งนั้นเถอะ